วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บินไปกับเธอ...นางฟ้าแห่ง Sky Report


  ใครจะเชื่อ! เห็นหน้าหวานๆ อย่างนี้ เธอจะเป็นนักบินอาชีพ “นุ่ม-ทิพย์สุดา เจียมเจริญวุฒิ” นักบินหญิงมือหนึ่งแห่ง Sky Report ซึ่งเป็นคนแรกและคนเดียวที่ประจำฝูงบินครอบครัวข่าว 3 และเป็นสาวสวยคนเดียวในแผนก Checker กรมการบินพลเรือน งานที่ท้าทายและต้องใช้ความอดทนสูงเยี่ยงชายอกสามศอกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ ทั่วไป แต่ด้วยบุคลิกที่เรียบง่ายแบบสาวขาลุย และเป็นกันเองกับทุกคนที่พูดคุยด้วย เธอจึงผ่านทุกงานมาได้อย่างสบาย ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา หน้าที่การงาน จึงต้องยกให้เธอเป็นผู้หญิงเก่ง+แกร่งที่มากความสามารถ ซึ่งหาตัวจับยากอีกคนหนึ่งในวงการนักบินไทย
       
       พ่อเป็นกัปตัน แม่เป็นแอร์โฮสเตส และการเป็นนักบินโดยบังเอิญ จากเส้นทางเด็กนอกเรียนจบโปรดักต์ดีไซน์พานพบจุดเปลี่ยนของชีวิตจนได้เป็นนักบิน และเข้ามาอยู่ในสปอตไลท์ประจำฝูงบิน Sky Report ด้วยความสามารถที่ไม่เป็นรองใครกับความเป็นตัวเธอที่น่าสนใจ M-Lite จึงนัดหมายนักบินหญิงคนนี้มาพูดคุยเพื่อทำความรู้จักกับเธอในอีกหลายๆ มุมที่หลายคนไม่เคยรู้

        
       
       ครั้งแรกกับ Sky Report
       กว่าจะดึงตัวสาวนักบินสุดสวยมาแท็กทีมฝูงบินครอบครัวข่าว 3 นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าสาวนุ่มเล่นตัว แต่เพราะช่วงนั้นเวลาที่มีในแต่ละวันของเธอถูกใช้ไปกับการเรียนปริญญาโท และงานรับราชการประจำกรมการบินพลเรือน ด้วยความสามารถที่เข้าตาหัวหน้าฝูงบิน Sky Report ซึ่งคิดว่าเธอเหมาะสมที่สุด จึงอยากชักชวนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของฝูงบิน แม้ต้องใช้เวลาจีบเธอนานร่วมปี กว่านุ่มจึงจะยอมตกลงปลงใจมาประจำฝูงบินครอบครัวข่าว 3 (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์)
        
        
       “วันหนึ่งไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเพื่อน แล้วได้เจอ พี่โตโต้-คณรัชฏ์ นาควานิช พี่เขาเป็นหัวหน้าฝูงบินของ Sky Report ก็มีคนแนะนำว่าน้องคนนี้เขาเป็นนักบินนะ พี่โตโต้เขาก็บอกว่าที่ช่อง 3 เขากำลังเริ่มทำ Sky Report สนใจไหม แต่ตอนนั้นนุ่มกำลังเรียนปริญญาโทและทำงานอยู่ด้วย ก็เลยบอกเขาไปว่าไม่เอา เพราะตอนนั้นมันเหนื่อย พอทำงานเสร็จ 6 โมงถึง 3 ทุ่ม ต้องไปเรียนหนังสือต่อ ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ต้องไปบินอีก คงไม่ไหว”
        
        
       “เขาติดต่อตั้งแต่เดือนเมษายน พอเดือนตุลาคมก็โทรมาอีก เราก็ยังปฏิเสธเขาอยู่...” นั่นคือความพยายามของหัวหน้าฝูงบินของ Sky Report ที่เห็นแววของนุ่ม และอยากได้เธอมาร่วมงานอย่างจริงจัง
        
        
       ด้วยอาชีพของนุ่มที่ต้องรับราชการ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจนักบินตามสายการบินต่างๆ เวลาว่างจึงไม่ค่อยแน่นอน “บางทีอาทิตย์หน้าบอกว่าว่าง พรุ่งนี้อาจไม่ว่างแล้ว เพราะสายการบินเขาเรียกไปตรวจ จนกระทั่งปลายปีตอนนั้นมีงานฟุตบอล ฉลอง 39 ปี ช่อง 3ซึ่งผ่านมา 2-3 ปีแล้ว มี แดน วรเวช ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ เพื่อโชว์คอนเสิร์ต พี่โตโต้บอกว่ามาช่วยพี่ได้ไหม งานเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ นุ่มก็โอเค ก็เลยไป งานนี้จึงเป็นงานแรกที่ได้ทำกับช่อง 3”
        
