วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งานเข้า นักเรียนหญิงโรงเรียนดัง ถ่ายรูปข้อสอบ GAT PAT โพสต์ลง IG

งานเข้าเต็มๆ เมือนักเรียนสาวม.6 คนนึงเอาโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องสอบระหว่างที่มีการสอบ GAT PAT ได้ถ่ายรูปข้อสอบและกระดาษคำตอบพร้อมทั้งยังโพสต์ลงอินสตราแกรม ซึ่งในรูปภาพนั้นมีการระบุชื่อและนามสกุลจริง รวมถึงเลขบัตรประจำตัวประชาชนชัดเจน พร้อมทั้งบรรยายใต้รูปว่า คะแนนติดลบล้วนๆ 5555555555 #RIP#gat#pat #m6
ตอนนี้เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นวิจารณ์เกี่ยวกับ สทศ. จะมีวิธีการลงโทษนักเรียนหญิงรายนี้อย่างไร เพราะจากการที่ทำแบบนี้ถือว่าเข้าข่ายทุจริตในการสอบ และอาจจะส่งผลกระทบทำให้นักเรียน ม.6 ทั่วประเทศต้องมาทำการสอบใหม่อีกครั้ง
ซึ่งโดยปกติการสอบทั่วไป มีกฎข้อบังคับห้ามนำเครื่องมือการสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ จึงมีการตั้งคำถามว่า นักเรียนหญิงคนนี้นำมือถือเข้าห้องสอบได้อย่างไร ทำไมอาจารย์ไม่ตรวจก่อนเข้าห้องสอบ 
สทศ.ไม่ตรวจกระดาษคำตอบวิชา GAT 1 ของเด็กที่โพสต์ภาพโซเชียล
        สทศ. เผยเด็กโพสต์ข้อสอบ - กระดาษคำตอบ GAT ลงโซเชียลเหตุเกิดที่ศูนย์สอบ ม.เชียงใหม่ ชี้ถือว่าทำผิดระเบียบเข้าห้องสอบ เบื้องต้นศูนย์สอบฯแจงเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีเจตนาทุจริต แต่ สทศ. จะลงโทษด้วยการไม่ตรวจกระดาษคำตอบเด็ก พร้อมสั่งให้ศูนย์สอบฯ สืบหาข้อเท็จจริงและรายงานผลกลับมา ยันที่ผ่านมาเน้นย้ำมาตรการเข้มงวด

       วันนี้ (24 พ.ย.) รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพข้อสอบ และกระดาษคำตอบวิชาแบบทดสอบวามถนัดทั่วไป หรือ GAT ตอนที่ 1 ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดเด็กจึงสามารถนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในห้องสอบได้ ซึ่งเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันทุจริตของ สทศ. ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ทราบว่าเป็นสนามสอบที่อยู่ในความดูแลของศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ซึ่งทางศูนย์สอบ มช. ได้ตรวจสอบพบว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในการสอบรายวิชา GAT 1 ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 8.30 - 11.30 น. โดยทางศูนย์สอบ มช. ได้รายงานว่า นักเรียนไม่ได้มีเจตนาทุจริต แต่ได้กระทำผิดระเบียบการเข้าห้องสอบโดยการแอบนำมือถือเข้าไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และถ่ายภาพเพื่อโพสข้อความโชว์เพื่อน ซึ่งเบื้องต้น สทศ. จะพิจารณาไม่ตรวจกระดาษคำตอบในรายวิชาดังกล่าว รวมถึงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาการ สทศ. เพื่อพิจารณาตามระเบียบต่อไป

       “ส่วนของชื่อนักเรียนที่กระทำความผิดนั้น ผมคงไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่อยากให้นักเรียนได้รับผลกระทบมากกว่านี้ แต่ได้ขอให้ทางศูนย์สอบสืบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงดูข้อบกพร่องของสนามสอบ และกรรมการคุมสอบด้วยว่า มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นหรือไม่ สทศ. ยืนยันว่า ที่ผ่านมา มีมาตรการป้องกันทุจริตอย่างเข้มงวด โดยก่อนสอบได้ทำความเข้าใจกับศูนย์สอบ และกรรมการคุมสอบถึงกฎระเบียบและข้อห้ามต่างๆ ที่สำคัญ อาทิ ตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบอย่างละเอียด และห้ามนำอุปกรณ์สื่อสารเข้าไปในห้องสอบอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการทุจริตในการสอบ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ก็คงต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากทางศูนย์สอบที่รับผิดชอบ ผมยังไม่สามารถตอบอะไรได้” รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว

       ผอ.สทศ. กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบ วิชา PAT 6 วิชาความถนัดทางศิลปศาสตร์ และ PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ ซึ่งจะสอบวันที่ 25 พฤศจิกายนนั้น ตนมั่นใจในศูนย์สอบว่าจะดูแลไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งที่ผ่านมา ตนเคยเสนอต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้มีการยกร่าง พ.ร.บ.การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ที่กำหนดให้การทุจริตการสอบ ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะถูกปรับตกในการสอบครั้งนั้นแล้ว ยังถือว่ามีความผิดในคดีอาญาด้วย โดย พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่ได้บังคับใช้เฉพาะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือการสอบที่จัดขึ้นโดย สทศ.เท่านั้น แต่หมายถึงการสอบทุกประเภท โดยเฉพาะการสอบเข้ารับราชการในหน่วยงานต่างๆ ที่จะต้องคัดคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเข้าทำงานจริงๆ ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าหากมีกฎหมายที่ดูแลเข้มงวดขึ้น ก็จะทำให้คนเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าทุจริตการสอบอีก 
Credit    Manager

ไม่มีความคิดเห็น: