วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

รับตรงทั่วประเทศ ภาคปกติ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา 58

รับตรง คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา 58
คณะวิทยาศาสตร์ ศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
เห็นสมควรให้มีการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
ภาคปกติ ในโครงการรับตรง ประจำปีการศึกษา 2558 จำนวน 220 คน
เปิดรับสมัครถึง 10 เมษายน 2558

รับตรง คณะวิทยาศาสตร์ โครงการเพิ่มพิเศษ ม.ศิลปากร 58

รับตรง โคงการรับนักศึกษาวิทยาศาสตร์เพิ่มพิเศษ
คณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร  ประจำปีการศึกษา 2558
เปิดรับสมัคร  30 มีนาคม – 18 พฤษภาคม 2558
หน้าเว็บไซต์หลัก  http://online.sc.su.ac.th/

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

น้องแชมป์ กสพท 58 เผยเทคนิคการเตรียมสอบ +!!

แชมป์นร.‘หมอศิริราช’เผยเทคนิคสอบเข้าหนุนเท่าเทียมรพ.รัฐ-เอกชน : ชุลีพร อร่ามเนตรรายงาน

            ตามที่กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ได้ดำเนินการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2558 และได้ประกาศผลสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม กสพท. คือ "น้องเซี้ย" นายกิจเกษม เกียรติกุลวัฒนา นักเรียนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งสามารถทำคะแนนได้สูงสุด 84.6511 คะแนน ในการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.)

            เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มม. เป็นวันสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายของนักเรียนแพทย์ที่สอบเข้าได้ น้องเซี้ย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เชื่อว่าจะสอบได้อันดับหนึ่งของกลุ่มแพทย์ เพราะมองว่ายังมีคนเก่งอีกมาก ก่อนหน้านี้ก็สอบโควตาคณะแพทยศาสตร์ ได้ทั้งที่ ม.ขอนแก่น และคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และติดสำรองแพทย์ทหารอากาศ แต่ได้สละสิทธิ์ เพราะมีความใฝ่ฝันที่จะเข้าคณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ 

            สำหรับเคล็ดลับในการสอบ ได้พยายามทำข้อสอบเก่าและแบบฝึกหัด โดยจดข้อผิดพลาดที่ทำแล้วมาทบทวนอีกครั้ง ส่วนวิชาที่คิดว่าแม่นยำแล้วก็จะไม่ทบทวนซ้ำๆ แต่จะนำเวลาไปทบทวนในวิชาที่ยังไม่ค่อยถนัด

            “ผมไม่ได้เป็นที่เด็กที่มุ่งแต่เรียน เวลาอยู่ในโรงเรียนจะทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วย เพราะกิจกรรมทำให้เรามีสังคม รู้จักแบ่งเวลาเรียน ส่วนการเรียนกวดวิชาจะมองว่าไม่สำคัญก็ไม่ได้ เพราะบางโรงเรียนครูสอนไม่ชัดเจน การอ่านเองก็คงทำได้ไม่ดีต้องเรียนกวดวิชา ซึ่งผมเรียนพิเศษเฉพาะตอนที่เข้าสอบแอดมิชชั่นส์ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญต้องโฟกัสการเรียนในห้องเรียนมากกว่า” น้องเซี้ย กล่าว

            นักเรียนผู้สอบเข้าแพทย์ศิริราช ได้อันดับหนึ่ง บอกด้วยว่า ที่ผ่านมา ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนตลอด แต่เมื่อได้มาเห็นคนไข้ในโรงพยาบาลรัฐต้องรอคิวนอนอยู่หน้าห้องตรวจเป็นจำนวนมาก สภาพอากาศร้อน ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง จึงอยากเห็นภาพการให้บริการของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนไม่ต่างกัน และให้การรักษาคนไข้เท่าเทียมกัน ส่วนการศึกษาอยากให้การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมมากขึ้น ไม่ใช่เน้นท่องจำเนื้อหา

            สำหรับผู้ที่ทำคะแนนได้อันดับ 2 ในการเข้าคณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ คือ "น้องเคน" นายอัคคภัทร์ จารุชัยยง ได้ 83.27 คะแนน อันดับ 3 นายปารินทร์ วงศ์สานุภา ได้ 83.25 คะแนน และอันดับ 5 น.ส.ภัทรศยา วีระโชติสกุล ได้ 82.71 คะแนน ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

            น้องเคน ระบุว่า อยากเรียนแพทย์ เพราะทุกครั้งไปโรงพยาบาลได้เห็นการทำงานของแพทย์ แล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละ ซึ่งอยากมีโอกาสแบบนั้นบ้าง เมื่อขึ้น ม.ปลายจึงมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพื่อสอบเข้าแพทย์ โดยหมั่นทบทวนบทเรียน ฝึกทำโจทย์ วิชาไหนที่ไม่ถนัดก็จะให้เวลามากหน่อย และจะกำหนดตารางชีวิตของตัวเองว่าต้องอ่านหนังสือให้ได้ทุกวัน อ่านวันละกี่นาทีกี่ชั่วโมงก็ได้แต่ขอให้ได้อ่าน ไม่ได้เคร่งเครียดกับตัวเองว่าต้องอ่านให้ได้มากๆ

            “ช่วงชีวิต ม.ปลายเป็นช่วงที่สนุกที่สุด เราจะเอาแต่เรียนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเรียน เล่น และมีความรับผิดชอบ อย่างผมเป็นคณะกรรมการของโรงเรียน เล่นกีฬาหลังเลิกเรียน และเมื่อกลับบ้านก็อ่านหนังสือบ้าง ฝึกทำโจทย์บ้าง ฝากทุกคนให้ตั้งใจเรียนในห้องเรียน แต่ถ้าพลาดในการสอบ เศร้าได้ เสียใจได้ แต่ต้องลุกขึ้นเพื่อเดินตามความฝันของเราต่อไป เพราะชีวิตของคนเราไม่ได้อยู่หยุดเพียง ม.ปลาย หรือจะเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น” น้องเคน กล่าว

            ส่วนอนาคต “เคน” อยากเป็นหมอรักษาโรคมะเร็ง หรือทำงานวิจัยเกี่ยวกับด้านมะเร็ง เพราะอยากช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งให้มีความสุขในการใช้ชีวิต โดยเขามุ่งมั่นจะเป็นแพทย์ที่รักษาคนป่วยทั้งกายและจิตใจ ไม่ใช่รักษาเพียงกายเท่านั้น

            ด้านคนเก่งอีกราย น้องหมี หรือนายปารินทร์ วงศ์สานุภา กล่าวว่า แรงจูงใจที่อยากเรียนแพทย์ เพราะเป็นอาชีพที่ท้าทาย ได้รักษาและบำบัดทุกข์ให้คนไข้ ซึ่งตั้งใจอยากเป็นศัลยแพทย์ ส่วนการทำข้อสอบจนได้คะแนนเป็นอันดับ 3 ของคณะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ทบทวนเนื้อหาทั้งหมด รู้จักบริหารเวลาอย่างคุ้มค่า และไม่เรียนพิเศษ ซึ่งการเรียนพิเศษอาจจะสำคัญกับบางคน แต่โดยส่วนตัวคิดว่าสามารถอ่านหนังสือและทบทวนด้วยตนเองได้

            "มุมมองต่อวงการแพทย์อยากให้มีแพทย์ทางด้านวิจัยมากขึ้น เพื่อพัฒนาวงการแพทย์ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการศึกษา รู้สึกว่าแม้จะมีการสอบคัดเลือกมากขึ้น แต่ก็อาจเป็นโอกาสทางเลือกให้แก่เด็ก ถ้าจะปรับควรปรับเรื่องจำนวนครั้งในการสอบให้เหมาะสมและพัฒนาข้อสอบให้มีคุณภาพมากขึ้น" น้องหมี ให้ความเห็น

            ขณะที่ น้องเอน่า หรือ น.ส.ภัทรศยา วีระโชติสกุล กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่อยากเรียนแพทย์ว่า ต้องการรักษาคนในครอบครัว ซึ่งอาม่าป่วยเป็นอัลไซเมอร์ อยากเป็นแพทย์รักษาทางด้านสมอง และจากการติดตามข่าวสารทางการแพทย์ เห็นได้ว่ามีอัตราผู้ป่วยทางด้านสมองมากขึ้น ถ้าเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้ศึกษาค้นคว้าวิจัยทางด้านนี้คงเป็นเรื่องที่ดี สำหรับเทคนิคการเตรียมตัวสอบ ส่วนใหญ่เน้นการทบทวนบทเรียน ฝึกทำโจทย์ และวางแผนของตัวเอง ซึ่งโชคดีที่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไรมุ่งมั่นตามเป้าหมายที่วางไว้

            “ยอมรับว่าในช่วงเตรียมตัวสอบมีเหนื่อยและท้อในการอ่านหนังสือเหมือนกัน แต่โชคดีที่ได้พ่อ แม่ คนในครอบครัว คอยให้กำลังใจ และคำแนะนำ จึงอยากฝากพ่อแม่ทุกคนว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพ มีความสามารถ พ่อแม่ควรให้กำลังใจ คอยสนับสนุน อย่ากดดันลูกๆ เพราะตอนนี้ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคณะมีคุณภาพ ศักยภาพในการเรียนการสอนไม่ต่างกัน ทุกคนสามารถเรียนที่ไหนก็ได้เพียงแต่ขอให้ตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นจริงๆ” น้องเอน่า กล่าวปิดท้าย

เทคนิคพิชิตข้อสอบ ielts ภายใน 20 วัน : วันที่ 1-5

สวัสดีทักทายหนุ่มสาวชาว Unigang ทุกคนจ้า ไหน...ใครกำลังเตรียมตัวสอบ IELTS อยู่ หรือ
ใครมีแผนเรียนต่อเมืองนอก อย่างประเทศอังกฤษ คะแนน IELTS ก็ต้องมีนะจ๊ะ
อ๊ะ! แต่มีเวลาเตรียมตัวจำกัดอ้ะทำยังไงดีน้า? มาถูกที่แล้ว เรามีเทคนิคดี ๆ ให้เราเตรียมตัวสอบ IELTS ได้ใน 20 วัน! พร้อมแล้ว เริ่มลุยกันเลย Let's go!
ก่อนอื่นต้องแนะนำการสอบ IELTS ก่อนนะว่า มันคือการสอบวัดความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษทุกทักษะเลย ได้แก่ Listening Reading Writing และ Speaking โดยคะแนนที่เราจะได้เค้าจะให้มาเป็น Band Score หรือพูดง่าย ๆ ก็คือระดับการใช้ภาษา ตั้งแต่ 1 ถึง 9 นะจ๊ะ โดยเฉลี่ยแล้ว ถ้าต้องการเรียนต่อปริญญาโท มหาวิทยาลัยในประเทศและเมืองนอก เฉลี่ยคะแนนที่ต้องการอยู่ที่ 6.5 ขึ้นไป
ใน 20 วันของการเตรียมตัว ทักษะที่ต้องฝึกทุกวันคือ Listening และ Speaking จะฝึกจากการฟังคลื่นวิทยุที่มีภาษาอังกฤษ หรือดูหนัง หรือจาก Youtube หรือดูข่าว BBC มีหลายวิธีมากมาย และปัจจุบันมี Application ในมือถือช่วยฝึกฟังและพูดภาษาอังกฤษ คือทำยังไงก็ได้ ให้ 20 วันนี้เราคุ้นเคยกับสำเนียงภาษาอังกฤษมากที่สุด โดยเฉพาะสำเนียงแบบอังกฤษแท้ ๆ เพราะ IELTS จะสอบฟัง และสอบพูด จากฝรั่งสำเนียงอังกฤษแท้แม่ให้มา ส่วน Speaking ไม่ยาก ลองพูดตาม เอาเท่าที่เราจะพูดตามได้ สิ่งที่เราจะได้ฝึกคือ Intonation หรือการพูดเสียงหนักเบา ในภาษาอังกฤษ
เอาล่ะ พอรู้กันคร่าว ๆ และตกลงกันนิดหน่อยแล้ว เริ่มวันแรกกันเลยจ้า
Day 1 - Day 4 : Grammar Preparation
4 วันแรกของการเตรียมตัว เราควรจะทบทวนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน แต่ไม่ต้องทบทวนทุกเนื้อหานะ เอาที่สำคัญสำหรับใช้ในการสอบ IELTS ก็พอ มีอะไรบ้าง? เราได้จัดตารางมาให้แล้ว
Day 1 - Noun, Pronoun + ฝึกฟัง ฝึกพูด
Day 2 - Verb Tenses, Modals + ฝึกฟัง ฝึกพูด
Day 3 - Agreements, Comparison, Modifiers + ฝึกฟัง ฝึกพูด
Day 4 - Modifiers, Conditional, Passive Voice + ฝึกฟัง ฝึกพูด
ทั้ง 4 วันนี้เป็นการปูพื้นฐานให้แน่น รองรับการสอบเขียนในลำดับต่อไป
Day 1 : Noun, Pronoun 
คำนาม และ คำสรรพนาม เป็นเรื่องแรก ๆ ที่เราถูกสอนตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ทบทวนซิว่า คำนามมีกี่ประเภท หลัก ๆ ก็มี 2 ประเภท คือ คำนามนับได้ และ คำนามนับไม่ได้ หลักการเติม a, an, the คำนามที่นับได้สามารถเติม a, an ได้ แต่ถ้านับไม่ได้เราไม่เติม คำนามนับไม่ได้ที่ใช้บ่อย ๆ ก็เช่น information, news, furniture ถ้านับไม่ได้จะอยู่ในรูปพหูพจน์ เอามาเติม s ไม่ได้ และเรื่อง คำสรรพนาม I, You, We, They, He, She, It พวกนี้ใช้เป็นประธาน ถ้าเป็นกรรมของประโยคก็ต้องใช้อีกแบบ รวมไปถึงพวกคำเรียกแทนอื่น ๆ เช่น Everyone, Everything, Someone, Something, Anyone, Anything, No one, Nothing และพวก Each, Every ที่ต้องเน้นพวกนี้ เพราะสำคัญในการเขียน เราอาจจะใช้คำสรรพนามพวกนี้แทนสิ่งที่เราพูดไปก่อนหน้า
Day 2 : Verb Tenses, Modals
หลังจากวันแรกที่เรารู้คำนามและคำสรรพนามแล้ว วันนี้เราจะลุย คำกริยา และการผันตามเวลา (Tense) หลัก ๆ มี 3 เวลาคือ Present, Past, Future และทั้ง 3 เวลาก็แบ่งเป็นเวลาละ 4 แบบคือ Simple, Continuous, Perfect, Perfect Continuous ใน 12 Tense ที่เราควรจะโฟกัสมากที่สุดคือ Past Tense เพราะสำคัญสำหรับการเขียนมาก อย่างเวลาสอบเค้าจะให้กราฟเรามาเขียน และมักจะเป็นเรื่องที่เกิดไปแล้วในอดีต รองลงมาคือ Present Tense โดยเฉพาะ Present Simple ที่ใช้ในการบอกสิ่งที่เป็นจริงเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง ใช้กับ Fact 
Modals หรือ Verb ช่วยพวก can, could, shall, should, may, might, will, would, ought to เพื่อบอกความหมายว่าเป็นการแนะนำ หรือคาดคะเน
Day 3 : Agreements, Comparison, Modifiers
ในวันที่สาม เอา 2 วันแรกมารวมกัน ฝึก Agreements หรือการผันกริยาตามประธาน สำคัญมาก ๆ เป็นเรื่องที่ต้องแม่นกันเลย เพราะเวลาวัดระดับการเขียน จุดที่เป็น Agreements เยอะแน่ ๆ เช่น Everyone goes to work in the morning. go ตัวนี้เมื่อผันกับ Everyone ต้องเติม es เพราะ Every ตามด้วยคำไหนก็ตามแต่ จะเป็นคำนามเอกพจน์เสมอ
ต่อมา Comparison ฝึกการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ (Adjectives) คำกริยาวิเศษณ์ (Adverbs) เพื่อเปรียบเทียบกราฟ หรือแผนภูมิใน Writing เค้าจะให้ข้อมูลแล้วให้เขียนบรรยายอันไหนเยอะกว่าอันไหน สถิติอันไหนแย่กว่า Adj. กับ Adv. เลยเข้ามามีบทบาทมาก พวกดีกว่า แย่กว่า better, worse คำเปรียบเทียบแบบเปลี่ยนรูปอันนี้ควรจะทบทวนเลย และระวัง อย่าเปรียบเทียบเติมขั้นกว่าซ้ำ ยังไง? ก็อย่างจะบอกว่าคนนั้นดูดีกว่า That person is more nicer. ผิดนะจ๊ะแบบนี้ มีทั้ง more และ nicer ขั้นกว่า 2 ชั้นเลย เอามาชั้นเดียว ที่ถูกต้องแค่ That person is nicer. พอแล้ว และขั้นสูงสุด ต้องเติม The ไว้ข้างหน้าด้วยนะ
Modifiers พวกคำขยาย Adj. Adv. ต่าง ๆ ให้พยายามจำเยอะ ๆ จึงต้องแบ่งให้จำกัน 2 วันคือ Day 3 กับ Day 4 พวกนี้จะใช้ในการบอกความเข้มข้นของคำ อย่างถ้าเราบอกว่า ยาก เฉย ๆ ก็อาจจะยังไม่เจาะจง ใส่คำว่า quite (adv.) คำขยายเข้าไปเป็น quite difficult ความหมายก็จะกระจ่างมากขึ้นว่า อ๋อ ยากแบบค่อนข้างยากนะ
Day 4 : Modifiers, Conditional, Passive Voice
ทบทวน Modifiers ต่อจาก Day 3 และอ่านเพิ่มเติมคำขยาย ยิ่งมีเยอะ ยิ่งแสดงถึงพลังในการใช้ภาษาอังกฤษของเรา Conditional (ประโยคเงื่อนไข) พวก if-clause พวก wish ว่าต้องใช้ยังไง อันนี้เอาไว้เขียนแสดงความคิดเห็นแบบ agree or disagree ได้ เอาไว้ให้คนตรวจให้คะแนนเห็นภาพมากขึ้น
Passive Voice ประโยคที่เน้นว่ากรรมถูกกระทำ ปกติเราคุ้นเคยกับการเขียนแบบ Active Voice เช่น He ate a slice of cake. แต่ถ้าเราจะไม่เน้นคนกิน เน้นให้เห็นว่าเค้กมันถูกกินไปชิ้นนึงแหละ ก็ต้องทำให้เป็นโครงสร้าง V. to be + V.3 ให้เป็น A slice of cake was eaten. แบบนี้ มักจะใช้กับประโยคที่เราไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นประธานน้า
Day 5 : Writing Day 1 - Connector, Agree or Disagree Essay
มาถึงวันที่ 5 วันนี้เราจะเอาศาสตร์ไวยากรณ์ทั้ง 4 วันก่อนมาบูรณาการกัน 555 คำยากเชียว เอามาใช้จริงกันซักที วันนี้ให้ฝึกคำเชื่อม Connector หรือ Conjunction เพื่อเชื่อมโยงความหมาย ตัวที่ควรจะฝึกกันอย่างแรกคือ พวกคำเชื่อมที่เป็นลำดับ First, Second, Third, Finally และพวกคำเชื่อมโยงที่เห็นเหตุเป็นผลกัน อย่าง Because, Since, So, Therefore
แล้วจากนั้นมาฝึกเขียน Essay กัน
แบบฝึกเขียนเรียงความแรกสำหรับ IELTS คือการเขียนแสดงความเห็นกับ Agree or Disagree Essay ลองนึกโจทย์ที่เกี่ยวกับ Agree or Disagree มา อย่างรอบที่เราไปสอบได้เรื่องที่ว่า คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่า เทคโนโลยีทำให้เด็กมัธยมฉลาดขึ้น เป็นเรียงความแสดงความคิดเห็น สิ่งที่ต้องจำไว้คือ เราต้องมี Main Idea ที่ชัดเจน มีจุดยืนชัดไปเลยว่า เราเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ยังไง จากนั้นพยายามเขียนอธิบายเหตุผลเพื่อสนับสนุนความคิดนี้ให้ชัดเจน และมีเหตุผล แต่ในขณะเดียวกัน ต้องเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์ โดยเอา 4 วันที่ผ่านมานั้น มาเขียนให้ถูกต้อง ผันตามประธาน และให้มีคำเชื่อม Connector เพื่อความราบรื่น ต่อเนื่อง ดูเป็นเอกภาพหรือเป็นเรื่องเดียวกัน

ขอขอบคุณบทความดีดีจาก  https://www.chulatutor.com/ielts.php

30 อันดับ แอดมิชชั่น 57 : คณะ-สาขาที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นสูงสุด // วิธีดูคณะอันตรายเหล่านี้

30 คณะ-สาขาเหล่านี้ เคยทำให้ใครหลายคนเจ็บมาแล้ว เพราะคิดว่าคะแนนมากกว่าปีก่อนเยอะมาก 3-4 พันคะแนนแล้วคิดว่าน่าจะไม่หลุด  โอ๊ ผลสุดท้ายคะแนนขึ้นที 5-6 พัน แบบนี้น้ำตาตกในเลย // อันดับ สถาบันของรัฐได้แก่ มศว การปกครอง ที่คะแนนขึ้นจาก ปี 56 ถึง 82xx คะแนน // วิธีเลือกคณะแบบนี้อย่างปลอดภัย !!??
ปล. ตารางนี้เป็นข้อมูลเฉพาะ ม.รัฐ นะครับไม่รวม ราชภัฏ ราชมงคล
- จุฬา รปศ นี่เด็ดเลย คะแนนลดลงเยอะจาก ปี 56 พอ 57 คนเลยแห่สมัคร ถึง 17xx คน คะแนนก็เลยเด้งกลับ
- จะเห็นได้ว่า คณะ-สาขา ไหนสถาบันดัง มีคะแนนน้อยๆ นี่ต้องระวังด้วยนะ
ให้กดขยายรูปนะครับ  
สรุปคณะ-สาขา ที่คะแนนจะขึ้นสูงแบบผิดปกติ
- คะแนนต่ำสุดของปีล่าสุด ต่ำกว่าปีหลายปีย้อนหลัง เช่น   ปกครองมศว ปี 55 คะแนนสูงถึง 17,xxx แต่ ปี 56 คะแนนนั้นตกลงมาเหลือเพียง 8,xxx เท่านั้นครับ
- คะแนนต่ำสุดของปีล่าสุด มีความต่างกับ คะแนนเฉลี่ยของปีล่าสุดมากกว่า 3000 คะแนน
- ยอดผู้สมัคร ของปีล่าสุด ลดลงอย่างมาก

ดังนั้นใน ปี 58 นี้ถ้าใครจะเลือกคณะที่มีคะแนน ปี 57 ต่ำแบบผิดปกติ
 ผู้สมัครน้อย ก็ควรจะใช้ความระมัดระวังในการเลือกนะครับ >..<
ถามว่าเลือกได้ไหม คณะที่มีคะแนนต่ำๆ
ตอบว่าเลือกได้แต่ต้องเผื่อคะแนนไว้เยอะๆหน่อย >..<
ให้ดูคะแนนย้อนหลังในอดีต และคะแนนเฉลี่ย ประกอบกัน

O-NET ม.6 คณิตศาสตร์ เต็ม 100 คะแนนเพียงวิชาเดียว ขอดูกระดาษคำตอบ 21-30 มี.ค.นี้

    ประกาศแล้ว O-Net ม.6 สทศ. เผยเด็กทำคะแนนเต็ม 100 เพียง 1 วิชา คือ คณิตศาสตร์ จำนวน 305 คน ส่วนคะแนนเฉลี่ยเกินครึ่งมีเพียง 2 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย - สุขศึกษา ที่เหลือตก “สัมพันธ์” รับปีนี้ข้อสอบยาก 
       
       วันนี้ (19 มี.ค.) รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สทศ. ได้ดำเนินการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2557 จัดสอบในวันที่ 7 - 8 กุมภาพันธ์ 2558 และมีกำหนดประกาศผลสอบในวันที่ 21 มีนาคม 2558 นั้น ขณะนี้ สทศ. ได้ทำการประมวลผลคะแนนและประกาศผลสอบ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ 2 วัน โดยนักเรียนสามารถตรวจสอบคะแนนได้ทางเว็บไซต์ สทศ. สำหรับมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่ต้องการตรวจสอบผลคะแนนสอบ O-Net ม.6 สำหรับคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาสามารถตรวจสอบผลคะแนน ผ่านทางระบบ RPS ทางเว็บไซต์ สทศ. www.niets.or.th
       
       ทั้งนี้ สทศ. ได้วิเคราะห์ค่าสถิติ จำแนกตามวิชา ดังนี้ วิชาภาษาไทย คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 50.76 สูงสุด 95.00 ต่ำสุด 0 สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 36.53 สูงสุด 81.00 ต่ำสุด 0 ภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 23.44 สูงสุด 99.00 ต่ำสุด 1.00 คณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 21.74 สูงสุด 100 ต่ำสุด 0 วิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 32.54 สูงสุด 93.00 ต่ำสุด 0 สุขศึกษา คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 51.94 สูงสุด 92.50 ต่ำสุด 2.50 ศิลปะ คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 34.64 สูงสุด 79.00 ต่ำสุด 0 และการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 49.01 สูงสุด 88.00 ต่ำสุด 0 
       
       “ภาพรวมผลสอบ O-Net ม.6 ครั้งนี้มีนักเรียนเข้าสอบประมาณ 430,000 คน ส่วนใหญ่มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นจากปีการศึกษา 2556 โดยวิชาที่คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้น เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา จำนวน 5 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ส่วนวิชาที่คะแนนเฉลี่ยลดลง เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา จำนวน 2 วิชา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ สุขศึกษา และพลศึกษา ขณะที่วิชาที่คะแนนเฉลี่ยคงที่ เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา จำนวน 1 วิชา ได้แก่ วิชาการงานพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี โดยมี คณิตศาสตร์ วิชาเดียวที่นักเรียนทำคะแนนได้ 100 คะแนนเต็ม จำนวน 305 คน ส่วนวิชาอื่นไม่มีนักเรียนทำได้เต็ม 100 ซึ่งอาจเป็นเพราะข้อสอบของ สทศ. ค่อนข้างยาก เน้นการคิด วิเคราะห์และนำไปใช้ ดังนั้น โรงเรียนควรปรับกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการคิดมากขึ้น ขณะที่วิชาสุขศึกษาฯ ศิลปะ และการงานพื้นฐานอาชีพฯ ที่คะแนนค่อนข้างต่ำ อาจเป็นเพราะนักเรียนไปทุ่มเท กับ 5 วิชาหลัก เพราะต้องนำไปใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัย มากกว่า 3 วิชาดังกล่าว” รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวและว่า สำหรับที่มีคะแนนต่ำสุด 0 เกือบทุกวิชา ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ละวิชามีเพียง 0.001% ของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด
       
       ผู้อำนวยการ สทศ. กล่าวต่อว่า นักเรียนสามารถยื่นคำร้องขอดูกระดาษคำตอบด้วยตนเอง หรือ มอบผู้แทนตั้งแต่วันที่ 21 - 23 มีนาคม เวลา 9.00 - 16.00 น. ณ อาคารพญาไทพลาซ่า โดยยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีที่มอบให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำร้องแทน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของนักเรียนผู้สอบ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำร้องแทน ดูกระดาษคำตอบ วันที่ 2 เมษายน เวลา 9.00 - 16.00 น. หากไม่มาตามวัน เวลา และสถานที่ที่นัดหมายถือว่าสละสิทธิ์ 
Credit     Manager

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

รับตรง ระดับปริญญาตรี วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา 2558 รอบที่ 2


วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา Chitralada Technology College
เปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา 2558
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 17 เมษายน 2558

วิธีรับสมัคร
1) สมัครด้วยตนเอง พร้อมหลักฐานการสมัครและชาระเงินค่าสมัคร 500 บาท ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา ฝ่ายการเงิน อาคาร 604 ชั้น 1 สานักพระราชวัง สนามเสือป่า ในวันและเวลาราชการ
2) สมัครทางไปรษณีย์ พร้อมหลักฐานการสมัครและแนบสาเนาการชาระเงินค่าสมัคร 500 บาท โดยสั่งจ่ายผ่าน ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 067-214652-5 ชื่อบัญชี วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา สาขาสวนจิตรลดา ประเภทออมทรัพย์ (โปรดเก็บฉบับจริงไว้ เพื่อเป็นการยืนยันการชาระเงินค่าสมัคร)
หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร
1. สำเนาใบแสดงคุณวุฒิการศึกษา จำนวน 1 ฉบับ (จบ ม.6 , ปวช.3 หรือผลการเรียน 5 ภาคการศึกษา)
2. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
3. สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายขนาด 3X4 ซม. จำนวน 2 รูป (ติดในใบสมัคร 1 รูป อีก 1 รูป เขียน ชื่อ – สกุล หลังรูป และนำส่งมาพร้อมใบสมัคร)
5. สำเนาการเปลี่ยนชื่อ-สกุล-คำนำหน้า (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
หมายเหตุ ผู้สมัครต้องลงชื่อรับรองสาเนาถูกต้องทุกฉบับ เมื่อสมัครแล้วผู้สมัครไม่สามารถขอเงินค่าสมัครคืนได้ไม่ว่ากรณีใด
หมายเหตุ:สมัครด้วยตนเองตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น แต่งกายด้วยชุดสุภาพหรือชุดนักเรียน – นักศึกษา
ค่าใช้จ่าย
        *  ค่าธรรมเนียมในการสมัครและการคัดเลือก  จำนวนเงิน  500.-บาท
        *  ค่าใช้จ่ายในการศึกษา/ภาคเรียน
        คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม : สาขาอิเล็กทรอนิกส์ สาขาไฟฟ้ากำลัง แบบเหมาจ่ายจำนวน  29,500.-บาท
          คณะบริหารธุรกิจ : สาขาการตลาด สาขาธุรกิจอาหาร สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แบบเหมาจ่ายจำนวน  27,500.-บาท
 
** ในการนี้นักศึกษาได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เรียนภาษาที่ 3 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
** เมื่อเรียนจบแล้วสามารถเข้าทำงานในสถานประกอบการได้
หน้าเว็บไซต์การรับสมัคร   http://www.cdtc.ac.th/
UniGang :  ผมได้ไปเยี่ยมชม วิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา มาเมื่่อสัปดาห์ก่อนนะครับ ผมเลยมีข้อมูลมาฝาก

-  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ องค์บริหารโรงเรียนจิตรลดา มีพระราชประสงค์ขยายโอกาสทางการศึกษา จากระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และต่อยอดขึ้นมาเป็นภาคอุดมศึกษาในระดับปริญญาตรี
- น้องที่จะเข้าใหม่ จะได้เรียนอาคารใหม่ ตอนนี้ก่อสร้างใกล้เสร็จหมดแล้ว เป็นอาคาร 4 ชั้น  ชั้น 4 ได้ข่าวว่าจะเป็นห้องทรงงานของพระเทพฯ   1-3 จะเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนการสอน
- คณะอาจารย์ คุณภาพสูงแน่นอนครับ อาจารย์สายเทคโนโลยีจะมาจาก 3 พระจอม /   คณะบริหาร ก็มาจากสถาบันรัฐบาลชื่อดังทั้งนั้นครับ ( ตอนนี้ก้มีอาจารย์อาสามาช่วยสอนจำนวนมากนะครับ )  
- การเรียนการสอน เท่าที่ผมได้สัมภาษณ์จะเน้นไปที่เรียนแล้วสามารถทำงานได้จริงนะครับ น้องๆจะได้ฝึกงานตั้งแต่ ปี 2 เลยครับ สายเทคโนโลยี ตอนนี้เท่าที่ทราบจะได้ฝึกงานกับ bmw , สายบริหาร ได้ฝึกงานกับ s&p  / บริษัทอื่นๆจะเพิ่มมาเรื่อยๆ
- ผมว่าผู้ปกครอง คงชอบที่นี่มาก เพราะที่นี่จะสอนเรื่องมารยาทด้วย เรียนในเขตวังมารยาทเคร่งนิดนึง >.<
- สายเทคโนโลยี รับได้ 100 คน / สายบริหาร 200 คน
- ภาษาที่ 3 สมเด็จพระเทพฯ มีพระมหากรุณาธิคุณให้นักศึกษาทุกคนได้เรียนฟรี / ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น
- ที่นี่เน้นภาษาอังกฤษ ด้วยนะครับ มีลงเรียนทุกเทอม
- คัดเลือกโดยสอบตรง !! ข้อสอบยากไหม  / รุ่นพี่คนนี้บอกข้อสอบยาก !!! เค้าได้ GAT 287 ยังบอกว่ายากเลย 555+ / ผมเลยไปถามอาจารย์ ข้อสอบเป็นแค่ตัวคัดกรองเบื้งต้น ยังมีสอบสัมภาษณ์ อีก ปีก่อน มีบางคนไม่เก่งมากแต่อาจารย์เห็นแวว ก็ได้เรียนนะครับ / โดยสถาบันนี้เน้นสอนให้คนเป็นคนดี มากกว่าคนเก่งนะครับ

รับตรง ม.เกษตรศาสตร์ มีสิทธิ์สัมภาษณ์ 4,146 คน มาสอบสัมภาษณ์ 2,670 คน

วันนี้ (12 มี.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) บางเขน ได้มีการสอบสัมภาษณ์นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในระบบรับตรงกลาง มก. หรือ KU Admission ประจำปีการศึกษา 2558 ซึ่งเป็นการรับรวมทุกวิทยาเขตเป็นครั้งแรก ประกอบด้วย วิทยาเขตบางเขน วิทยาเขตกำแพงแสน วิทยาเขตศรีราชา และวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร โดย ผศ.ดร.จเร เลิศสุดวิชัย รองผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล มก. กล่าวว่า ในปีนี้มีคณะที่เปิดรับตรงกลาง มก. ใน 4 วิทยาเขต จำนวน 28 คณะ 184 สาขา รับได้ จำนวน 5,118 คน ขณะที่มีนักเรียนมาสมัครทั้งสิ้น จำนวน 46,398 คน มีสิทธิ์สัมภาษณ์ จำนวน 5,485 คน หลังจากที่รับสมัครร่วมกันแล้วแต่ละวิทยาเขตจะไปสอบสัมภาษณ์กันเอง ซึ่งในส่วนของวิทยาเขตบางเขน รับนิสิตได้ 2,858 คน มีสิทธิ์สัมภาษณ์ 4,146 คน มาสอบสัมภาษณ์ 2,670 คน
ผศ.ดร.จเร กล่าวต่อไปว่า การสอบสัมภาษณ์ในภาพรวมเรียบร้อยดีอย่างไรก็ตามการรับตรงทุกปีจะได้เด็กไม่ตามเป้าหมาย โดยรับได้เพียง 60%เพราะเด็กจะมีทางเลือกหลายทางในการเข้าศึกษา ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงต้องเรียกสอบสัมภาษณ์เผื่อไว้ และการรับตรงของ มก.ปีนี้จะพิเศษกว่าปีที่แล้ว โดยการรับสมัครจะมี 2 รูปแบบจากเดิมมีรูปแบบเดียว คือ รูปแบบที่ 1 ผู้สมัครเลือกได้ไม่เกิน 4 อันดับ โดยผู้สมัครจะได้รับการพิจารณาตามอันดับการเลือกจนครบทุกอันดับ แต่จะไม่มีสิทธิได้รับการพิจารณาเป็นอันดับสำรองและ รูปแบบที่ 2 ผู้สมัครเลือกได้ 1 อันดับ และขอรับการพิจารณาเป็นอันดับสำรองในกรณีถ้าผู้สมัครไม่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก จะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับสำรอง โดยเรียงตามลำดับคะแนนในสาขาวิชาที่สมัครซึ่งการพิจารณาจำนวนในการเรียกอันดับสำรองนั้น ทางคณะ/สาขาวิชาที่ประกาศรับจะพิจารณาตามความเหมาะสมหลังจากนี้วันที่ 17 มี.ค.นี้ จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์รอบที่ 1 จากนั้นวันที่ 20 มี.ค.จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์เฉพาะรายชื่อสำรองกรณีที่เลือก 1 อันดับวันที่ 23-25 มี.ค. สอบสัมภาษณ์ วันที่ 9 เม.ย. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา ทางwww.admission.ku.ac.th
“มหาวิทยาลัยหวังว่าการเพิ่มการเลือกอันดับสำรอง จะทำให้ได้เด็กที่ตั้งใจจริงๆว่าจะเรียนในคณะไหน เมื่อได้จะไม่เกิดการสละสิทธิ์ และทำให้มหาวิทยาลัยได้เด็กตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ขณะที่เด็กที่เลือก 4 อันดับ ถ้าไม่ได้อันดับที่ต้องการอาจจะสละสิทธิ์ อย่างไรก็ตามถ้ามหาวิทยาลัยยังไม่ได้จำนวนรับนิสิตตามที่ตั้งไว้จะไปเพิ่มจำนวนรับในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือ แอดมิชชั่นกลาง ” ผศ.ดร.จเร กล่าว.

รับตรงทั่วประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 58 จำนวน250 คน

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความประสงค์จะรับสมัคร เพื่อสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีการศึกษา 2558 โดยวิธีพิเศษ สอบตรง จำนวน 250 คน
เปิดรับสมัคร 1 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2558
หน้าเว็บไซต์หลัก  http://law.kku.ac.th/ent/

ศิลปากรปลื้มปีติ "สมเด็จพระเทพฯ" ไม่ถือพระองค์ถ่ายรูปคณะโบราณคดี

คณะฉัน, ก็ต้องถ่ายคณะฉันสิ" สมเด็จพระเทพฯ กับ ม.ศิลปากร
       
       เช้าวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2558 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานงานเดินวิ่งการกุศล และเมื่อพระองค์ทรงเสด็จพระดำเนินทรงผ่าน ณ ประตูใหญ่ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ พระองค์ทรงหยุดทอดพระเนตรผู้เฝ้ารับเสด็จ และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประชาคมศิลปากรผู้มารอเฝ้ารับเสด็จ
       
       เมื่อทรงพระดำเนินมา เรากะเด็กๆ เปล่งเสียงกันว่า ทรงพระเจริญ ท่านหยุด แล้วหยิบกล้องมาทรงถ่ายพวกเรา ด้วยอารามตกใจว่าเจ้านายเสด็จ เราดันพูดไปว่า "ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม คณะโบราณคดีพระพุทธเจ้าข้า" เท่านั้นล่ะ พระองค์หันมารับสั่งว่า "คณะฉัน, ก็ต้องถ่ายคณะฉันสิ" แล้วแย้มพระสรวลก่อนทรงพระราชดำเนินต่อไป
       
       ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
  อนึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านจารึกภาษาตะวันออก (ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร) ณ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ทรงสำเร็จการศึกษาที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยทรงทำวิทยานิพนธ์ห้วข้อเรื่อง “จารึกพบที่ปราสาทพนมรุ้ง” ทรงสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต และเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2522
เรียบเรียง  http://manager.co.th/

ประกาศผล มศว 16 มีนาคม 2558 ตั้งแต่ เวลา 18.00 น.

ผู้สมัครสอบ มศว โครงการรับตรงและโครงการต่างๆ11โครงการ 
สามารถเข้ามาดูประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์และประกาศสถานที่สอบ 
ได้ในวันที่ 16 มีนาคม 2558 ตั้งแต่ เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป
หน้าเว็บไซต์หลัก  http://admission.swu.ac.th/

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

มติออกแล้ว !! สทศ. ไฟเขียวลดสอบโอเน็ตเหลือ 5 วิชา เริ่มปีการศึกษา 2558

  วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมผู้บริหาร สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) โดยระบุว่า ที่ประชุมมีมติให้ลดการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ลงจาก 8 กลุ่มสาระวิชา เหลือเพียง 5 สาระวิชา คือ คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ สังคมศึกษา

            ทั้งนี้ให้เริ่มในปีการศึกษา 2558 ที่จะจัดสอบช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2559 โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า 3 ปี เนื่องจากไม่ติดข้อกฎหมายหรือระเบียบ

            พล.ร.อ. ณรงค์ กล่าวต่อว่า 3 กลุ่มสาระวิชาที่ถูกตัดออก ได้แก่ สุขศึกษา พลศึกษา และศิลปะ นั้นได้มอบให้โรงเรียนไปดำเนินการจัดสอบเอง และสามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อเป็นการลดภาระให้กับนักเรียน เพราะการให้น้ำหนักของ 3 กลุ่มสาระวิชานี้มีน้ำหนักรวมกันเพียงร้อยละ 5 ของคะแนนทั้งหมด

            ในส่วนของ 5 กลุ่มสาระวิชา ที่มีน้ำหนักคะแนนร้อยละ 5 ต่อวิชา รวมกันเป็นร้อยละ 25 นั้น ทาง สทศ. ได้เสนอให้ตนไปหารือกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ว่า หากมีบางมหาวิทยาลัยต้องใช้คะแนนในส่วนของ 3 กลุ่มสาระวิชาในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อหรือแอดมิชชั่นกลาง หาก ทปอ.ไม่เห็นด้วยจะไปออกแบบทดสอบเองก็ไม่ขัดข้อง

            ส่วนกรณีมีนักเรียนคัดค้านการใช้โอเน็ตมาพิจารณาจบช่วงชั้นและยื่นฟ้อง ศาลปกครองนั้น ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้และตอนนี้ยังไม่ได้รับไปรษณียบัตรการคัดค้านดังกล่าว

รับตรง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ สถาบันพระบรมราชชนก 58

สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้มีการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ของสถาบันพระบรมราชชนก สังกัด กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีการศึกษา 2558 ด้วยระบบคัดตรงจากพื้นที่ 
เปิดรับสมัครด้วยตัวเอง 16-27 มีนาคม 2558
เปิดรับสมัครทางไปรษณีย์ 16-20 มีนาคม 2558

28 คำภาษาไทย ที่คุณสะกดผิดมาตลอดชีวิต

มีคำภาษาไทยมากมายที่เราสะกดผิดกันมาตลอดชีวิต โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามันผิด และเชื่อแน่นอนว่า คำเหล่านี้คุณอาจสะกดผิดเกินครึ่งด้วยซ้ำไป เอาเป็นว่า ใครที่ดูคำเหล่านี้แล้วสะกดถูกเกิน 10 คำก็ถือว่าเก่งแล้ว

1. กะเทย VS กระเทย

คำที่ถูก >> กะเทย
คำที่ผิด >> กระเทย
เขียนผิดกันมากสำหรับคำๆ นี้ ให้จำไว้ว่า อยากเป็นกระเทย ไม่ต้อง “รอ”

2. โควตา VS โควต้า

คำที่ถูก >> โควตา
คำที่ผิด >>โควต้า
ตามหลักการเขียนคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเติมวรรณยุกต์ค่ะ ดังนั้น Quota จึงเขียนได้ว่าโควตา ไม่ต้องเติมไม้โทให้คำว่า “ตา” นะ

3. ต่างๆ นานา VS ต่างๆ นาๆ

คำที่ถูก >> ต่างๆ นานา
คำที่ผิด >> ต่างๆ นาๆ
โดยปกติคำซ้ำจะเติมเครื่องหมายไม้ยมกไว้ด้านหลังคำที่ต้องการซ้ำ ยกเว้นคำว่า “นานา” “จะจะ” ที่ไม่ต้องซ้ำนะ เขียนแบบเดิมสองครั้งได้เลย

4. ผลัดวันประกันพรุ่ง VS ผัดวันประกันพรุ่ง

คำที่ถูก >> ผัดวันประกันพรุ่ง
คำที่ผิด >> ผลัดวันประกันพรุ่ง
ผัดวันประกันพรุ่งไม่ต้องมี “ล” นะคะ “ผลัด” แบบนี้ใช้สำหรับ “ผลัดผ้า”

5. ผาสุข VS ผาสุก

คำที่ถูก >> ผาสุก
คำที่ผิด >> ผาสุข
เชื่อว่าหลายคนไปโยงกับความหมายความสุข ก็เลยใช้ “ข” สะกด แต่จริงๆ แล้วใช้ “ก” สะกด

6. กงเกวียนกำเกวียน VS กงกำกงเกวียน

คำที่ถูก >> กงเกวียนกำเกวียน
คำที่ผิด >> กงกำกงเกวียน
ที่ถูกต้องคือ”กงเกวียนกำเกวียน” เพราะทั้ง กง และ กำ เป็นส่วนประกอบของล้อเกวียน

7. กังวาล VS กังวาน

คำที่ถูก >> กังวาน
คำที่ผิด >> กังวาล
กังวาน เป็นอีกคำที่สะกดด้วย “น” ได้เลย ไม่ต้องไปสะกดแบบอื่นให้มันยากกว่าเดิม

8. ผัดไทย VS ผัดไท

คำที่ถูก >> ผัดไทย
คำที่ผิด >> ผัดไท
คำนี้มีวิธีการจำง่ายๆ ตามที่ราชบัณฑิตยสถานบอกไว้ก็คือ คำว่า “ไทย” ในผัดไทย เขียนเหมือนคนไทย นั่นเอง

9. อานิสงส์ VS อานิสงฆ์

คำที่ถูก >> อานิสงส์
คำที่ผิด >> อานิสงฆ์
อานิสงส์ มีความหมายในตัว คือ ผลแห่งกุศลกรรม ซึ่งเป็นคำบาลี(อานิสํส) ไม่ใช่ พระสงฆ์ ดังนั้นจึงใช้ “ส์”

10. ใบกะเพรา VS ใบกระเพรา

คำที่ถูก >> ใบกะเพรา
คำที่ผิด >> ใบกระเพรา
การเขียนที่ถูกต้องจริงๆ มี “ร” เพียงแค่ที่เดียว คือ”เพรา” ส่วน “กะ” ไม่ต้องมี “ร”

11. ข้าวเหนียวมูน VS ข้าวเหนียวมูล

คำที่ถูก >> ข้าวเหนียวมูน
คำที่ผิด >> ข้าวเหนียวมูล
“มูล” หมายถึง ราก หรือเศษสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงอุจจาระ ซึ่งต้องใช้คำว่า “มูน” หมายถึง การเอากะทิมาคลุกเคล้ากับข้าวเหนียวเพื่อให้เกิดความมันนั่นเอง

12. คลินิก VS คลีนิก VS คลินิค

คำที่ถูก >> คลินิก
คำที่ผิด >> คลีนิก, คลินิค
คำนี้เขียนกันหลากหลายรูปแบบเลย ทั้ง คลินิก, คลีนิก, คลีนิค, คลินิค แต่ที่ถูกต้องจริงๆ เป็นเสียงสั้นใช้สระอิ และใช้ “ก” สะกด

13. คัดสรร VS คัดสรรค์

คำที่ถูก >> คัดสรร
คำที่ผิด >> คัดสรรค์
“คัดสรร” ไม่ต้องมีตัว “ค์” จ้า เพราะคำว่า “สรร” หมายถึง การเลือก, การคัดอยู่แล้ว และคำนี้ก็เป็นคำซ้อนที่เอาความหมายเหมือนกันมาซ้อนคำกันนั่นเอง

14. สังสรรค์ VS สังสรร

คำที่ถูก >> สังสรรค์
คำที่ผิด >> สังสรร
อีกหนึ่งตัวอย่างสำหรับคำตระกูล “สัน” แต่สำหรับคำว่า สังสรรค์ จะต้องตามด้วย “ค์” เสมอ

15. โคตร VS โครต

คำที่ถูก >> โคตร
คำที่ผิด >> โครต
ทั้ง 2 คำอ่านว่า “โคด” เหมือนกัน แต่ถ้าสังเกตการออกเสียงดีๆ จะรู้ว่าคำนี้ไม่มีควบกล้ำ ดังนั้นวิธีเขียนที่ถูกต้องคือ เอา “ร” ไว้หลังสุด คือ โคตร

16. จลาจล VS จราจล

คำที่ถูก >> จลาจล
คำที่ผิด >> จราจล
วิธีจำให้เขียนถูกง่ายนิดเดียว คำว่า “จราจร” ใช้ “ร” ทั้งสองตัว ส่วน “จลาจล” ก็ใช้ “ล” ทั้งสองตัวเช่นเดียวกันค่ะ

17. น้ำมันก๊าซ VS น้ำมันก๊าด

คำที่ถูก >> น้ำมันก๊าด
คำที่ผิด >> น้ำมันก๊าซ
ให้จำเอาไว้ว่าเขียนให้ง่ายๆ ตามแบบคนไทยใช้ “ด” ไม่ต้องสนใจว่ามาจากภาษาอังกฤษคำว่า Gas

18. ทะเลสาบ VS ทะเลสาป

คำที่ถูก >> ทะเลสาบ
คำที่ผิด >> ทะเลสาป
คำว่า “สาป” ในภาษาไทยมีเพียงความหมายเดียว หมายถึง คำแช่ง ดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า “สาบ”

19. เครื่องสำอางค์ VS เครื่องสำอาง

คำที่ถูก >> เครื่องสำอาง
คำที่ผิด >> เครื่องสำอางค์
ที่ถูกต้องจริงๆ ต้องเขียนว่า “เครื่องสำอาง” โดยคำว่า “สำอาง” มีความหมายว่า สิ่งเสริมแต่ง บำรุงใบหน้า

20. นะค่ะ VS นะคะ VS น๊ะค๊ะ

คำที่ถูก >> นะคะ
คำที่ผิด >> นะค่ะ, น๊ะค๊ะ
เป็นคำที่ผู้หญิงใช้ผิดมากที่สุดคำหนึ่ง จริงๆ จำไว้แค่ว่า “นะคะ” ไม่ต้องมีวรรณยุกต์ใดๆ ไม้เอก ไม้โท ไม่ตรี ไม่มีทั้งนั้น จบ

21. บังสุกุล VS บังสกุล

คำที่ถูก >> บังสุกุล
คำที่ผิด >> บังสกุล
บังสุกุล เป็นคำที่ใช้เรียกผ้าที่พระสงฆ์ชักจากศพหรือผ้าที่ทอดไว้หน้าศพ คำนี้เมื่อพูดเร็วๆ รัวๆ อาจฟังเป็น บังสกุล ซึ่งเป็นการสะกดที่ผิด

22. ผีซ้ำด้ามพลอย VS ผีซ้ำด้ำพลอย

คำที่ถูก >> ผีซ้ำด้ำพลอย
คำที่ผิด >> ผีซ้ำด้ามพลอย
ที่ถูกคือ “ด้ำ” แต่อาจเพี้ยนกลายเป็นคำว่า “ด้าม” เพราะคนไม่เข้าใจความหมายคำว่า “ด้ำ” ซึ่งหมายถึง ผีเรือน

23. พิธีรีตอง VS พิธีรีตรอง

คำที่ถูก >> พิธีรีตอง
คำที่ผิด >> พิธีรีตรอง
พิธีรีตอง หมายถึง งานพิธีตามแบบตามธรรมเนียม เวลาเขียนคำนี้ไม่ต้องเติม “ร” ในคำว่า “ตอง” ท่องเลยๆ

24. แพทยศาสตร์ VS แพทย์ศาสตร์

คำที่ถูก >> แพทยศาสตร์
คำที่ผิด >> แพทย์ศาสตร์
“แพทยศาสตร์” เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า “แพทย์” + “ศาสตร์” เมื่อเอามารวมกัน คำก่อนหน้าที่มีการันต์ให้ตัดทิ้งได้เลย

25. ริดรอน VS ลิดรอน

คำที่ถูก >> ลิดรอน
คำที่ผิด >> ริดรอน
วิธีการเขียนคำนี้ให้ถูกต้อง ต้องเขียนว่า “ลิดรอน” พยางค์หน้าใช้ “ล” พยางค์หลังใช้ “ร”

26. ไล่เรียง VS ไล่เลียง

คำที่ถูก >> ไล่เลียง
คำที่ผิด >> ไล่เรียง
“ไล่” หมายถึง การขับออก, บังคับให้ไป ส่วน “เลียง” ก็หมายถึง การไล่สิ่งไม่บริสุทธิ์ออก ดังนั้นคำนี้จึงเป็นคำซ้อน

27. วิ่งเปี้ยว VS วิ่งเปรี้ยว

คำที่ถูก >> วิ่งเปี้ยว
คำที่ผิด >> วิ่งเปรี้ยว
ปกติคำนี้เราใช้แต่วิธีพูด ไม่ค่อยได้ลงมือเขียนกันเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลาต้องมาเขียนจริงๆ ก็นึกไปเองว่าใช้ “เปรี้ยว” เหมือนรสเปรี้ยว แต่ที่ถูกต้องจริงๆ เขียน “เปี้ยว”

28. กระหรี่ VS กะหรี่

คำที่ถูก >> กะหรี่
คำที่ผิด >> กระหรี่
จำไว้เหมือน “กะเทย” เลยว่า เป็นกะเทย เป็นกะหรี่ ไม่ต้องมี “รอ”
ที่มา : mcpswis.mcp.ac.th