        
       จะเห็นว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง กำลังได้รับความนิยม ทางช่องจึงผลิตพิธีกรผู้หญิงเก่งหลายคน และนุ่มก็เป็นผู้หญิงเก่งอีกคนหนึ่ง ในฐานะนักบินหญิงซึ่งหาตัวจับยากในเมืองไทย นุ่มเท้าความให้ฟังว่า “ตอนนั้นช่องจะโปรโมตว่าเรามีผู้หญิงเข้ามาในวงการที่ทำอะไรได้ มันน้อยที่จะเห็นผู้หญิงเข้ามาทำแบบนี้ อย่างนุ่มไม่ใช่คนของบริษัทสายการบิน นุ่มเหมือนเป็นกลาง ทำงานขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคม มันจึงนอกสังกัดได้ เขาจึงให้เรามาลองดูเพื่อโปรโมตรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง และรายการแจ๋วด้วย”

        
       
       Checker แผนกที่คนไม่ชอบขี้หน้า
       ไม่ใช่ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวและคนแรกที่ประจำฝูงบินครอบครัวข่าว 3 เท่านั้น ภายในกรมการบินพลเรือน ซึ่งเป็นที่ทำงานประจำของนุ่ม ที่นี่เธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวและคนแรกในแผนกเช่นเดียวกัน หน้าที่สำคัญของเธอคือ การตรวจเช็คภาคอากาศของนักบินสายการบินในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Checker แผนกที่คนทำงานสายการบินต่างๆ รู้สึกว่า “ไม่ชอบขี้หน้า” โดยเฉพาะนักบินและแอร์โฮสเตส ซึ่งต้องมานั่งตอบคำถามอย่างละเอียดยิบจากเจ้าหน้าที่ Checker 
        
        
       “ทุกสายการบินที่จะบินขึ้นฟ้าได้ มันต้องมีมาตรฐานต่างๆ นุ่มรับราชการในกรมการบินพลเรือน อยู่แผนก Checker ซึ่งตรวจสอบดูแลความปลอดภัยทั้งหมดบนเครื่องบิน และการปฏิบัติการบนเครื่องบินของทุกสายการบินในประเทศไทย เช่น การตรวจเครื่องบินใหม่ว่าเครื่องได้สเป็กตามความปลอดภัยของผู้โดยสารรึเปล่า แอร์โฮสเตสใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินเป็นหรือไม่ จึงเป็นอาชีพที่คนไม่ชอบขี้หน้าเท่าไหร่ เพราะว่าถ้าเราไปเขาก็จะโดนตรวจ”
        
        
       นุ่มรับราชการในเวอร์ชันที่แตกต่างจากงานราชการในแผนกทั่วไป ปกติระบบราชการต้องเข้างาน 8.30-16.30 แต่แผนกChecker ด้วยความที่ต้องตรวจเครื่องบิน ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีเวลาเดินทางแตกต่างกัน ระบบงานของนุ่มจึงหาเวลาที่แน่นอนไม่ได้ และงานของแผนกนี้บอกได้เลยว่าละเอียดจริงๆ ซึ่งเธอจะร่ายยาวให้เราฟังในบางส่วนพอเป็นกับแกล้ม
        
        
       “เครื่องบินต้องลงก่อนถึงจะไปตรวจได้ บางที 4 ทุ่ม ถึงตี 2 พอ 8 โมงเช้า เราต้องมาทำงาน แผนกเราจะเดินทางบ่อยมาก อาทิตย์หนึ่งนุ่มบอกตัวเองว่าต้องอยู่กรมฯ ให้ได้อย่างน้อย 2 วัน เพราะไม่อย่างนั้นเอกสารมันจะไม่เสร็จ นอกนั้นเราออกตรวจสายการบินหมดเลย เพราะในประเทศไทยมันไม่ได้มีแค่การบินไทย แอร์เอเชีย มันมีเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด”
        
        
       “สมมตินักบินการบินไทยจะบินไปฮ่องกง เราก็ต้องไปด้วย มันต้องตรวจดูว่าทั้งไฟล์เนี่ย ทำได้ถูกกฎระเบียบทั้งหมดหรือเปล่า นักบินรีพอร์ต 6 โมง นุ่มก็ไปรีพอร์ตกับนักบิน นักบินเดินขึ้นเครื่องก่อนผู้โดยสาร เพื่อไปตรวจเครื่องกัน นุ่มก็ต้องไปตรวจเครื่องกับเขา ตรวจแอร์โฮสเตสเสร็จ พอเครื่องจะบินนุ่มก็ไปนั่งเฉยๆ ทำตัวเหมือนเป็นผู้โดยสาร ขณะบินพอเขาให้คนเดินได้แล้ว นุ่มก็จะเดินตรวจทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับความปลอดภัยทั้งหมด” (ละเอียดมาก)
        
        
       “เขาบินไปไหนเราไปด้วย” รู้แล้วใช่ไหมว่าแผนก Checker ต้องเดินทางตลอดเวลา สายการบินหนึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจเครื่องบินแบบละ 4 ครั้ง/ปี คือ 4 รูท อินเตอร์ 4 รูท โดเมสติก คนทำงานเดินทางไปๆ มาๆ จึงต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา และไม่เป็นเวลาอีกตั้งหาก บางครั้งวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ได้หยุด นุ่มพูดย้ำกับเราว่า “อาชีพนี้ต้องทำเทรนนิ่งค่อนข้างเยอะ เราไปตรวจเขา เราต้องทันเขา เพราะโลกมันเปลี่ยนเรื่อยๆ เครื่องบินก็เปลี่ยนเรื่อยๆ” 

        
       
       เรื่องเสียวๆ กับนักบินจบใหม่
       ตอนนี้แทบทุกสายการบินในประเทศไทย จะเห็นว่ามีผู้หญิงเป็นนักบินเกือบทั้งหมดแล้ว และอาชีพนี้ยังเป็นอาชีพในฝันของเด็กๆ อีกหลายคน ที่อยากจะบินขึ้นฟ้าสักครั้งด้วยมือของตัวเอง และสิ่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งภาระกิจของนุ่มกับหน้าที่เช็คนักบินจบใหม่ 
        
        
       เมื่อต้องทำหน้าที่นี้ แน่นอน...ต้องขึ้นบินกับนักบินมือใหม่ ซึ่งมีชั่วโมงบินต่ำ (มาก) จึงมีเรื่องราวมากมายชวนให้ตื่นเต้นและหวาดเสียวขณะปฏิบัติหน้าที่
        
        
       “โรงเรียนการบิน เขาจะสอนนักบิน รุ่นละ 20-30 คน นุ่มจะเป็นคนขึ้นไปเช็คว่าบินได้จริงรึเปล่า คือต้องขึ้นบินไปกับเขา ก่อนที่จะเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ มันเสียวเหมือนกันนะ ต้องไปกันสองคน เวลาเช็คมันจะมีท่าทางการบิน ต้องเลี้ยวให้ได้แบบนี้ ซ้าย ขวา กี่องศา และความสูงห้ามเสีย เครื่องต้องนิ่ง แต่คนถูกเช็คเขาตื่นเต้น เราก็เคยเป็นมาก่อน พอนุ่มขึ้นไป เขาเหงื่อไหลเป็นทาง เราต้องบอกน้องให้ใจเย็น พี่ไม่ได้มาทำอะไร” 
        
        
       “บางคนมีชั่วโมงบินแค่ 40 ชั่วโมง มันน้อยมาก เคยมีครั้งหนึ่งเจอฝนเข้า เขาตกใจ เพราะข้างหน้ามองไม่เห็นอะไรเลย เขาหันมามองเรา เราก็บอกน้องอย่ามองพี่ มองข้างนอก (หัวเราะ) ใจเย็นๆ ค่อยๆ บินไป แล้วมองข้างในสลับกัน เพราะถ้าฝนเข้ามันเหมือนเราอยู่ในมุง มองไม่เห็นอะไรเลย ต้องมองข้างใน มันจะมีลูกโลกบอก ถ้าค่อยๆ หมุน แสดงว่าเราเอียงไปเรื่อยๆ แล้ว แล้วเครื่องบินมันจะค่อยๆ เอียง บางคนลงไม่เป็น ลงไม่ได้ก็ขึ้นไปใหม่ แต่เขาจะกลัวเรา ถ้าทำผิดครั้งหนึ่ง เขาคิดว่าตกชัวร์ ไม่ได้แน่ๆ แต่มันไม่ใช่ นุ่มจะดูการตัดสินใจของเขา ต้องบินด้วยความปลอดภัย” 
        
        
       “บางทีคนเก่งมากๆ ก็เป็นนักบินไม่ได้” นุ่มเล่าให้ฟังจากประสบการณ์ว่า คนเก่งจะรู้สึกว่าตัวเองถูกเสมอ ไม่ฟังใคร หรือถ้าเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเลยก็เป็นไม่ได้ จึงต้องเป็นคนอยู่ตรงกลาง การตัดสินใจค่อนข้างสำคัญ เพราะว่าจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ บางคนเห็นว่าฝนตกหนัก แล้วบินขึ้นไปไม่กลัว แต่คุณอาจจะไม่ได้กลับมา
        
        
       สำหรับเมืองไทยการเรียนเป็นนักบินตามหลักสูตร ใช้เวลาประมาณ 1 ปี 2เดือน ถ้าใครมีความตั้งใจสูงว่าจะเรียนบิน นุ่มมีข้อแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักบินมาฝากว่า “การเรียนเป็นนักบินมีกระบวนการในการสอบเข้ายาก มีตรวจร่างกาย สายตาสั้นห้ามเกินเท่าไหร่ ระยะการมอง คือ ถ้ามองตรงต้องเห็นด้านข้างออกไปเท่าไหร่ หูได้ยินไหม ตรวจสอบประสาทสัมผัสต่างๆ เขาจะมีการเทสต์เป็นลอจิก (Logic) ให้เราทำ สุขภาพจิตสำคัญมากเราต้องไปสอบจิตวิทยากับเขา ทำทั้งข้อสอบและเล่นเกม อาชีพนี้มันค่อนข้างเครียด เพราะเราต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ถ้าเมฆเข้า ฝนตก น้ำมันจะหมด...ถ้าใครเครียดเวลาต้องตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ก็จะเป็นนักบินไม่ได้”

        
       
       ลูกสาวกัปตันมืออาชีพ
       คุณลูกเป็นนักบิน คุณพ่อของเธอก็เป็นนักบินเช่นกัน ซึ่งเป็นอดีตกัปตันของการบินไทย แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่สิงคโปร์แอร์ไลน์ แม้ปัจจุบันคุณพ่อจะอายุ 59 ปีแล้ว แต่ยังคงบินอยู่ ส่วนคุณแม่เมื่อก่อนเป็นแอร์โฮสเตส ตอนนี้ออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว จะเห็นว่าชีวิตนุ่มมักพัวพันอยู่กับเครื่องบินมาตลอด จนกระทั่งมีอาชีพเป็นนักบิน แม้ว่าเธอจะเรียนจบด้านโปรดักต์ ดีไซน์มาก็ตาม
        
        
       “พ่อไม่เคยบอกว่าอยากให้เป็นนักบินหรืออะไรเลย คือจริงๆ นุ่มชอบเรียนศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ พอตอนเอนทรานซ์ พ่ออยากให้เรียนวิศวะ ก็เลยเรียนวิศวะที่ประเทศอังกฤษตามใจพ่อ พอเรียนจบปี 1 มาบอกพ่อว่าไม่อยากเรียน เราอยากวาดรูป พ่อเลยบอกว่าทำอย่างอื่นก็ได้ แต่ห้ามซ้ำชั้น จึงต้องไปไล่หามหาวิทยาลัย ตัวนุ่มอยากเรียนโปรดักส์ ดีไซต์ ในที่สุดก็เข้าได้ แล้วจบด้านโปรดักส์ออกมา”
        
        
       และแล้วเส้นทางการบินนักบินก็เข้ามาในชีวิตของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ “นุ่มค่อนข้างสนิทกับพ่อ พ่อบินไปไหนก็จะไปด้วย มันเหมือนการปลูกฝังเพราะอยู่กับพ่อเยอะ พ่อเรียนจบปุ๊บก็เป็นนักบิน จึงเหมือนมีแพตเทิร์นชีวิต คือต้องเซฟตี้นิดๆ มันเหมือนจะระวังไปหมด เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจว่าพ่อเป็นอะไรมากไปเปล่าเนี่ย แต่เราซึมซับมาโดยที่เราไม่รู้ตัว พอเราเป็นนักบิน สอบติดได้ส่วนหนึ่งมาจากความคิดที่เหมือนพ่อ บางคนเป็นไม่ได้เพราะว่าเขาไม่เซฟ แต่เราเหมือนเป็นโดยอัตโนมัติ ทำให้รู้สึกว่าเราก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย นอกจากตื่นเช้ามากขึ้น ตรงเวลาให้มากขึ้น สำคัญมากๆ” 
        
        
       “นุ่มมีน้องสาวกับน้องชาย แต่ก่อนน้องชายก็ไม่ได้อยากเป็นนักบินนะ แต่พอเห็นพี่สาวเป็นก็อยากไปสอบบ้าง เราเรียนคนละสายหมด น้องสาวเรียนหมอที่อังกฤษ แต่ตอนนี้จบแล้วมาเป็นหมอประจำอยู่ที่สิงคโปร์ และอยู่กับพ่อที่นั่น ส่วนน้องชายเรียนวิศวะ ตอนนี้ทำงานอยู่บางจาก เราพี่น้อง 3 คนห่างกันคนละปีๆ นุ่มกับน้ำเรียนอยู่อังกฤษ ส่วนน้องชาย ชื่อนวมไปเรียนที่อเมริกา แต่เราก็ไปๆ มาๆ หากันตลอด”
        
        
       ถ้าวันนี้นุ่มไม่มาเป็นนักบิน ตอนนี้คงทำโปรดักส์ ดีไซต์อยู่บริษัทไหนสักแห่ง และเราคงไม่ได้เห็นนักบินหญิงชื่อนุ่มในวงการนักบินไทย
        
       
       เส้นทาง (บังเอิญ) เป็นนักบิน
       นุ่มพาเราย้อนไปถึงวันแรกของการมาสมัครเข้าทำงาน หลังจากเรียนจบด้านโปรดักต์ ดีไซน์ จากประเทศอังกฤษ หลายคนคงแปลกใจว่าเธอเปลี่ยนใจมาเป็นนักบินได้ยังไง ทั้งที่เธอก็ชอบด้านโปรดักส์เป็นชีวิตจิตใจ
        
        
       “เราเคยคิดตอนเรียนอยู่เมืองนอกว่าทำอาชีพอะไรก็ได้ที่ไม่ได้รับราชการ ตอนแรกไปสมัครโตโยต้า เราเรียนด้านโปรดักส์เลยอยากทำโปรดักส์อะไรแบบนี้ และเราก็ไปสัมภาษณ์มาหลายที่ ตอนนั้นที่วิทยุการบินเขาเปิดรับสมัคร เราก็ไปสมัครแล้วเผอิญมันอยู่รั้วเดียวกันกับกรมการบินพลเรือน ไหนๆ ก็มาแล้ว ก็เลยเดินไปสมัคร พอเดินลงมาข้างล่าง เขาเรียกน้องมาสมัครราชการ เขามีสอบนะ เราก็เลยไปสอบ พอกลับบ้านมาบอกพ่อ พ่อก็บอกว่ารับราชการก็ดี ที่นี่ก็โอเค พ่อบอกโอเคก็เลยทำ”
        
        
       หลังจากที่นุ่มได้ทำงานที่กรมการบินพลเรือน ช่วยเรื่องด้านภาษาอังกฤษ ทดสอบภาษาอังกฤษกับนักบิน เธอคิดต่อไปว่าน่าจะเป็นนักบินด้วยจึงลองสอบดู และก็สอบได้จริงๆ พร้องทั้งได้ทุนเรียนบินที่ดอนเมือง ต่อจากนั้นเธอคว้าปริญญาโทในเมืองไทยมาอีกใบหนึ่ง เกี่ยวกับการสอบภาษาอังกฤษกับนักบินโดยตรง
        
        
       “การที่นุ่มไปอยู่อังกฤษมาเป็น 10 ปี มันก็แค่ 10 ปี มันไม่มีประกาศนียบัตรว่าฉันทดสอบคุณได้ นุ่มก็เลยไปเรียนเพิ่ม 1 ใบ เพื่อที่ว่าถ้าเขาถามว่านุ่มเป็นนักบินหรือเปล่า นุ่มก็จะบอกว่า “เป็นค่ะ” จบด้านภาษามาเหรอ ก็ตอบนักบินได้ว่า “ใช่” เพื่อที่จะได้ป้องกันตัวเองว่าเราจบมาทั้งสองอย่างนะ”
        
        
       สาวเก่งอย่างนุ่ม ก่อนที่จะเป็นคนเช็คนักบินจบใหม่ ก็เคยโดนเช็คมาแล้วเหมือนกัน จากประสบการณ์ตรงในการเข้าเรียนการบิน ซึ่งมีขั้นตอนการเรียนและการก้าวข้ามเพื่อเป็นนักบินเต็มตัวที่วัดใจสาวแกร่งอย่างเธอมากทีเดียว
        
        
       “ครูการบินจะเป็นอะไรที่โหดมาก ถ้าทำไม่ได้ก็จะโดนทำโทษให้วิ่งรอบสนาม วิดพื้นเหมือนผู้ชาย ทุกคนเท่าเทียมกันไม่มีผู้หญิงผู้ชาย เวลาเรียนบินตอนขึ้นบิน 15 เที่ยวบินแรกจะมีครูนั่งด้วย จากนั้นเขาจะให้เราขึ้นบินคนเดียวเพื่อให้รู้ว่าเราบินคนเดียวได้แล้ว บางคนเขาจะเอาพ่อแม่มาดู นุ่มคิดว่าถ้าพ่อมาคงไม่ได้บินแน่นอน เราก็จะตื่นเต้น พ่อก็จะตื่นเต้น เพราะลูกสาวจะบิน จนมีวันหนึ่งเราขึ้นบิน คุณครูหันมาถามว่ากลัวตายรึเปล่า นุ่มก็บอกว่าก็กลัวค่ะครู แต่หนูคิดว่าโอเคแล้ว ครูบอกว่าโอเคแน่นะ เราก็บอกว่าก็น่าจะได้นะค่ะ พอเครื่องลงปุ๊บ ครูเปิดประตูลงไปเลย เขาบอกว่างั้นไปเดี่ยวเลย ก่อนขึ้นนุ่มคิดอยู่ตลอดบอกตัวเองว่าทำได้... ทำได้ ขึ้นไปเลย โดยที่ไม่ได้บอกพ่อแม่ พอกลับลงมาจึงโทรบอกพ่อแม่ว่านุ่มปล่อยเดี่ยวแล้วนะ มันเป็นเหมือนเส้นชัยที่ข้ามไปแล้ว ตาย ไม่ตาย อยู่เส้นนี้ บางคนเอาแฟนไปดูแล้วบินไม่ได้ (หัวเราะ)”

        
       
       เรื่องเล่าในครอบครัวข่าว 3
       ผ่านมา 3 ปีแล้ว ที่นุ่มได้เข้ามาอยู่ในฝูงบินครอบครัวข่าว 3 จึงมีเรื่องราวและเรื่องเล่าสนุกๆ มากมายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้จึงเปิดโอกาสให้เธอได้เม้าท์ถึงเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะนักข่าวคนดังอย่าง กฤต-เจนพานิชการ และแยม-ฐปณีย์ ซึ่งเป็นทั้งเพื่อน พี่น้อง และคนในครอบครัวเดียวกัน ที่จะทำให้คนฟังพลอยหัวเราะตามไปด้วยกันกับเธอ 
        
        
       “ปกตินุ่มบินจะมีนักข่าวขึ้นไปด้วยหนึ่งคน ส่วนใหญ่จะเป็นพี่กฤต พี่แยม พี่บุษกร และก็มีตากล้อง บางทีมีเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาใน 3 มิติ เขาก็จะลองให้ขึ้นบินเล่นๆ บางทีเขาเมาเครื่อง...อ้วก (หัวเราะ) พอคนหนึ่งอ้วก ทุกคนก็จะพะอืดพะอมกันทั้งเครื่อง ก็จะตลกกัน โอ้ย! มีถุงโจ๊กกลับมาอีกแล้ว แต่พี่กฤตเขาบินจนไม่สะทกสะท้านแล้ว จริงๆ แล้วพี่ๆ เขาก็น่ารักนะ เวลาไปบิน นุ่มก็ไม่ค่อยได้ออกทีวีเยอะเท่าไหร่ มันจะเห็นแต่หลังหู ไม่เหมือนพี่กฤตที่น่าเด้งตลอด (ยิ้ม)”
        
        
       ในฐานะนักบินหญิงคนเดียวของฝูงบินครอบครัวข่าว 3 รู้สึกอย่างไรบ้าง “ไม่ต้องไปแข่งสวยกับใคร (หัวเราะ) เวลาบินจริงๆ นุ่มก็ไม่ได้แต่งหน้า ลุยๆ ค่ะ พี่แยมอย่างเนี่ย เขาไม่เห็นแต่งอะไรเลย ออกทีวีก็แบบเนี่ย เขาปกติมาก มีแต่คนลุยๆ ทั้งนั้นเลย แต่คนที่สนิทสุดในทีมก็จะเป็นพี่กฤตกับพี่โตโต้นี่ล่ะค่ะ เพราะต้องอยู่ด้วยกันตลอด พี่กฤตต้องเจอกันเกือบทุกงาน”
        
        
       นุ่มเป็นนักบินที่ขับเครื่องบินเพียงอย่างเดียว ซึ่งการปฏิบัติงานจะแตกต่างจากนักบินเฮลิคอปเตอร์ ลักษณะงานที่ได้จะเป็นการทำข่าวที่ใช้ครื่องบินในการบินโฉบเพื่อให้เห็นสถานการณ์โดยรอบ อุปสรรคใหญ่สำหรับการรายงานข่าวบนเครื่องบิน นั่นคือ สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ฉะนั้นการตัดสินใจของนักบิน (นุ่ม) จึงเป็นสิ่งสำคัญ
        
       “บางทีเจอสภาพอากาศไม่ดีตอนบินทำข่าว วิวไม่ได้ หรือมีเมฆอะไรอย่างนี้ ถ้าเขาจะขอบินวนอีกทีได้ไหม แต่บางทีมันทำให้ไม่ได้ เพราะว่าถ้าสภาพอากาศไม่ดีมันก็ไม่ได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้เลย จึงต้องกลับลงมา มันจะมีข่าวอากาศออกมาในคอมพิวเตอร์ว่าจุดนี้ตอนนี้อากาศเป็นยังไง ถ้าเราบินขึ้นไปแล้วกลับมาฝนจะตกไหม มันต้องดูระยะเวลาที่เราจะไปด้วย ถ้าไปได้แล้ว แต่กลับมาไม่ได้มันจะเป็นปัญหา ก่อนบินเราต้องดูแผนที่ว่าเราจะไปตรงนั้นกี่นาที และช่วงที่กลับมาลงได้รึเปล่า ถ้าอย่างนั้นเหมือนตอนที่พี่กฤตเขาไปทำข่าวเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.เพชรบุรี เขื่อนแก่งกระจาน ถ้าเราฝืนมันจะเป็นสภาพอย่างนั้น”
        
       
       ตัวจริงของนุ่ม 
       ทางเฟซบุ๊กมักมีคนชมเธอว่า “นักบินหญิงคนแรกและคนเดียวของฝูงบินครอบครัวข่าว 3 สวยด้วย เก่งด้วย เพียบพร้อมทุกอย่าง” พอได้ยินอย่างนี้แล้ว เรามาฟังกันว่าเธอรู้สึกอย่างไรบ้าง “ขอบคุณนะค่ะ แต่ตัวจริงๆ ของนุ่ม ธรรมดามาก คือนุ่มคิดว่าเราไม่ได้เก่งอะไรมาก นักบินหญิงทั่วไปก็เท่านุ่มหมดแหละ แค่เขาไม่ได้อยู่ในสปอตไลท์เหมือนนุ่ม นั่นคือข้อแตกต่าง”
        
       นุ่มเป็นคนธรรมดามาก ถึงนุ่มจะบอกว่าตัวเองเรียนเมืองนอกมา บางคนจะบอกว่าไฮโซมาก แต่นุ่มธรรมดามากเลยนะค่ะ หน้าก็ไม่ค่อยแต่ง จนช่อง 3 ว่าให้แต่งหน้าบ้างนะ พี่ขอร้อง (หัวเราะ) เดี๋ยวคนเขาจำเราได้ อ้าว! ทำไมหน้าอย่างเนี่ยอ่ะ โห...พี่หนูเป็นนักบิน ไม่ได้เป็นแอร์ฯ ที่จะต้องสวยตลอดเวลา บางทีมันเช้ามาก แค่มีปัญญาตื่นมาสระผมก็ดีแล้ว (หัวเราะ) แต่สิ่งสำคัญของนุ่มคือ ครีมกันแดด บางทีทาหน้าขาวแล้วแกล้งยื่นหน้าไปหาพี่กฤตให้เขาตกใจ เป็นเหมือนแป้งแปะหน้ามา (หัวเราะ) เพราะเราสู้แดดตลอด แต่มันสนุก มันเป็นอาชีพที่ห่วงสวยไม่ได้ ยังไงมันต้องถูกแดด จึงต้องเป็นคนลุย อดทน นุ่มไม่อยากให้ใครพูดว่า คุณหนู หรือผู้หญิงก็เงี่ยล่ะ แต่นุ่มอึด นุ่มทำได้
        
       นุ่มมีคติในการใช้ชีวิตจากประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก จะบอกว่าเธอเป็นเด็กคนหนึ่งที่โชคดีก็คงไม่ผิด เพราะได้ออกเดินทางตั้งแต่เด็ก โชคดีที่มีคุณพ่อเป็นนักบิน ไม่ว่าพ่อจะบินไปไหนจะมีเธอคอยติดสอยห้อยตามตลอด จึงไม่แตกตื่นกับการออกนอกประเทศ ไม่แตกตื่นกับการเปลี่ยนที่ และคุ้นชินกับการเดินทางด้วยเครื่องบิน ทำให้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรจึงดูคล่องตัวไปเสียหมด ไม่กลัวอะไร เพียงแค่ไม่ลุยเท่า “แยม-ฐปณีย์” เท่านั้นเอง
        
       “ตอนเด็กเราซนมาก ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ยุ่งกับเขาไปหมด แต่โตขึ้นมาจึงอยากเรียนรู้อะไรในสิ่งที่เราทำไม่ได้ นุ่มเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก แต่ก่อนอยู่เมืองนอกเป็นโรงเรียนประจำ เรียนโรงเรียนคริสต์ ตอนเย็นก็ต้องอ่านไบเบิล นิยายก็อ่านอย่างแฮรี่พ็อตเตอร์ อ่านตั้งแต่ยังไม่เป็นหนังเลยนะ พวกลอร์ดออฟเดอะริงส์นุ่มก็อ่าน นิยายบ้าบอก็อ่านมาตลอด”
        
       แม้เวลาว่างจะมีไม่มาก แต่ถ้าหาได้จริงๆ เธอขอใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากกว่าออกไปข้างนอก “นุ่มจะอยู่บ้าน ดูดีวีดี ที่บ้านมีหมาเยอะมาก มีโกลเด้นท์ 10 ตัว มันตัวใหญ่มากหนัก 47 กิโลกรัม (หัวเราะ) มันมีลูกแล้วนุ่มไม่ได้ให้ใคร มันน่ารัก ชอบเล่นกับมัน นอนเล่น อย่างที่บอกนุ่มเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย กินก็ขนมปังนมเนย กินก๋วยเตี๋ยวยังไม่ปรุงเลย ร้านไหนให้อะไรมาก็กินอย่างนั้น”
        
       เมื่อถามถึงใครเป็นไอดอล นุ่มตอบอย่างทันทีว่าคุณพ่อ “พ่อเป็นคนอึดมาก เครื่องลงตี 5 นุ่มลงมา 8 โมงเช้า พ่อก็ไปทำงาน ถามพ่อไม่นอนเหรอ เขาบอกไม่นอน และพ่อจะเป็นคนที่ตื่นเช้ามาก จนถึงทุกวันนี้ยังเป็นคนนอนดึกและตื่นเช้ามากตลอด ตื่นก่อนนุ่มเสมอ เขาเป็นคนรักครอบครัว ตอนนี้นุ่มอายุ 29 ปีแล้ว พี่ที่ทำงานยังแซวว่า อายุ 29 แล้วพ่อยังมาส่ง บางวันถ้าวันไหนพ่ออยู่บ้าน พ่อจะไปส่ง พอ 4 โมงครึ่ง พ่อมานั่งรอข้างล่าง มารับแล้ว คือเราสนิทกับพ่อ”
        
       
       ใกล้เวลาสละโสด
       อย่างที่บอกมาตลอด ชีวิตนุ่มมักพัวพันอยู่กับเครื่องบิน กัปตัน แฮร์โฮสเตส รวมถึงหนุ่มคู่ใจที่ไม่มีใครจะเข้าใจมากกว่าอาชีพเดียวกัน
        
       “อย่างคุณพ่อกับคุณแม่เขาคบกันมาเหมือนเป็นเพื่อนกัน ความเป็นเพื่อนนั้นสำคัญมาก สำหรับนุ่มคือถ้าเราเป็นแฟนกัน เรารักกัน และถ้าเราไปหวังว่ามันเป็นความรักอย่างเดียว เวลาเราทะเลาะกันจะรุนแรง อย่างตัวนุ่มขอเลือกคนที่ช่วยเหลือเราได้ บางทีนุ่มมีความรู้สึกว่านุ่มทำเองก็ได้ทุกอย่าง แต่เมื่อวันหนึ่งที่นุ่มรู้สึกว่ามันก็มีบางอย่างที่นุ่มทำไม่ได้ อาจจะไม่มีเวลา ไม่ถนัด หรือไม่เก่ง เพราะนุ่มไม่ได้เก่งทุกอย่าง พ่อพูดเสมอว่าให้เลือกคนอย่าขี้เกียจ คือคนจนขนาดไหน แต่ถ้าไม่ขี้เกียจมันก็มีหนทางไป และอย่าขี้งก คือไม่ต้องการให้จ่ายอะไรให้นุ่ม แต่ดูแลเราได้”
        
       และหนุ่มคนนั้นที่นุ่มเลือกก็คือ “ป๊อป” นักบินการบินไทย ซึ่งทั้งสองคนกำลังจะมีพิธีวิวาห์ ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ สาวๆ หลายคนคงอิจฉาเธอแน่ๆ ว่าทำไมชีวิตของสาวนุ่มช่างเฟอร์เฟคขนาดนี้
        
        
       “จะแต่งงานวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคมนี้ บอกทุกคนแล้ว แต่ยังไม่ได้แจกการ์ดเลย (หัวเราะ) วางแผนตั้งแต่มีนาคม คิดว่า 9 เดือนทันชัวร์! พอน้ำท่วมทีดับเลย (หัวเราะ)” แล้วหลังงานแต่งจะมีทริปฮานีมูนที่ไหนเอ่ย “ป๊อปมีบินช่วงปีใหม่พอดี คนทำอาชีพนี้ต้องทำใจนิดนึงว่าวันสำคัญมันจะไม่มี เราต้องเข้าใจบางทีนักบินบางคนเป็นแฟนกับคนธรรมดา เขาเลิกกันไปหลายคู่มาก เพราะผู้หญิงเขาไม่เข้าใจ ทำไมต้องไปวันเกิดฉัน ทำไมวันวาเลนไทน์ไม่อยู่ อย่างพ่อนุ่มนับได้เลยวันเกิดอยู่กี่ครั้ง วันไหนพ่ออยู่มันก็คือวันสำคัญเหมือนกัน บ้านนุ่มไม่อะไรกับวันพวกนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นนุ่มจะไม่ทะเลาะกันเลย”
        
       “ถ้าเขาไม่รักครอบครัวเขา เขาก็ไม่รักครอบครัวนุ่มหรอก” แม้คนดีๆ จะหายาก แต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้ ก่อนที่จะแต่งงานแม่บอกนุ่มว่า “หาคนดีๆ เหมือนพ่อเนี่ยยาก ได้ครึ่งหนึ่งก็ยังดี แต่คนนี้ก็โอเค ถ้าพ่อชอบแม่ชอบ ถือว่าโอเค และเขาก็เป็นคนรักครอบครัว ป๊อปไม่ใช่คนขี้หึง เขารู้ว่านุ่มล้อมรอบไปด้วยนักบินผู้ชาย แต่เขาไม่หึง เพราะอาชีพเราเป็นอย่างนี้ อย่างป๊อปอาชีพเขาอยู่กับแอร์ฯ สวยๆ นุ่มก็ไม่หึง เพราะเป็นอาชีพเขา มันคือเพื่อนร่วมงาน”
        
       สุดท้ายอยากให้นุ่มฝากถึงคนที่มีความฝันอยากเป็นนักบินเหมือนเราบ้าง “ถ้าอยากเป็นนักบินต้องตรงต่อเวลา ให้คนอื่นรอไม่ได้ ผู้โดยสารนั่งรอ 400 คน มารอเราคนเดียว ห้ามเด็ดขาด ต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและคนอื่น ถ้าจะทำอะไรต้องระวัง คิดดีๆ ปอดแหกบ้างถ้าจำเป็น กล้าบ้าง แต่ถึงจุดหนึ่งต้องรู้ว่าพอแล้ว ต้องกลับหลังหันให้ได้ เมื่อเจอสภาพอากาศไม่ดีอย่าไปฝืน นอนค้างที่ไหนก็ได้ เพราะถ้าฝืนบินไปอาจจะไม่ได้กลับบ้าน”
       
       


       
       ประวัติส่วนตัว
       ชื่อ : นุ่ม-ทิพย์สุดา เจียมเจริญวุฒิ
       วันเกิด : 27 เมษายน 2525 (อายุ 29 ปี)
       น้ำหนัก/ ส่วนสูง : 58 กก./ 170 ซม.
       การศึกษา : จบการศึกษา ป.6 ที่เมืองไทย และไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษจนจบปริญญาโท
       มัธยม - st. James School, Worcestershite,Uk อังกฤษ
       ปริญญาตรี - London Metropolitan University,Uk (Major : Product Design)
       ปริญญาโท -London Metropolitan University,Uk (Major : Product Development)
       การทำงาน : รับราชการประจำอยู่ที่กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม (ปี 2549)
       ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่เทคนิคการบิน และเป็นนักบิน
       ทำหน้าที่ตรวจ Check ภาคอากาศของนักบินสายการบินในประเทศไทย และนักบินจบใหม่
       ทำหน้าที่ทดสอบภาษาอังกฤษของนักบิน และพนักงานวิทยุการบินแห่งประเทศไทย
       และเป็นนักบินหญิงประจำฝูงบินครอบครัวข่าว 3 บินทำข่าว เฉพาะวัน เสาร์-อาทิตย์ (ปี 2552)
        
        
        
        
        
       ข่าวโดย Manager Lite /ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น: