วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แป้งโกะ- สถาปัตย์สอนให้เราคิดเป็นระบบ


ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘สื่ออินเทอร์เน็ต’ทุกวันนี้เป็นช่องทางการสื่อสารที่ตีรัศมีวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง เฟซบุ๊ค บล็อก หรือยูทูบ มีการแสดงออกมากมายผ่านสื่อเหล่านี้ และก็เพราะสื่อเหล่านี้จึงทำให้ได้รู้จักกับแป้งโกะ-จินตนัดดา ลัมมะกานนท์ สาวน้อยผู้หลงรักในการร้องเพลงและเล่นดนตรี และเธอเองก็ได้แสดงออกถึงความสามารถผ่านคลิปวิดีโอแล้วนำมาโพสต์ให้เพื่อน ๆ ได้ดูผ่านยูทูบ หนึ่งล้าน View ของผู้เข้าชมคลิปวิดีโอของเธอคงการันตีได้ถึงความฮอตของสาวน้อยคนนี้อย่างไม่ต้องกังขา  มีโอกาสได้เจอแป้งโกะตัวเป็น ๆ ก็รีบปรี่เข้าไปหา รีบพาเธอมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน
ทักทายกันก่อน
สวัสดีค่ะ แป้งโกะ-จินตนัดดา ลัมมะกานนท์ เรียนระดับปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สาขาวิชานิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีค่ะ
นางเอกของสองหนุ่ม Singular
ได้มาเพราะความงงของแป้งเอง (หัวเราะ) คือตอนที่พี่เขาโทร.ติดต่อให้มาเล่นเอ็มวีเพลง เบา เบา ของ Singular แป้งยังงงอยู่เลย จำได้ว่าวันนั้นเช้ามาก ประมาณแปดโมงเช้าได้มั้งค่ะ แป้งยังไม่ตื่นเลย แต่พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็งัวเงียขึ้นมารับ ปรกติแป้งไม่รับเบอร์แปลก และก็ไม่เคยรับงานพวกนี้เลย แต่วันนั้นเพราะยังงัวเงียอยู่ก็เลยลุกมารับ แล้วก็ตอบตกลงพี่เขาไป พออีกวันพี่เขาก็ติดต่อกลับมาอีก เราก็..เอ้าเหรอ! งง ๆ แต่ก็โอเคตกลงเล่นให้เขา เพราะว่าเรารับปากเขาไปแล้ว (ยิ้ม)
เน็ตไอดอลตำแหน่งที่ไม่ตั้งใจ
 คือตอนนั้นแป้งไปเรียนไฮสคูลอยู่เมืองนอก ตอนอยู่ที่โน่นเราก็เหงา ก็เลยเขียนไดอารี แล้วก็เอารูปมาโพสต์เพื่อให้พ่อแม่เราและเพื่อน ๆ ได้ดู ได้ติดต่อกัน แล้วก็มีคนเข้าไปเห็นแล้วก็เอามาโพสต์ต่อ ตอนแรกเราก็เคืองเหมือนกันที่เอารูปเราไปโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่พอมีคนเข้ามาดูแล้วเขาก็ชม เราก็คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะไม่ได้เสียหายอะไร แต่หลัง ๆ เลิกเขียนแต่ก็จะมีบางกลุ่มที่คอยติดตามเราอยู่บ้าง  แล้วก็เกิดการโพสต์ต่อเนื่องกันเรื่อย ๆ ขึ้นหลายเว็บ ก็เลยกลายเป็นขวัญใจเด็ก ๆ ไปเลย
เรียนเมืองนอกเพราะภาษาอังกฤษป่วย
 ที่ไปเรียนไฮสคูลที่นิวซีแลนด์ เพราะภาษาอังกฤษของแป้งป่วยมาก ๆ คุณแม่ก็เป็นห่วง กลัวว่าอนาคตด้านภาษาอังกฤษของเราจะพัง คุณแม่ก็เลยส่งแป้งไปเรียนที่นิวซีแลนด์ ที่แม่เลือกที่นั่นเพราะอย่างแรกคนไทยยังไม่เยอะ และหลักสูตรก็เหมือนกับที่อังกฤษ ซึ่งถ้าส่งไปอังกฤษแม่ก็กลัว เพราะสังคมที่อังกฤษเจริญเกินไป ก็เลยส่งไปนิวซีแลนด์ และที่นิวซีแลนด์ก็ค่อนข้างจะปลอดภัยกว่าอังกฤษเยอะ
ชีวิตเด็กไทยในต่างแดน
 อยากบอกว่าแป้งสนุกมากค่ะ คือโดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบอะไรที่มันตื่นเต้น ชอบการผจญภัยอยู่แล้ว พอได้ไปอยู่ที่โน่นอะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด แป้งไม่มีอาการ Homesick เลย คือคนอื่นที่เขาไปเรียนเมืองนอก แรก ๆ เขาจะมีอาการคิดถึงบ้านใช่ไหมคะ แต่แป้งไม่เลย สนุกจนลืมบ้าน เพราะที่โน่นเราได้ใช้ชีวิตที่อิสระ ได้ทำอะไรอย่างที่เราอยากทำ ได้นั่งรถเมล์ ได้เดินชิล ๆ ซึ่งถ้าเป็นที่เมืองไทยแม่จะคอยไปรับไปส่ง เพราะว่าค่อนข้างจะเป็นห่วง และที่โน่นวิชาที่เรียนไม่เครียดเท่าไหร่ ช่วงเช้าจะเน้นวิชาการ ช่วงบ่ายจะเป็นวิชาเลือก ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ แป้งเลือกวิชาถ่ายรูป วิชาศิลปะ และก็จะมีวิชาแปลก ๆ ให้เลือก อย่างวิชาดูหนัง เป็นวิชาที่นักเรียนไปนั่งดูหนังแล้วก็เอามานั่งวิจารณ์ แป้งก็จะได้ภาษาอังกฤษจากวิชานี้มาก เพราะต้องฟังอยู่ตลอดเวลา และมีซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพราะเขาต้องการให้เด็กของเขาอ่านภาษาอังกฤษให้ชัดมากขึ้น เพราะสำเนียงแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน
วิชาสถาปัตย์สอนให้เราคิดเป็นระบบ
 ตอนแรกที่กลับมายังไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรดี แต่เหตุผลที่กลับมาเมืองไทยเพราะที่บ้านเป็นห่วงกลัวว่าเราจะเรียนที่โน่นและทำงานที่โน่นเลย ถ้าเรากลับมาเมืองไทยก็จะไม่มีเพื่อน ถ้าเราเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยมันสำคัญมากไม่ว่าในแง่ของมิตรภาพและการทำงานในอนาคต  แป้งก็เลยกลับมาเรียนที่เมืองไทย ตอนแรกก็เลือกเรียนที่มหิดล สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม เพราะเราคิดว่าเราชอบเที่ยว  เราก็เลยเข้าไปเรียน แต่พอเข้าไปปุ๊บเรารู้สึกว่าเราชอบนะ แต่เราไม่ได้อยากเรียนแบบนี้ ก็หาที่เรียนใหม่จนมาเจอหลักสูตรที่เราอยากเรียนที่ มจธ.  ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ชื่อคณะว่าออกแบบนิเทศศิลป์ จะเกี่ยวกับการออกแบบ ก็มาสมัครและสอบเข้ามาได้ พอเข้ามาเรียนสามารถตอบโจทย์ที่เราต้องการได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ  ด้วยความที่เป็นอะไรที่เราชอบ มีวิชาหลากหลาย คือเขาไม่ได้สอนให้เราใช้โปรแกรม เหมือนกับว่าทำกราฟิคต้องใช้ Photoshop หรือ Illustrator ยังไง แต่เขาจะสอนวิธี Process ในการทำงาน สอนวิธีคิดให้เรา ทำให้เรารู้จักคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งแป้งชอบมาก ก็เรียนจบปริญญาตรีคณะนี้ แล้วต่อปริญญาโทคณะนี้ที่ มจธ.ต่อเลย เพราะว่าเราอยากลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น
อนาคตในวงการบันเทิง
 ตอนที่เล่นเอ็มวีจบ พี่ที่เขาทำเขาก็รู้จักค่ายเพลงเยอะ แล้วเราก็คุยกับเขาว่าเราชอบร้องเพลง แล้วพี่เขาก็พาเราไปที่ค่ายเพลง Believe Record เราก็ไปคุยเรื่องเพลงกัน ไปลองร้องให้เขาฟัง เขาก็โอเค แต่ตอนนั้นแป้งติดทำ Thesis ก็เลยบอกเขาว่าขอเอาไว้ก่อน  พอเราทำ Thesis จบแล้วก็มาเริ่มทำงานเพลงต่อ ก็มีออกมาแล้วเพลงหนึ่ง ชื่อเพลงว่า โปสการ์ด เพราะว่าเราชอบเที่ยว เวลาไปเที่ยวที่ไหนเราก็จะส่งโปสการ์ดกลับมา ก็เลยกลายมาเป็นเพลงชื่อโปสการ์ด เป็นเพลงฟังสบาย ๆ สไตล์อะคูสติก เลานจ์ มีกลิ่นอายความเป็นแจ๊สและบอสซ่าแฝงอยู่ ก็อยากให้ทุกคนลองฟังดู ส่วนเรื่องหนังหรือละคร แป้งไม่ได้มองถึงเพราะคิดว่าตัวเองไม่ถนัดและชอบงานเพลงมากกว่า
ฝากถึงน้อง ๆ
       แป้งไม่ได้ผ่านการแอดมิสชั่นส์มาก็เลยไม่รู้อารมณ์ว่ามันหนักประมาณไหน แต่เห็นน้อง ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วคิดว่าคงหนักเอาการอยู่เหมือนกัน ก็อยากให้ตั้งใจค่ะ และเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดจะได้ทำมันให้ดีที่สุด แต่บางทีก็ต้องคิดให้ดีเหมือนกัน เพราะบางทีสิ่งที่เราชอบเราอาจไม่อยากเรียนก็ได้ ก็เลือกดี ๆ หรือบางคนที่เข้าไปเรียนแล้วไม่อยากซิ่ล กลัวจบช้า ก็อยากบอกว่าอย่าไปกลัวค่ะ เพราะแป้งก็เป็นคนหนึ่งที่ซิ่ลมา ไม่อยากทนเรียนไป อะไรที่มันไม่ใช่เรา พอจบมาแล้วเราก็จะได้ทำงานที่เราไม่ชอบ ซึ่งทำให้เราไม่มีความสุข
       และอีกเรื่องที่อยากจะฝากคือ เรื่องสังคมออนไลน์ แป้งว่าสังคมนี้มันเหมือนดาบสองคม อย่างเราโพสต์รูปไปในเฟซบุ๊ค แป้งก็คิดว่ามันเป็นส่วนตัวแล้ว  บล็อกทุกหนทาง  จำกัดกลุ่มเพื่อน แต่ถึงขนาดนั้นก็ยังมีภาพหลุดออกมาได้ นั่นก็เท่ากับว่าไม่มีคำว่าเป็นส่วนตัวในโลกอินเทอร์เน็ต แต่ว่าข้อดีของมันก็มี อย่างแป้งเอาเพลงที่แป้งทำไปลงยูทูบ มันก็เป็นสื่อที่รวดเร็ว และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แป้งประสบความสำเร็จ ทำให้คนรู้จักเรา ยูทูบเป็นที่ที่เราแสดงออกอะไรได้หลายอย่าง แต่ก็ต้องใช้กันดี ๆ มีสติในการใช้ และอีกอย่างคือเรื่องของภาษาไทยที่ใช้ในสื่ออินเทอร์เน็ต คือถ้าคำแสดงอารมณ์อย่าง คุคุ คริคริ อิอิ อะไรอย่างนี้แป้งเฉย ๆ นะ แต่คำที่ตั้งใจเขียนผิดแบบใช้ภาษากันแบบผิด ๆ เนี่ยแป้งไม่เห็นด้วยเลย เพราะกลัวว่าพอใช้ไปนานเข้า เด็กรุ่นหลังที่เขาโตมาเขาจะใช้ตาม จนไม่รู้แล้วว่าภาษาไทยที่ถูกต้องเป็นยังไง ก็ฝากทุกคนไว้ด้วยนะคะ


ไม่มีความคิดเห็น: