วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

O-net 2554 ดังอีกแล้ว !!! ข้อสอบกำกวม









            เป็นประเด็นที่ต้องนำมาถกกันทุกปี สำหรับการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือที่เรียกกันว่า O-net ที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพิ่งสอบไปเมื่อวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเด็กนักเรียนทั้งหลายเมื่อเจอข้อสอบแล้ว เป็นอันต้องอึ้ง งงเป็นไก่ตาแตกเพราะข้อสอบนั้นมีข้อคำถามที่กำกวม... จนไม่สามารถตัดสินใจเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้...และเมื่อออกจากห้องสอบ ข้อคำถามดังกล่าว ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงกัน โดยเหล่านักเรียนชั้นม. 6 ได้จำข้อคำถามดังกล่าว แล้วนำเอาไปโพสต์ลงที่เว็บไซต์ต่าง ๆ

            โดยเฉพาะข้อสอบสุขศึกษาที่ถูกถามถึงเป็นอย่างมาก คือ ..


 หากเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาต้องทำอย่างไร"

            ก.ชวนเพื่อนไปเตะบอล
            ข.ปรึกษาครอบครัว
            ค.พยายามนอนให้หลับ
            ง.ไปเที่ยวกับเพื่อนต่างเพศ
            จ.ชวนเพื่อนสนิทไปดูหนัง

 "เป็นแฟนกันต้องแสดงออกยังไงให้ถูกประเพณีไทย"

            ก.เดินโอบไหล่ซื้อของ
            ข.ชวนไปทานข้าวดูหนัง
            ค.นอนหนุนตักในที่สาธารณะ
            ง.ชวนกันไปทะเลค้างคืน
            จ.ป้อนข้าวกันในร้านอาหาร

 "อาการลักเพศจะมีพฤติกรรมแสดงออกมาอย่างไร"

            ก.สะสมชั้นในเพศตรงข้าม
            ข.แต่งกายเลียนแบบเพศตรงข้าม
            ค.รักกับเพศเดียวกัน
            ง.โชว์อวัยวะเพศ
            จ.แอบดูเพื่อนต่างเพศในห้องน้ำ

            ข้อสอบวิทยาศาสตร์ที่ถูกถามถึงเป็นอย่างมาก คือ ..

 "ชาวบ้านเจอวัตถุประหลาด ลักษณะกลม ๆ นิ่ม ๆ ต้องให้กินน้ำไม่งั้นจะหดเล็กลงเป็นก้อนแข็ง ๆ แต่พอให้น้ำจะกลับสภาพเดิม สิ่งนั้นคืออะไร "

            ก.ไข่พญานาค
            ข.ไข่สลาแมนเดอร์ยักษ์
            ค.หินเขี้ยวหนุมาน
            ง.เม็ดชานมไข่มุก
            จ.เจลดินวิทยาศาสตร์

            จากข้อคำถามดังกล่าว ล่าสุด วานนี้ (20 กุมภาพันธ์) นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตนยังไม่เห็นข้อสอบจึงไม่สามารถแสดงความเห็นได้ในเรื่องนี้ แต่การออกข้อสอบทุกข้อทุกวิชา จะต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อวัดผลอยู่แล้ว และต้องมีมาตรฐาน ต้องผ่านการกลั่นกรองหลายขั้นตอนกว่าจะมาเป็นข้อสอบ 1 ข้อ

            อย่างไรก็ตาม นายสมหวัง  กล่าวต่อว่า ในส่วนของตัวข้อสอบนั้น ถึงแม้ว่าตนจะมีตำแหน่งเป็นประธานบอร์ด สทศ. แต่ไม่มีสิทธิพิเศษที่จะเห็นข้อสอบก่อนการสอบ  จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รับผิดชอบในส่วนนี้ ซึ่งคนที่จะให้ข้อมูลได้ดีที่สุดคือ นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สทศ. เพราะเป็นผู้กำกับดูแลทั้งหมด แต่ถ้าหากมีนักเรียนคนไหนมีข้อคำถามเกี่ยวกับข้อสอบ ขอให้เสนอเข้ามาที่นายสัมพันธ์ได้เลย

            ขณะที่ นางอุทุมพร จามรมาน ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการแผ่นดิน อดีต ผอ.สทศ. ให้สัมภาษณ์ว่า ปกติข้อสอบที่ดีต้องไม่กำกวม และข้อสอบต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งสมัยตนดำรงตำแหน่งเคยมีข้อสอบสุขศึกษาและพลศึกษาเป็นที่ที่ฮือฮาเหมือนกัน โดยถามว่า  "ถ้าตั้งครรภ์แล้วที่ถูกต้องควรไปหาใคร" ซึ่งก็มีนักเรียนท้วงติงมา แต่ถ้าจริง ๆ แล้วนักเรียนอ่านหนังสือมาจริง ๆ ก็จะทราบว่า คำตอบต้องตอบว่า "ไปหาพ่อแม่" ซึ่งเด็กส่วนมากเลือกตอบ "ไปหาเพื่อน" ซึ่งเป็นการคิดในสังคมปัจจุบัน

            ส่วนคำถามในปีนี้ที่ถามว่า "หากเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาต้องทำอย่างไร" นางอุทุมพร กล่าวว่า คำตอบที่ถูกต้องคือ "ปรึกษาครอบครัว" ซึ่งข้อสอบเหล่านี้เป็นข้อสอบที่แสดงถึงข้อเท็จจริง ต้องตอบอิงความเป็นจริงที่ถูกต้อง ไม่ใช่ตอบตามความเป็นจริงในสังคม และตนคิดว่า เรื่องนี้คุณครูจะต้องสอนตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ตนจึงคิดว่า ข้อสอบดังกล่าว ออกได้ เพราะโอเน็ตเป็นข้อสอบที่วัดผลการเรียนการสอน ไม่ได้วัดผลตามการใช้ชีวิต

            ทางด้าน นางสาวเพชรไพริน ทองพหุสัจจะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า ข้อสอบโอเน็ตในปีนี้ สำหรับวิชาสุขศึกษา ตนคิดว่าไม่ยาก แต่ตัวเลือกทั้ง 5 ข้อค่อนข้างกำกวม เช่นข้อที่ถามว่า เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาต้องทำอย่างไร มีตัวเลือกที่ชวนเพื่อนไปเตะบอล ซึ่งตนเป็นผู้หญิง ตนก็ไม่เลือกข้อนั้่นอยู่แล้ว และตนก็ไม่รู้ข้อไหนเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ผู้หญิง และผู้ชาย อาจจะตอบไม่เหมือนกันก็ได้ ตนจึงไม่แน่ใจว่า ข้อความวัดอะไร แต่ที่แน่ ๆ คือข้อสอบข้อนี้กำกวมมาก

Credti  เรื่องเล่าเช้านี้  kapook.com หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น: