วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

คนสอบติดเค้าอ่านกันแบบนี้นี่เอง !! วิธีการอ่านหนังสือ ...1 เดือนสุดท้ายก่อนสอบ

บทความนี้นำมาจาก เว็บบอร์ดเตรียมทหาร ซึ่ง คุณพี่ชฎา ได้แนะนำวิธีการอ่านหนังสือและเตรียมตัวสอบ ซึ่งพี่เค้าใช้วิธีนี้พิชิตการสอบ กสพท มาแล้ว *0* / ผมก็เพ่งจะรู้ว่าคนเก่งๆเค้าวางแผนอ่านหนังสือกันขนาดนี้เลย สมแล้วที่สอบติด *0* 
น้องสามารถนำไปประยุกต์ในกับการสอบตรง gat/pat วิชาสามัญ onet ได้เลย
...........................
ตั้งแต่วันนี้มันเหลืออีกแค่ประมาณ1เดือนถูกมั๊ยน้อง?  หนึ่งเดือนที่เหลือนี้ควรจะเป็นเดือนที่น้องฟิตที่สุดนะจ้ะ   ถือว่าสำคัญมาก เรียกได้ว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายเลยที่เดียว
พี่ชฎาแนะนำว่าให้น้องแบ่งก่อนเลยว่า 3อาทิตย์แรก เป็นช่วงที่เรายังสามารถหาความรู้เพิ่มเติ่มได้เต็มที่
แต่ในอาทิตย์สุดท้าย...หยุดหาเลยนะน้อง   อาทิตย์สุดท้ายเป็นช่วงเวลาแห่งการกระฉับความรู้ที่เรามีอยู่ให้แน่นปึก!นะจ้ะ
เพราะฉะนั้น พอเข้าอาทิตย์สุดท้ายแล้วนี่ ให้น้องทำใจเลยว่าได้แค่ไหนแค่นั้น เอาความรู้เดิมๆที่มีอยู่แหละมาทวนให้เป็นประโยชน์ที่สุด
ในหนึ่งเดือนข้างหน้านี่    น้องตั้งเนื้อหาเลยคะว่าจะทำอะไรบ้าง ให้listเป็นที่ละวันเลยค่ะ ว่าแต่ละวันจะอ่านวิชาอะไรบ้าง เนื้อหาครอบคลุมส่วนไหนบ้าง
ก่อนที่น้องจะว่างแผนหนึ่งเดือนนี้ พี่แนะนำให้น้องเริ่มต้นด้วยการทำข้อสอบเก่าปีล่าสุดอีกครั้งนะจ้ะ เพื่อเป็นการเช็กตัวเองว่า เรายังขาดเรื่องไหนอยู่ และใน1เดือนที่เหลือนี้เราควรจะเน้นวิชาไหน  (ให้เน้นวิชาที่น้องยังขาดอยู่น้า ส่วนวิชาที่ได้แล้วต้องรักษาเอาไว้อย่าให้ลืม)
เวลาอ่านหนังสือให้น้องแบ่งเป็นสามชุดนะคะ  คือ เช้า บ่าย และค่ำ อาจมีรอบดึกได้ถ้าน้องไหว
แต่ละชุดแบ่งเป็นสองยก ยกละ 2 ชม. ซึ่งใน2ชม.นี้จะประกอบได้ด้วย อ่าน1.50ชม. พัก 0.5ชม.นะ
นอนต้องดูก่อนว่าวันนึง นอนต้องใช้เวลาในการนอนเท่าไหร่  การนอนเป็นเรื่องสำคัญนะจ้ะ  ถ้านอนไม่พอทุกอย่างจะเสียหมดเป็นโดมิโน  แทนที่จะเป็นผลดี กลับกลายเป็นผลเสียระยะยาวคะน้อง
พี่แนะนำให้น้องกำหนดเวลาตื่นคงที่ที่ 6.00น.คะ  ส่วนเวลานอน น้องต้องดูเองว่าน้องต้องใช้กี่ชม. อย่างน้อยต้องมี6ชม.นะคะ และพี่แนะนำว่าอย่านอนเกิน8ชม. ไม่งั้นจะเป็นโรคขี้เกียจนะจ้ะ
สรุปคือ นอนช้าสุดเที่ยงคืน และนอนเร็วสุด 4ทุ่ม เป็นเวลาที่กำลังดี
6.00-12.00น.   น้องสามารถทำเต็มที่ได้3ยก (มี6ชม.)) แต่พี่ชฎาไม่เคยอ่านได้ถึงสามยกนะคะ อย่างมากก็สองยกครึ่ง
หรือไม่น้องอาจจะเปลี่ยนจากยกละ2ชม.เป็นยกละ3ชม.ก็ได้ คืออ่าน2ชม.ครึ่ง พักอีกครึ่งชม.

แล้วน้องก็พักระหว่างช่วงเช้ากับบ่าย  ประมาณ1-1.5ชม. นะจ้า  แล้วก็มาต่อยกบ่าย อีก 2 ยก กำลังดี
เสร็จแล้วน้องก็พักระหว่างช่วงบ่ายกับช่วงค่ำ 
แล้วก็ต่อช่วงค่ำอีก2 ยก
น้องจะเลือกวิชาไหนมาใส่ก็ได้  สมมติน้องยังไม่เก่งเลข วันหนึ่งพี่แนะนำให้น้องทำโจทย์เลข 2ยก ก็เต็มที่แล้วคะ
แต่อย่าเอาวิชาเดียวมาอยู่ติดกันนะน้อง 
น้องจะเบื่อเอง ให้เอาวิชาสลับกันไปมา
เช่นยกที่ 1 อาจจะเริ่มด้วยวิชาเลข เพราะยังเป็นช่วงเช้าอยู่เป็นช่วงที่สมองสดใส คิดเลขแล้วก็จะจำไว้
ยกที่2  พอทำเลขเสดแล้ว ให้น้องกันมาทำวิชาเบาๆคะ อย่างเช่น อังกฤษ ไทย หรือสังคม
ไทยสังคมนี่อย่าทิ้งนะคะ   มันจะเป็นตัวช่วยที่คนอื่นมองข้าม แต่มันสามารถนำเราไปสู่ประตูชัยได้คะ
น้องคิดดูนะคะ กว่าน้องจะฝึกโจทย์เลข เพื่อมาทำข้อสอบให้ได้1ข้อ เนี่ย ก็เป็นเรื่องที่หนักหนาพอสมควร  แต่ถ้าน้องอ่านไทยสังคม แล้วน้องแค่ จำได้ เนี่ย น้องเห็นโจทย์แล้วก็ตอบได้เลย ถ้าพูดกันจริงๆแล้ว เอาเวลาที่น้องทำโจทย์เลขมารวมกันเนี่ย มันมากกว่าเวลาที่น้องอ่านไทยสังคมอีกนะคะ  เพราะฉะนั้นน้องก็ต้องฉลาดเลือกว่าควรจะอ่านอันไหนในสัดส่วนเท่าไหร่
พอจบยกสองแล้วพัก เข้าสู่ตอนบ่าย แนะนำให้เริ่มด้วย วิชาวิทยาศาสตร์ค่ะ พวกฟิสิกส์ไรแบบนี้  เพราะน้องเพิ่งกินข้าวมาแล้วมันจะง่วง ต้องทำวิชาคำนวณ หรือไม่ถ้าจะเอาเลขยังทำได้เลยคะยกนี่


เอาเป็นว่า วันนึงควรมีอย่างน้อย 6 ยกนะคะน้อง     น้องอาจเพิ่มเป็น7ได้ถ้าน้องไหว
สำหรับที่น้องบางคนที่ถามพี่ว่าทำอย่างไงกับเลข  วิธีการทำโจทย์ก็แบบที่พี่บอกเลยน้อง แต่พี่แนะนำว่าให้น้องทำเลขวันละ2ยกค่ะ เพราะน้องไม่ได้ตรงนี้น้องก็ควรแก้ภายใน3อาทิตย์หรือ 21วัน  ซึ่ง21วันนี่นะคะ น้องสามารถทำโจทย์เลขได้ถึง42ยกเลยนะคะ
ที่นี้เหลืออีก 4 ยก  
พี่แนะนำว่าเวลาอ่านไทยกับสังคมให้จับมาอยู่ในยกเดียวกันคะ       ไม่งั้นน้องจะรู้สึกเบื่อมากๆ ถ้าแยกยกกัน
ส่วนอังกฤษ ไปท่องศัพท์เลยตอนนี้ ศัพท์ที่รู้แล้วก็อย่าให้ลืม  ศัพท์ที่มาใหม่ก็ท่องให้ได้ อาจจะท่องศัพท์สัก40นาที แล้วแบ่งเวลาให้แกรมม่า     อังกฤษนี่เอาไปเลย 1ยก       
ส่วนเคมีกับชีวะ ก็ให้จับอยู่ในยกเดียวกันคะ        เนื้อหามอต้นสองวิชานี่ไม่ค่อยมีคำนวณส่วนใหญ่จะอ่านอย่างเดว เพราะฉะนั้นแค่ยกเดียวพอ
ส่วนฟิสิกส์ก็อีกยกคะ          อันนี้ทวนสูตร ทำโจทย์ไม่ให้ลืม
ทั้งหมดรวมแล้ว6ยกพอดี ครบ1วันเลยน้อง^^          แถมน้องยังต่อได้อีกยกด้วยนะ ถ้าน้องนอนแค่6ชม.อ่ะนะ

วิธีการแบบนี้เป็นวิธีการอ่านหนังสือวันเดียวให้ได้ครบทุกวิชา พี่เข้าใจนะว่าเวลาแบบนี่ จะเริ่มเกิดอาการลน  ประมาณว่าหยิบ จับอะไรขึ้นมาอ่านก็จะพะวงหน้าพะวงหลัง กับอีกวิชา 
พี่จะบอกน้องว่า น้องอย่าไปเกร็งค่ะ            
คนอื่นเป็นเหมือนเราหมด แต่ขอให้นอ้งทำตามแผนที่วางไว้ให้ได้ และมีสมาธิกับเนื้อหาที่กำลังอ่านอยู่      
     คือถ้าอ่านวิชาเลขอยู่ ก็อย่าไปคิดถึงวิชาอื่น จนกว่าน้องจะพัก ค่อยมานั่งคิด
หมั่นดูสูตรเพิ่มเติมด้วย บางทีเราอาจจะไม่รู้วิธีลัด ที่มันเร็วๆ น้องไปดูสรุปเลขของพี่รึยัง อยู่ในบอร์ดเลขอะจ้า ไม่ต้องจำหมดทุกอัน จำแค่ที่น้องเอามาประยุกต์ได้ อย่าสักแต่ว่าจำนะจ้ะ ต้องฝึกเอามาใช้ด้วย ไม่งั้นพอถึงเวลาเจอข้อสอบจริงแล้วน้องจะจำสูตรได้แต่เอามาใช้ไม่เป็น
ส่วนแกรมม่าพี่ก็ลงสรุปไว้เหมือนกัน น้องลองไปดู
แล้วก็ถ้าน้องทำโจทย์ข้อไหนไม่ได้จริงๆ อย่านั่งงงมหาคำตอบคนเดวคะ ถามครู เพื่อน หรือถามพี่ชฎาในนี้ก็ได้จ้ะ  บางครั้งฟังคนอื่นอธิบายแล้วจะเร็วกว่าอ่านเองนะ
อืม แล้วก็อีกเรื่องคือ  น้องควรจะเช็คความรู้ตัวเองในทุกๆอาทิตย์นะค่ะ          
คือ  เวลาที่น้องลืมเนื้อหาอะไรไปน้องจะไม่รู้ตัวหรอกค่ะ น้องจากน้องจะนั้งทำข้อสอบ พอทำไม่ได้แล้วถึงจะรู้ว่าเราเคยรู้ตรงนี้ไป แต่ตอนนี้จำไม่ได้แล้ว  เป็นการเตือนตัวเองให้กลับไปทวนเนื้อหาด้วยจ้ะ   
พอรู้ว่าตัวเองลืมตรงไหน  ก็ปรับเปลี่ยนตารางอ่านหนังสือให้ไปเน้นตรงนั้นตรงนี้นะจ้ะ ทำเป็นรายอาทิตย์นะจ้ะ          
ข้อสอบที่จะใช้เช็คความรู้ตัวเองควรเป็นข้อสอบที่คละเนื้อหา           ไม่ได้แยกเป็นเรื่องๆ  แต่อย่างบางคน ทำข้อสอบปี53จนจำได้ทุกข้อเลย ก็หยิบขึ้นมาอ่านนิดๆหน่อยๆกันลืมจ้ะ  แล้วก็หาข้อสอบอื่นๆมาเช็ค  น้องลองทำข้อสอบเตรียมอุดมบ้างรึยัง? พี่ว่ามันก็ใช้เช็คได้เหมือนกันนะจ้ะ  เนื้อหาคลอบคลุมมอต้นเหมือนกัน   น้องก็ลองทำข้อสอบดูนะ

ส่วนในอาทิตย์สุดท้าย           อย่างที่บอก  น้องไม่ต้องไปหาโจทย์ไม่มาทำแล้ว อย่างเช่นเลข  น้องมาฟิตหาความรู้1อาทิตย์ก่อนสอบมันไม่ทันแล้วน้อง น้องๆหลายคนจะรู้สึกว่าอิ่มตัววิชาเลขแล้ว  คือ ถึงอ่านเพิ่ม ก็เอาไปใช้ไม่ได้แล้ว 
พี่ว่าให้น้องเปิดดูความรู้เก่าๆที่เราเคยมี เอามานั่งอ่าน  ดีกว่า   วิชาคำนวณ ให้ลดลงจ้า  ให้อ่านวิชาที่เน้นความจำจะได้ผลมากกว่า          
พี่ชฎาแนะนำว่าช่วงนี้น้องควรทำShort noteของตัวเองนะ          คือ เขียนความรู้ที่เรายังไม่รู้ลงไป อย่างของพี่ชฎา2-3ก่อน
กสพท.พี่ก็นั่งทำเหมือนกัน   คือ พี่สามารถเขียน short note วิชาเคมี  ลงในกระดาษpost it เพียงแค่ 4แผ่นเท่านั้น            
 
(พอถึงวันนั้น ความรู้ที่น้องยังไม่รู้มันควรจะมีแค่นี้จริงๆนะ)           
แล้วพี่ก็ท่องแค่เคมีแค่4แผ่นเท่านั้น เพราะความรู้ที่ไม่ได้เขียน พี่จำไว้ในสมองแล้วน้อง             
ที่สำคัญ นอกจากตารางเวลาที่พี่บอกแล้วน้องก็ อย่าลืมไปฟิตร่างกายกันด้วยล่ะ             เตรียมทหารไม่ได้ใช้แค่ความรู้อย่างเดียวนะจ้ะ  ร่างกายไม่ผ่านนี่จบเลยนะน้อง
เอาเป็นว่า   วิธีการอ่านหนังสือแบบนี้เป็นวิธีที่พี่ชฎาใช้สอบเข้า กสพท.นะจ้า น้องๆ  น้องก็ลองเอาไปใช้ดู พี่ตะวันเขาบอกให้พี่มาแนะนำน้องๆ เพราะบางคนยังอ่านหนังสือสะเปะสะปะอยู่  หวังวิธีการแบบนี้จะพอช่วยน้องได้บ้างนะจ้ะ
พี่เป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า  อยากฝากน้องๆไว้ว่า
?ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา...
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว...
ท่าทีบินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร...
แค่บินไปให้ถึงฝัน...เท่านั้นพอ!?       
    
 

ไม่มีความคิดเห็น: