วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ล้วงเคล็ดลับเรียนเก่ง!! สู่ที่ 1 ของประเทศ

วัสดีค่ะน้องๆ^^ หวังว่าคงจะยังไม่สายเกินไปที่ Dek-D.com จะนำเรื่องราวของเด็กเก่งระดับประเทศมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ ช่วงก่อนหน้านี้น้องๆ อาจจะเคยคุ้นหูกับชื่อของนายรัตน์ ปทุมวัฒน์ ศิษย์เก่าโรงเรียนพิชญศึกษา จ.นนทบุรี และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่น71 เด็กเทพประจำสมรภูมิแอดมิชชั่น54 จะเก่งไม่เก่งก็คิดดูแล้วกันว่า สอบทุนเล่าเรียนหลวงได้และยังแอดมิชชั่นติดรัฐศาสตร์ จุฬาฯ (ภายหลังสละสิทธิ์)ด้วยคะแนน 93.21 เป็นอันดับ1 ของประเทศ, ได้ GAT เต็ม 300!! ยังไม่พอ  PAT 7.1 ภาษาฝรั่งเศสยังได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศอีกด้วย สุดยอดขนาดนี้ ลองไปฟังมุมมองชีวิตรวมทั้งการเรียนจากเค้ากันดีกว่าค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: ล้วงเคล็ดลับเรียนเก่ง!! สู่ที่ 1 ของประเทศ
Dek-D.com : ทราบมาว่ามีความสามารถทางด้านภาษาหลายภาษา มีอะไรบ้าง แล้วทำไมถึงสนใจภาษาเหล่านี้
น้องรัตน์ : ผมเป็นคนชอบภาษาครับ แต่ก็คงไม่ถึงหกเจ็ดภาษาอย่างที่เค้าว่ากัน ตอนนี้ก็มีภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แล้วก็ภาษาฝรั่งเศส (ได้จากเตรียม) ถนัดที่สุดครับ ส่วนภาษาจีนกลางที่เคยเรียนตอนมัธยมต้น เวลาผ่านไป ไม่ค่อยมีโอกาสใช้ และเป็นภาษาที่ยาก ก็เลยลืมไปบ้าง ส่วนตอนนี้กำลังเรียนภาษาสเปนพื้นฐาน และวางแผนจะเรียนภาษาสเปนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่อเมริกา เพราะปัจจุบันภาษาสเปนถือเป็นภาษาสำคัญของโลกอีกภาษานึง นอกจากนั้นก็สนใจภาษาอิตาเลียน เพราะชอบวัฒนธรรมและเสียงของภาษา ส่วนอื่นๆ ก็เคยซื้อหนังสือมาอ่านบ้าง เช่นภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี ถ้าได้สองภาษานี้ก็จะดีมาก แต่ว่าคงจะยากอยู่เหมือนกันครับ

Dek-D.com : ตอนที่รู้ผลว่าได้ทั้งทุนทั้งแอดมิชชั่น รู้สึกอย่างไรบ้าง
น้องรัตน์ : ตอนที่รู้ผลแอดนี่ อยู่ที่อเมริกาครับ ก็ดีใจมาก ถือเป็นความภูมิใจครั้งนึงในชีวิต ที่ได้ทำให้ทางครอบครัว ญาติๆ ทางโรงเรียน และเพื่อนๆ ดีใจ ส่วนตอนที่ได้ทุนเนี่ย ความรู้สึกจะเป็นคนละแบบเลย เพราะเพื่อนโทรมาบอกตอนอยู่ในร้านอาหารกับสายรหัส ก็แทบจะไม่เชื่อเลยจริงๆ เพราะว่าเป็นอะไรที่ฝันไว้มานานมากแล้ว ที่สำคัญได้พยายามอย่างเต็มที่ แล้วก็พูดได้จริงๆว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ได้ทำในชีวิต พอรู้ตัวว่าได้ตามที่หวังจริงๆ ก็รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่สุดในชีวิต

Dek-d.com : อยากให้พูดถึงทุนนี้หน่อยค่ะ
น้องรัตน์ : เป็นทุนเล่าเรียนหลวงครับ มีทั้งหมด 9 ทุน ผมได้ในหน่วยทุนของศิลป์-ภาษา ข้อสอบของศิลป์ภาษามี 5 วิชา คือ ภาษาไทย สังคม ภาษาอังกฤษ Writing และ Translation ข้อเขียนหมดทุกวิชา ยกเว้นภาษาอังกฤษ ซึ่งยากและครอบคลุมมาก ต้องเขียนสื่อความได้ชัดเจน และเขียนให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณด้วย แล้วก็มีรอบสัมภาษณ์วัดความเหมาะสม ทุนเล่าเรียนหลวงไม่บังคับสาขาการเรียน หรือประเทศครับ ให้ถึงปริญญาตรี และมีเงื่อนไขคือว่าให้กลับมาทำงานในประเทศไทยตามจำนวนเวลาที่ใช้ทุน ไม่บังคับหน่วยงานเช่นกันครับ

Dek-D.com : กว่าจะได้ขนาดนี้ เตรียมตัวมากี่ปีคะ และมีเทคนิคยังไง 
 เด็กดีดอทคอม :: ล้วงเคล็ดลับเรียนเก่ง!! สู่ที่ 1 ของประเทศ
น้องรัตน์ : ถ้าเป็นเตรียมตัวแบบอ่านหนังสือหนักๆ แล้วก็ฝึกทำข้อสอบ คงไม่ใช้เวลาเป็นปีหรอกครับ ผมว่าที่สำคัญที่สุดคือการหาความรู้อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ต้องกดดันตัวเอง อย่างวิชาในหมวดภาษาที่จริงไม่ค่อยใช่วิชาหรอก แต่เป็นทักษะต่างหาก ก็คือการฟัง พูด อ่าน เขียน การที่จะเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งให้ได้ผลจึงไม่ใช่การเน้นท่องศัพท์ แกรมม่า หรือเรียนแค่ในห้องเรียน แต่ควรพยายามฝึกใช้ทักษะต่างๆ ให้บ่อย ซึ่งจะอ่านนิยาย ดูข่าว ไปจนถึงดูหนังฟังเพลง ช่วยได้หมดครับ อย่างน้อยก็จะคุ้นกับสำเนียงมากขึ้น ยิ่งมีโอกาสได้ใช้ภาษากับคนต่างชาติ ก็จะช่วยมาก และต้องใช้แบบไม่ต้องกลัวผิดเลยครับ ส่วนทางด้านสังคม ก็ต้องติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะข้อสอบทุนรัฐบาล เพราะจะทำให้เรารู้ว่าสังคมไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือครับ

Dek-D.com : ระหว่างเรียนมีทำกิจกรรมรึเปล่า แล้วแบ่งเวลาในการเรียน/ทำกิจกรรมยังไง
น้องรัตน์ : มีทำกิจกรรมแน่นอนครับ ผมว่าจริงๆชีวิตม.ปลาย ไม่ควรแค่หาแต่ความรู้อย่างเดียวนะครับ ควรหาประสบการณ์ต่างๆ ด้วย เพราะจะช่วยเราในการใช้ชีวิตได้เยอะ ผมเองก็ทำตั้งแต่งานละครเวที โต้วาทีภาษาอังกฤษ พิธีกร ช่วยทำสแตนด์กีฬาสี แล้วก็ฐานกิจกรรมรับน้องฟรองเซ่ งานสืบสานวัฒนธรรมไทย กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ด้านดาราศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งผมก็ไม่ได้เก่งไปทุกอย่างหรอกครับ แต่การได้ทำก็ทำให้เราได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ แล้วมีประสบการณ์ที่มีค่าด้วย
        ส่วนการแบ่งเวลาก็ทำได้ แต่ต้องรู้ชัดเจนว่าช่วงนี้เราเป็นยังไง เรียนไหวมั้ย เหนื่อยเกินไปมั้ย ถ้าใช้เวลาเต็มที่กับทุกอย่าง ก็จะใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและลงตัว และจะสำเร็จทั้งการเรียนและกิจกรรมครับ ยืนยันว่ากิจกรรมไม่ได้ขวางการเรียนแน่นอน แต่กลับเป็นสิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้จริงๆ ครับ

Dek-D.com : ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จก้าวนึงแล้วหรือยัง ในเรี่องของการเรียน
น้องรัตน์ : แน่นอนครับ แต่ชีวิตนี้ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะครับ

Dek-D.com : ครอบครัวมีส่วนช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนของน้องรัตน์มั้ย
น้องรัตน์ : มีส่วนมากครับ (Dek-D.com : ยังไง) ซึ่งผมเป็นคนโชคดีมากที่มีแรงสนับสนุนที่ดีจากเพื่อน ครูอาจารย์ และที่สำคัญก็คือครอบครัว เพราะคุณพ่อคุณแม่จะสนับสนุนเราในสิ่งที่ดี และใช้เหตุผลตลอด ทำให้คิดเองเป็น ท่านทั้งสองเป็นคนจุดประกายให้ผมเป็นคนอยากเรียนรู้ ท่านหาหนังสือและสื่อต่างๆ มาให้ และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ กันอยู่เสมอ นอกจากนั้นครอบครัวผมก็จะพาผมไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ได้ทั้งพักผ่อนและยังทำให้ผมได้ประสบการณ์จากสถานที่ต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ผมสนใจด้านภาษาและวัฒนธรรมด้วยครับ

 Dek-D.com : การเรียนการสอนในโรงเรียนทั้ง ม.ต้น และม.ปลาย มีส่วนส่งเสริมให้น้องรัตน์ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
น้องรัตน์ : ในตอนมัธยมต้นผมอยู่ที่โรงเรียนพิชญศึกษา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีครับ แม้พิชญจะไม่ใช่โรงเรียนที่ดังที่สุด แต่ผมก็ได้รับโอกาสจากที่นี่เยอะมาก เพราะมีบรรยากาศที่ใกล้ชิด และครูก็ได้มอบโอกาสให้ทำกิจกรรมและเข้าร่วมหรือแข่งขันในกิจกรรมที่หลากหลาย ทำให้มีประสบการณ์มากขึ้น และยังได้เรียนภาษาจีนด้วย ส่วนที่เตรียมอุดม ตอนเรียนมัธยมปลาย การที่อยู่สายศิลป์-ฝรั่งเศส แล้วก็โครงการกิฟท์อังกฤษของโรงเรียน ได้ฝึกฝนเรื่องการใช้ภาษาเยอะมาก และได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์เก่งๆ หลายท่าน ในการเตรียมตัวสอบทุนเล่าเรียนหลวง นอกจากนั้นก็จะมีตัวอย่างของรุ่นพี่ที่เก่งๆ มีอาจารย์ที่ทุ่มเท ก็เลยเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันตัวเราด้วย
เด็กดีดอทคอม :: ล้วงเคล็ดลับเรียนเก่ง!! สู่ที่ 1 ของประเทศ
Dek-D.com : วางแผนอนาคตของตัวเองไว้อย่างไร
น้องรัตน์ : สิงหาคมนี้ก็จะเริ่มเรียนที่ Berkeley (เบิร์คลีย์) ครับโดยจะเรียนทางด้านรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และในช่วงสี่ปี ก็อยากจะไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสซักครั้ง และต่อปริญญาโทที่ Sciences Po Paris (สถาบันรัฐศาสตร์ปารีส) และประเทศอื่นๆ ด้วยครับ เพราะผมว่า IR เป็นวิชาที่ต้องเรียนจากหลากหลายมุมมอง หลังจากเรียนจบแล้วก็หวังว่าจะได้กลับมาเป็นนักการทูตที่กระทรวงการต่างประเทศ ในอนาคตประเทศไทยจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพราะศตวรรษที่ 21 นี้เป็นยุคของความร่วมมือระหว่างประเทศ อย่างเช่นปี 2015 นี้ ก็จะมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกว้างขวางต่อเศรษฐกิจ และการทำงานของทุกคนในประเทศไทยและอาเซียนครับ

Dek-D.com : อยากให้น้องรัตน์ลองแนะนำวิธีการค้นหาตัวเองให้เจอ เพราะว่ามีน้องๆ ม.ปลายหรือกำลังจะขึ้น ม.ปลายหลายคนยังไม่รู้ว่าอยากเป็นอะไร ก็เลยไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรหรือต่อสายอะไร
น้องรัตน์ : อันที่จริงการที่จะรู้ว่าอยากจะทำอะไรในอนาคตตั้งแต่วัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุด คือการเรียนในสิ่งที่ใจรัก และสนใจ เพราะจะเป็นแรงผลักดันให้น้องมีความพยายาม ลองนึกภาพตัวเองในอนาคตดู ว่าจะใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาอย่างไร แต่ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องทำตามค่านิยมที่ว่าต้องเข้าสายไหน โรงเรียนไหน หรือคณะไหน พี่ว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนไม่สำคัญครับ ขอแค่มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ชีวิตอยู่ในมือของเราแล้ว

Dek-D.com : อยากให้กำลังใจหรือมีอะไรฝากถึงน้องๆ ที่กำลังจะแอดมิชชั่นปี55 นี้มั้ย
น้องรัตน์ :
 ก็อยากบอกน้องๆ ว่า ในเวลาที่เหลืออยู่อีกปีนึง ขอให้น้องๆ เรียนแบบมีเป้าหมายนะครับ ไม่ใช่แค่เรียนผ่านไปวันๆ เพื่อให้จบๆ ไป นึกถึงว่าปีนี้เราต้องเจอข้อสอบอะไรบ้าง แล้วทำยังไงถึงจะผ่านไปได้ ซึ่งไม่ว่าข้อสอบจะเป็นยังไง เราอาจจะเปลี่ยนมันไม่ได้ แต่สิ่งที่น้องเปลี่ยนแปลงได้คือตัวของน้องเอง และเมื่อเรามีความมุ่งมั่น จนประสบความสำเร็จได้ คนที่ดีใจที่สุดไม่ใช่แค่ครอบครัว แต่จะรวมถึงตัวของน้องด้วย สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ ถ้าน้องตั้งใจทำเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรให้เสียใจครับ
เด็กดีดอทคอม :: ล้วงเคล็ดลับเรียนเก่ง!! สู่ที่ 1 ของประเทศ


        เห็นความคิดของน้องรัตน์แล้ว บอกได้คำเดียวว่าสมกับเป็นเด็กเก่งอันดับ1 ประจำปี2554 และว่าที่นักการทูตของประเทศจริงๆ ค่ะ แล้วน้องๆ ล่ะ ได้ข้อคิดหรือเทคนิคดีๆ อะไรกันบ้างป่าวเอ่ย ส่วนพี่มิ้นท์ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งค่ะว่า ความสำเร็จล้วนขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น ถ้ารู้จักใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา และเป็นนายตัวเองเข้าไว้ ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ ...ยังไงก็ช่วยกันเป็นกำลังใจให้น้องรัตน์/พี่รัตน์ ใช้ชีวิตในการเรียนทุนเล่าเรียนหลวงให้มีความสุข และได้กลับมาเป็นนักการทูต ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ตามที่หวังนะคะ ส่วนพี่ๆ Dek-D.com ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ แอดฯ55 ด้วยค่ะ สู้ๆ


ไม่มีความคิดเห็น: