วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การศึกษาไทย กับ 10 คณะยอดฮิต ปี 2554


ในที่สุดผลแอดมิชชั่นปีนี้ก้ประกาสออกมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วเมื่อเย็นวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา น้องหลายๆคนที่ทราบผลแอดมิชชั่นของตัวเองไปแล้วบางคนก็ได้คณะตามที่ตัวเองชอบและอยากเรียน แต่บางคนก็อาจได้คณะที่ตนเองเลือกเผื่อๆไว้ไม่ได้ถึงกับชอบหรือว่าอยากเรียนจริงๆซักเท่าไหร่นัก นอกจากนี้หลายๆที่ได้คณะตามที่ต้องการแต่อาจไม่ใช่สถาบันที่ตรงใจสักเท่าไหร่ ไอ้ที่ได้ไม่ถุกใจก็อาจจะลองๆไปเรียนแล้วค่อยซิ่ว(สอบเข้าใหม่)อีกรอบ นี่ก็เป็นเรื่องของเด็กวัยเรียนทุกคนที่ต้องเผชิญในยามที่ต้องสอบเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา แต่ยังไงก็ตาม ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกๆคนที่สามารถฝ่าฟันเข้าไปเรียนในคณะและสถาบันต่างๆได้ ส่วนน้องๆที่พลาดหวังจากการแอดมิชชั่นในครั้งนี้ก็ขอให้กำลังใจน้องๆและผู้ปกครองด้วยเช่นกันครับ แม้การสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิต เราเองก็อยากได้เข้าเรียนในคณะและสถาบันที่ตนเองชอบ แต่การพลาดแอดมิชชั่นก็ไม่ได้แสดงถึงความล้มเหลวหรือการสิ้นหวังไปซะทุกอย่างนะครับ สมัยนี้โอกาสทางการศึกษาในบ้านเราเปิดกว้างและยังมีสสถาบันการศึกษาเอกชน รวมทั้งมหาวิทยาลัยเปิดอย่างรมคำแหงและสุโขทัยธรรมาธิราช ที่ยังเปิดโอกาสให้น้องได้เข้าไปศุกษาหาความรู้ได้อีก การเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญคือตัวของผู้เรียนเองที่ต้องรู้จักในการขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเอง เพราะถือว่าคนที่กำลังก้าวผ่านระดับมัธยมปลายเข้าสู่รั้วอุดมศึกษาคือคนที่กำลังโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยจึงไม่ใช่เป็นการคอยรับการป้อนความรู้จากอาจารย์อย่างเดียว แต่ตัวของผู้เรียนเองจะต้องรู้จักขวนขวายเพิ่มเติมด้วยตนเองให้มากขึ้นด้วยครับ เราโตขึ้นก็ต้องเรียนรู้การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยตามแบบของคนที่กำลังโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักรับผิดชอบด้วย
ผลการแอดมิชชั่นปี 2554 ที่ผ่านมา ทาง สกอ. ได้รายงานเกี่ยวกับคณะ/สาขา ที่มีคนสนใจสมัครมากที่สุด 10 อันดับแรกไว้ด้วยนะครับ โดยในปีนี้คณะยอดฮิตทั้ง 10 อันดับมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร
โดยในปี 2554 นี้คณะ/สาขาแรกที่มีคนสมัครมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ จำนวนรับ 50 คน จำนวนผู้สมัคร 3,032 คน คิดเป็นส่วน 1:61 คน โดยในปี 2553 นั้นคณะที่มีผู้สนใจสมัครมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3,409 คน และมีสัดส่วนการแข่งขัน 9 ต่อ 1 ครับ
ส่วนคณะที่มีคนสนใจสมัครรองมาเป็นอันดับที่สองในปี 2554 ได้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ,อุตสาหกรรม,เคมี,เครื่องกล,คอมพิวเตอร์ ม.ธรรมศาสตร์ รับ 280 คน ผู้สมัคร 2,449 คน คิดเป็นส่วน 1:9 ในขณะที่อันดับที่สองของปีที่ผ่านมาคือคณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2,740 คน สัดส่วนการรับ 23 ต่อ 1
อันดับที่สามคือคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 450 คน ผู้สมัคร 1,975 คน คิดเป็นส่วน1:4 ครับโดยคณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยครองอันดับนี้เมื่อปี 2553 ที่มีจำนวนผู้สมัคร2,134 คน สัดส่วนการรับ 71 ต่อ 1
อันดับที่สี่ที่มีผู้สนใจสมัครมากที่สุดในปี้นี้ได้แก่คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ที่เคยครองแชมป์เมื่อปีที่ผ่านมานั่นเองครับ
โดยปีนี้ทางคณะครุศาสตร์ จุฬาฯรับ 245 คน ผู้สมัคร 1,884 คน คิดเป็นส่วน 1:8 ส่วนอันดับที่สี่ของปี 2553 คือคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาบัญชี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2,121 คน สัดส่วน 14 ต่อ 1
ต่อกันที่อันดับที่ห้าครับซึ่งถือว่าเป็นคณะม้ามืดของปีนี้ที่มีคนสนใจนมัครมากที่สุดอีกคณะหนึ่งเลยทีเดียวนั่นก็คือคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ ซึ่งรับ 60 คน ผู้สมัคร 1,781 คน คิดเป็นส่วน 1:30 ครับ ก่อนหน้านี้คณะนี้ไม่เคยติดอันดับมาก่อนครับแต่ปรากฏว่าในปี 2554 มีน้องๆมัธยมให้ความสนใจสมัครแอดมิชชั่นกันอย่างล้นหลามแซงหน้าคณะยอดฮิตหลายคณะตกอันดับไปเลย ส่วนคณะที่ได้อันดับที่ห้าในปี 2553 คือคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1,789 คน สัดส่วน 19 ต่อ 1 ครับ
รายงานมาถึงครึ่งทางแล้วมีคณะไหนเป็นคณะที่ใครเล็งๆไว้บ้างหรือเปล่าครับ ผมเชื่อว่าหลายคนที่เห็นสัดส่วนการแข่งขันในหลายๆคณะแล้วต้องคิดหนักกัยเลยทีเดียวเพราะบางคณะอัตรการแข่งขันสูงมากเลย เอาล่ะเรามาต่อกันที่อันดับที่หกกันเลยครับ ซึ่งในปีนี้คณะวารสารศาสตร์สื่อสารมวลชน พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1 ม.ธรรมศาสตร์ยึดอันดับที่หกไปครองด้วยจำนวนรับ 200 คน มีผู้สมัคร 1,767 คน คิดเป็นสัดส่วน 1:9 ส่วนอันดับนี้ในปีที่ผ่านมาได้แก่คณะสังคมศาสตร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒที่มีผู้สมัคร 1,629 คน สัดส่วนการแข่งขัน 70 ต่อ 1 และอันดับที่เจ็ดเป็นคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์ ม.ศิลปากร รับ350 คนผู้สมัคร 1,689 คน คิดเป็นส่วน 1:5 ซึ่งคณะนี้ในปีที่ผ่านมาก็รั้งอันดับที่เจ็ดไว้เช่นเดียวกันที่มีผู้สมัคร 1,580 คน สัดส่วน 4 ต่อ 1 เรียกว่ายังครองอันดับไว้อย่างเหนียวแน่นครับ
อันดับที่แปดได้แก่คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลกาชาดไทย ซึ่งเป็นสถาบันสมทบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับปีนี้ทางคณะรับ 60 คน มีผู้สมัคร 1,617 คน คิดเป็นส่วน 1:27 ส่วนอันดับแปดของปีที่แล้วคือสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ (คอมพิวเตอร์ เคมี เครื่องกล ไฟฟ้า โยธา ยานยนต์ สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมียอดผู้สมัคร 1,569 คน สัดส่วน 2 ต่อ 1 ต่อด้วยอันดับที่เก้าคือคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีวเคมี ม.เกษตรศาสตร์ รับ35 คนผู้สมัคร 1,578 คน คิดเป็นส่วน 1:45 ซึ่งในปี 2553 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่นเคยครองอันดับนี้ด้วยยอดผู้สมัคร 1,558 คน สัดส่วน 37 ต่อ 1 ปิดท้ายด้วยอันดับที่สิบของปีนี้ได้แก่สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารีที่เคยครองอันดับที่แปดในปี 2553 โดยปีนี้รับ780 คน ผู้สมัคร 1,514 คน คิดเป็นส่วน 1:2 ส่วนอันดับที่สิบของปี 2553 คือคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มียอดผู้สมัคร 1,555 คน สัดส่วน 17 ต่อ 1 ครับ
ปี 2554
ปี 2553
อันดับ
คณะ
สถาบัน
อันดับ
คณะ
สถาบัน
1.
คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง
ม.ธรรมศาสตร์
1.
คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2.
คณะวิศวกรรมศาสตร์
ม.ธรรมศาสตร์
2.
คณะพยาบาลศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา
3.
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.
คณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4.
คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4.
คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาบัญชี
ม.เกษตรศาสตร์
5.
คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5.
คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
6.
คณะวารสารศาสตร์สื่อสารมวลชน พื้นฐานศิลปศาสตร์
ม.ธรรมศาสตร์
6.
คณะสังคมศาสตร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
7.
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์
ม.ศิลปากร
7.
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาวิชานิเทศศาสตร์
ม.ศิลปากร
8.
คณะพยาบาลศาสตร์
วิทยาลัยพยาบาลกาชาดไทย
8.
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์
ม.เทคโนโลยีสุรนารี
9.
คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีวเคมี
ม.เกษตรศาสตร์
9.
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
10
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์
ม.เทคโนโลยีสุรนารี
10.
คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ
ม.เกษตรศาสตร์

คณะยอดนิยมที่มีผู้สนใจสมัครโดยส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเลยนะครับ จะเห็นได้ว่ามีเพียงแค่สามคณะเท่านั้นที่ยังคงอยู่ใน 10 อันดับเหมือนปีที่ผ่านมาได้ นั่นคือคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ปีนี้หล่นจากอันดับที่หนึ่งในปี 2553 มาอยู่ในอันดับที่ในปีนี้ อีกสองคณะได้แก่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขานิเทศศาสตร์ ม.ศิลปากร ที่ได้อันดับที่เจ็ดเท่าปีที่ผ่านมาและอันดับที่สิบของปีนี้คือสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีสุรนารีที่เคยได้อันดับที่แปดในปี 2553 นั่งเองครับ
คณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันยังมีการขาดแคลนครูอยู่เป็นจำนวนมากและมีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนครุศาสตร์ให้มีวคามทันสมัยและเหมาะสมต่อสถานการณืในปัจจุบันมากขึ้น ดังเช่นที่มีการสร้างหลักสูตรครูพันธุ์ใหม่ของหลายสถาบันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ที่กำลังมองหาคณะที่มั่นใจว่ามีงานรองรับในอนาคต จึงทำให้มีคนมาสมัครในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ของสถาบันต่างๆมากมายไปด้วยครับ 
ปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงอันดับคณะยอดฮิตนั้นมีหลายอย่างด้วยกันครับ ทั้งเรื่องของการทราบผลคะแนนก่อนเหมือนเช่นทุกปี ทำให้น้องๆมีการเรียบเทียบคะแนนที่ตนได้กับคะแนนปีก่อนๆในการนำมาตัดสินใจเลือกคณะ รวมทั้งบางคนดูที่แนวโน้มของการแข่งขันของคณะที่ตนเองชอบในปีที่ผ่านๆมาด้วยครับ คณะที่มีการแข่งขันไม่สูงมากในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะถูกเลือกมาเป็นตัวเลือกมากขึ้น ทำให้มีคนสนใจเลือกคณะนั้นๆมาก ในปีนี้เลยกลายเป็นว่าจากคณะที่การแข่งขันไม่สูงมากในปีที่ผ่านมากลับมีคนแห่กันแย่งสมัครในปีนี้แทนเพราะคิดว่าอาจจะมีคนสนใจน้อยเหมือนปีที่แล้วก็ได้ แต่เพราะหลายๆคนคิดเหมือนกัน เลยใจตรงกันมาสมัครคณะเดียวกันเยอะ ทำให้คณะที่ไม่เคยฮิตกลายเป็นคณะยอดฮิตไปโดยปริยาย
เท่าที่ทราบมาคือบางคณะที่เปิดรับแอดมิชชั่นยังมีที่นั่งว่างครับ ซึ่งบางสถาบันอาจเปิดรับสาขาที่มีที่ว่างเพิ่มด้วย เพราะฉะนั้นใครที่พลาดไปก็ยังพอมีหวังนะครับ เพราะบางคนที่ติดแอดมิชชั่นแต่อาจสละสิทธิไปเรียนอย่างอื่นแทนได้ หรือหากพอมีเงินค่าเทอมก็สามารถเลือดเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนได้ มหาวิทยาลัยเอกชนในบ้านเราเดี๋ยวนี้มีการเรียนการสอนในบางสาขาที่ดีกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆด้วยซ้ำครับ สุดท้ายผมอยากจะขอย้ำว่าการที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพียงแค่การสอบเข้าในมหาวิทยาลัยได้เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเป็นหลัก ปีหน้ามาคอยดูกันต่อไปครับว่าผลคณะยอดฮิตทั้งสิบอันดับจะเป็นอย่างไร



 credit:Eduzone

ไม่มีความคิดเห็น: