วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

10 อันดับ...สุดยอดมหาวิทยาลัยราชภัฏในไทย

 ผลจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจาก “Webometrics Ranking of World Universities" หรือ "Ranking Web of World Universities" เว็บไซด์การจัดอันดับชื่อดังของประเทศสเปน ได้ทำการสำรวจมาตรฐานของมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย โดยวัตถุประสงค์ในการจัดทำ Ranking นี้ มีกลุ่มเป้าหมายสำคัญอยู่ที่บรรดาผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ web performance ของสถาบันการศึกษาใด ได้ลำดับที่ต่ำกว่าความคาดหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นเลิศทางวิชาการของสถาบันนั้นๆ ผู้บริหารของสถาบันควรมีการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายด้านการจัดทำเว็บไซต์เพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิตของสิ่งตีพิมพ์เผยแพร่ทางวิชาการ ในรูปแบบ electronic publications ให้มากยิ่งขึ้น
       
        และจากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย Life on campus ได้ทำการแยกย่อยออกมาเป็นส่วนของ “มหาวิทยาลัยราชภัฏ” โดยเฉพาะ จัดเป็น 10 อันดับมหาวิทยาลัยราชภัฏชั้นนำในประเทศไทย โดยเรียงจากอันดับในประเทศ จะมีมหาวิทยาลัยราชภัฏใดบ้างที่ได้มาตรฐานตรงกับเกณฑ์การประเมินของ Webometrics ในปี 2557 นี้ไปชม...
       
       อันดับ 10 : มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (Lampang Rajabhat University)
 
 อันดับ 10 เป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง มหาวิทยาลัยอันดับที่ 49 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับของ webometrics ประจำปี 2557 เดิมชื่อว่า "วิทยาลัยครูลำปาง" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2514 และได้เปลี่ยนเป็น "สถาบันราชภัฏลำปาง" ตามพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ.2538 จนกระทั่งได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 ทำให้สถาบันราชภัฏลำปางปรับเปลี่ยนฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง" ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางจัดการศึกษาระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตในสาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาศิลปศาสตร์, วิทยาศาสตร์, บริหารธุรกิจ และสาขาการบัญชี
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.lpru.ac.th/index.php
       
       อันดับ 9 : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (Uttaradit Rajabhat University)


 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งแรกและเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2479 ในนาม "โรงเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตร จังหวัดอุตรดิตถ์" ต่อมาปี พ.ศ. 2518 จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็น "วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์" เปิดสอนถึงระดับปริญญาตรี หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต และเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏในปี พ.ศ.2538 วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์จึงมีชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏอุตรดิตถ์" ต่อมาในปี พ.ศ.2547 ได้มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ยกฐานะสถาบันราชภัฏขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์”มาจนถึงปัจจุบัน เปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอก และวิทยาลัยนานาชาติ รวมทั้งเปิดอีก 2 วิทยาเขตที่จังหวัดแพร่ และน่าน นั่นเอง โดยจากการจัดอันดับในปี 2557 นี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ติดอยู่ในอันดับที่ 45 ของประเทศไทยอีกด้วย
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.uru.ac.th
       
       อันดับ 8 : มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (Rambhai Barni Rajabhat University) 

มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี บริเวณวังสวนบ้านแก้ว อันเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ซึ่งพระราชทานให้กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งเป็นวิทยาลัยครูจันทบุรี ตั้งขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2515 โดยใช้ชื่อว่า“วิทยาลัยครูจันทบุรี” ต่อมาใน พ.ศ.2528 ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เป็นนามของวิทยาลัยว่า “วิทยาลัยรำไพพรรณี” เปลี่ยนมาเป็น “สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี” และ “มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี” ในปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.rbru.ac.th/rb/indexrbru.php
       
       อันดับ 7 : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (Nakhon Pathom Rajabhat University) 

มาถึงอันดับ 7 มหาวิทยาลัยราชภัฏที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยในอันดับที่ 41 ของไทย จาก webometrics ตกเป็นของ “มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม” โดยเริ่มตั้งเป็น “โรงเรียนสตรีฝึกหัดครูนครปฐม” ในปี พ.ศ. 2479 รับเฉพาะนักเรียนหญิง เปิดสอนชั้นฝึกหัดครูประชาบาล หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนฝึกหัดครูนครปฐม” มาเป็น“วิทยาลัยครูนครปฐม” และ “สถาบันราชภัฏนครปฐม” ในปี พ.ศ.2535 และเปลี่ยนชื่อเป็น“มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม” ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ เมื่อปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน เปิดสอนทั้งหมด 7 สาขาวิชา รวมทั้งหลักสูตรสำหรับนักศึกษาต่างประเทศ มีนักศึกษาจีน นักศึกษาเวียดนาม จำนวนกว่า 200 คน 
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.npru.ac.th
       
       อันดับ 6 : มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (Pibulsongkram Rajabhat University) 

มหาวิทยาลัยราชภัฏที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก ติดอยู่ในอันดับที่ 39 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่มราชภัฏอยู่ในอันดับที่ 6 ของประเทศ โดยมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ด้วยความต้องการที่จะผลิตครูเพิ่มขึ้นในมณฑลพิษณุโลก ใช้ชื่อว่า “พิษณุโลกพิทยาคม” โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม” ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ปี พ.ศ.2547 มาจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย คณะครุศาสตร์, คณะเทคโนโลยีการเกษตร, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, คณะวิทยาการจัดการ, คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และบัณฑิตวิทยาลัยในระดับปริญญาโท และปริญญาเอกอีกหลายสาขาด้วยกัน
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.psru.ac.th
       
       อันดับ 5 : มหาวทิยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (Buriram Rajabhat University) 

 มหาวิทยาลัยอันดับที่ 35 ของประเทศไทยจาก webometrics และอยู่ในอันดับที่ 5 มหาวิทลัยราชภัฏที่ดีที่สุดในประเทศ นั่นคือ "มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์" เริ่มก่อตั้งมาจาก“วิทยาลัยครูบุรีรัมย์” เมื่อปี พ.ศ.2514 และได้เปลี่ยนมาเป็น “สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์” เมื่อปี พ.ศ.2538 จนกระทั่งเปลี่ยนเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์” ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ในปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เปิดสอนหลักสูตรต่างๆ มากมายตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอก ประกอบด้วย 6 คณะ และ 1 วิทยาลัย
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.bru.ac.th
       
       อันดับ 4 : มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (Phranakhon Rajabhat University) 

 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ที่เรียกได้ว่าเป็น “สถาบันการผลิตครูแห่งแรกของประเทศไทย” ที่สถาปนาขึ้นเป็น “โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์” โดยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2435 และได้เปลี่ยนชื่อหลายครั้ง เช่น โรงเรียนฝึกหัดครู, โรงเรียนฝึกหัดครูประถมพระนคร, โรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร, วิทยาลัยครูพระนคร และได้เปลี่ยนมาเป็น “สถาบันราชภัฏพระนคร” ในปี พ.ศ. 2535 จนกระทั้งมาเปลี่ยนเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร” เมื่อปี พ.ศ. 2547 ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศไทย ด้วยชื่อเสียงและมาตรฐานที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ในปี พ.ศ.2557 จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยจากwebometrics มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครติดอยู่ในอันดับที่ 34 ของประเทศ และเป็นอันดับที่ 4 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศไทยอีกด้วย 
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.pnru.ac.th
       
       อันดับ 3 : มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (Suan Dusit Rajabhat University) 

อันดับ 3 จัดอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีชื่อเสียงในเรื่องการโรงแรมและธุรกิจบริการ สมัยแรกเริ่มจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนการเรือนแห่งแรกของประเทศไทย ชื่อ “โรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือน” สังกัดกองอาชีวศึกษา กรมวิชาการ กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ) ในปีพ.ศ. 2477 ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี จากโรงเรียนมัธยมวิสามัญการเรือนจนมาเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต” มีความโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศด้วยกัน 4 ด้านคือ ด้านการศึกษาปฐมวัย ด้านอุตสาหกรรมอาหาร ด้านอุตสาหกรรมบริการ และพยาบาลศาสตร์ นอกจากหลักสูตรการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอก แล้วยังมีโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ และโรงเรียนการเรือน ให้นักศึกษาที่สนใจได้เลือกเรียนอีกด้วย
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.dusit.ac.th
       
       อันดับ 2 : มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (Yala Rajabhat University) 

สถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นพัฒนาท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น “มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา” มหาวิทยาลัยราชภัฏอันดับ 2 ของประเทศไทย โดยติดอยู่ในอันดับที่ 27 ของมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย จากการจัดอันดับโดย webometrics ของประเทศสเปน เดิมที่จัดตั้งเป็น “โรงเรียนอาชีพกสิกรรม” ประจำจังหวัดยะลา เปิดสอนนักเรียนชั้นประถมศึกษา ต่อมาพัฒนาเป็น “โรงเรียนฝึกหัดครู” ในปี พ.ศ. 2477 และยกฐานะขึ้นเป็น “วิทยาลัยครู” ซึ่งมีการปรับปรุงการเรียนการสอนจนสามารถเปิดสอนถึงระดับปริญญาตรีได้ ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เปลี่ยนชื่อเป็น “สถาบันราชภัฏ” และพัฒนามาเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา” ในปัจจุบัน เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก 
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม : www.yru.ac.th/web54/
       
       อันดับ 1 : มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (Suan Sunandha Rajabhat University) 

 อันดับหนึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏของประเทศไทย จากผลการจัดอันดับโดย webometricsประจำปี 2557 ตกเป็นของ “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา” มหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่พระราชฐานของพระราชวังดุสิตในรัชกาลที่ 5 มาก่อน แรกเริ่มเดิมทีมาจากการก่อตั้งเป็น “โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย” ในปี พ.ศ.2480 ต่อมาจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็น“วิทยาลัยครูสวนสุนันทา" และในปี พ.ศ. 2538 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ ทั่วประเทศ วิทยาลัยครูสวนสุนันทา จึงมีชื่อว่า “สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา" และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในปี พ.ศ.2547 กับพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ยังผลให้สถาบันราชภัฏสวนสุนันทายกฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" นับแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจะเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏอันดับหนึ่งของประเทศไทยแล้ว ยังติดอยู่ในอันดับที่ 25 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย
       
       ข้อมูลเพิ่มเติม :
       http://ssru.ac.th/index.php/th/

       
       เกณฑ์การประเมินของ webometrics มีดังนี้
       
       1. PRESENCE (20%) = เนื้อหาการตีพิมพ์, จำนวนเว็บเพจ จากเว็บไซต์ทั้งหมด รวมทั้งเว็บแบบไดนามิก (วัดด้วย Google)
       2. OPENNESS (15%) = จำนวนแฟ้มข้อมูล หรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั้งหมดที่อยู่ภายในdomainเดียวกัน ในรูปของ Acrobat (pdf), PostScript (ps), MS Word (doc), MS Powerpoint (ppt), MS Excel (xls) 
       3. IMPACT (50%) = จำนวน external links ที่ได้รับ (inlinks) มีการเชื่อมโยงหรืออ้างอิงมาจากภายนอก สืบค้นโดยใช้ search engines เช่น Yahooและใช้ syntax ในการค้น
       4. EXCELLENCE (15%) = จำนวนบทความวิชาการ และการอ้างอิงบทความทางวิชาการ ที่ปรากฎภายใน domain ของมหาวิทยาลัย และสามารถสืบค้นได้ด้วย google scholar 
       
       ที่มา : http://www.webometrics.info/en/asia/thailand
เรียบเรียง   Manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น: