วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

5 จุดสำคัญ(มาก)!! ที่ ม.6 มักพลาดตอนสมัครสอบ กสพท.


 เริ่มเปิดรับสมัครกันตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 ส.ค. มีน้องๆ หลายคน พกความมั่นใจแล้วสมัครเอาฤกษ์กันตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าๆ ของวันแรกเลยก็มี ส่วนใครที่ถือคติว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงามก็เริ่มทยอยสมัครกันบ้างแล้ว แต่ก็อย่าให้เลยวันปิดรับสมัคร 31 ส.ค.แล้วกันนะคะ

              เบื้องต้น พี่มิ้นท์ ได้ลองเช็คปัญหาสมัครสอบจากน้องๆ พบว่าเจอปัญหากันพอสมควร กว่า 80% จะเป็นเรื่องการอัพโหลดรูปถ่าย วันนี้ พี่มิ้นท์ จึงทำบทความนี้ขึ้นมาเพื่อชี้จุดสำคัญที่ต้องระวัง(เป็นพิเศษ) เป็นการเตือนให้น้องๆ มีสติและอ่านรายละเอียดให้ดีก่อนการสมัคร ใครที่ยังไม่สมัคร อ่านบทความนี้ให้จบก่อนก็จะดีมากๆ เลยค่า
เด็กดีดอทคอม :: 5 จุดสำคัญ(มาก)!! ที่ ม.6 มักพลาดตอนสมัครสอบ กสพท.

   จุดที่ 1 : คุณสมบัติการสมัคร
               ด้วยภาษาที่ค่อนข้างจะทางการมากๆ หลายคนอ่านเข้าใจ แต่ก็เกิดอาการไม่มั่นใจได้เหมือนกัน พี่มิ้นท์ ขอสรุปคุณสมบัติแบบง่ายๆ ดังนี้
                    - อยู่ ม.6 (ได้ทั้งวิทย์และศิลป์), จบ ม.6 แล้ว, หลักสูตรเทียบเท่าอื่นๆ
                    - ถ้าอยู่ปี 1 เรียนคณะแพทย์อยู่และจะซิ่วเข้าแพทย์สถาบันอื่น หรือ เรียนคณะทันตะฯและจะซิ่วเข้าทันตะฯ สถาบันอื่น จะต้องลาออกก่อนจากที่เดิมก่อน 15 ส.ค. แต่กรณีที่อยู่ปี 1 เรียนคณะทันตะฯ อยู่ แต่อยากซิ่วเข้าแพทย์ แบบนี้จะไม่ต้องลาออก เพราะไม่ได้ซิ่วเข้าคณะเดิมจ้า
                       ส่วนคณะอื่นๆ นอกเหนือจากสองคณะนี้ สามารถสมัครได้โดยไม่ต้องลาออก
                    - ถ้าอยู่เกินปี 1 ขึ้นไป (คือ ผู้ที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนรายวิชาบังคับปี2 หรือเรียนอยู่ปี 2-6) ของสถาบันของรัฐ ไม่ว่าจะคณะอะไรก็ตาม จะสมัครได้ก็ต่อเมื่อต้องลาออกก่อนวันที่ 15 ส.ค. เช่นกัน ยกเว้นพี่ๆ ปีสุดท้ายที่คาดว่าจะจบในปีการศึกษา 2555 สามารถสมัครได้โดยไม่ต้องลาออก ส่วนน้องๆ ที่เรียนสถาบันเอกชน สามารถสมัครสอบได้เลย
                    - ต้องไม่สอบติดและยืนยันสิทธิ์เข้าคณะแพทย์และทันตะฯ จากโครงการพิเศษต่างๆ ของมหาวิทยาลัยรัฐ (สำหรับคณะทันตะฯ เฉพาะ 5 สถาบันที่เข้าร่วมกับ กสพท.) ซึ่งช่วงประมาณเดือน ก.พ.ปี 56 ทาง กสพท.จะประกาศรายชื่อคนที่ติดและยืนยันสิทธิ์โควตาหรือโครงการพิเศษเหล่านี้ และจะตัดชื่อออกจากระบบของ กสพท. ถึงเวลานั้นใครที่สมัครโครงการพิเศษไว้ต้องมาตรวจสอบกันอีกทีนะคะ

    
จุดที่ 2: อัพโหลดรูป ทำตามกติกาไว้สบายใจที่สุด
                น้องๆ มีปัญหาเรื่องการอัพโหลดรูปเยอะมาก ส่วนหนึ่งน้องๆ อาจจะหลงลืมรายละเอียดที่เค้ากำหนดไว้ให้ มาๆ มาทวนกันอีกทีค่ะ
                    - ในระเบียบการกำหนดไว้ว่ารูปจะต้องเป็นรูปพื้นหลังสีขาวและไม่มีการตกแต่งใดๆ แต่ตอนนี้ ทาง กสพท. ได้อนุโลมเรื่องรูปถ่ายให้เป็นพื้นหลังสีฟ้าได้แล้วค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: 5 จุดสำคัญ(มาก)!! ที่ ม.6 มักพลาดตอนสมัครสอบ กสพท.
                    - รูปถ่ายจะต้องหน้าตรง สวมชุดสุภาพ ไม่สวมหมวก แว่นตา และถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
                    - ไฟล์ภาพจะต้องมีขนาด 600x600 และขนาดของภาพต้องไม่เกิน 240 KB ถ้าน้องๆถ่ายเองและตั้งค่าขนาดความละเอียดไว้สูงจะทำให้รูปมีขนาดไฟล์ใหญ่มากๆ ซึ่งจะต้องมาย่อรูปให้ได้ตามที่ กสพท.กำหนดด้วยนะคะ  โดยโปรแกรมที่สามารถใช้ย่อรูปได้และใช้ง่ายๆ ก็จะมี photoshop  และ photoscape แต่ถ้าทำไม่เป็นจริงๆ ลองให้เพื่อนช่วยทำดีกว่าค่ะ สำหรับขนาดของรูป 240 KB นั้น ไม่ต้องพยายามทำให้ถึงเป๊ะๆ ก็ได้นะ เพราะเค้าใช้คำว่า "จะต้องไม่เกิน" ดังนั้นถ้ามีขนาดไฟล์ภาพเล็กกว่าที่กำหนดก็ไม่เป็นไร
                นอกจากนี้ ภาพที่ใช้จะต้องมีนามสกุล .jpg ด้วย พี่มิ้นท์ ลืมบอกไปอีกอย่างนึงค่ะ สำหรับน้องๆ ที่มีปัญหาเรื่องรูปใหญ่ แก้ไม่หาย ลองเช็คสกุลของไฟล์ภาพและเปลี่ยนเป็น .jpg ก่อน ก็จะช่วยลดขนาดไฟล์ได้เยอะทีเดียว สำหรับโปรแกรมที่เปลี่ยนนามสกุลไฟล์ พี่มิ้นท์ขอเพิ่มอีกอันนึง คือ โปรแกรม paint ค่ะ (ใช้ได้จริงๆ นะ!!)

                  - ในการตั้งชื่อไฟล์ภาพ ห้ามตั้งเป็นภาษาไทยนะคะ
                 ดูรายละเอียดเรื่องขนาดรูปถ่ายและตัวอย่างรูปได้ที่ 
กสพท.

   จุดที่ 3 : เลือกสนามสอบ
                สนามสอบวิชาเฉพาะ กสพท. มีให้เลือก 7 ที่ แบ่งเป็นในเขต กทม. 3 ที่ (จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์ รังสิต และศิริราช) และเป็นสนามสอบภูมิภาคอีก 4 ที่ คือ จ.เชียงใหม่, ขอนแก่น, สงขลา และพิษณุโลก น้องๆ สามารถเลือกได้ 2 แห่งเท่านั้น และที่ต้องระวังเป็นพิเศษ จน กสพท.ทำเครื่องหมายดอกจันสีแดงมา 10 ดวงเลยก็คือ จะไม่อนุญาตให้เปลี่ยนสนามสอบ ดังนั้นจะเลือกสนามไหนก็ต้องดูและมั่นใจให้ดีๆ ก่อนว่าไปได้จริงมั้ย
เด็กดีดอทคอม :: 5 จุดสำคัญ(มาก)!! ที่ ม.6 มักพลาดตอนสมัครสอบ กสพท.
               และถ้าหากสนามสอบนั้นเต็ม เจ้าหน้าที่ก็จะจัดสนามสอบให้น้องๆ เอง ตามความเหมาะสม คล้ายๆ กับการสอบ GAT/PAT นั่นเองคะ

    
จุดที่ 4 : อยากแก้ไข ทำยังไงดี
              แม้จะดูถี่ถ้วนแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ถ้ายังมีจุดผิดและต้องแก้ไขอีก จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ค่ะ
                 4.1 แก้ไขข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ฯลฯ จะไม่สามารถแก้ไขได้เองในระบบ ต้องกรอกแบบฟอร์ม กสพท.03 พร้อมแนบสำเนาเอกสารบัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียน และหลักฐานการชำระเงินลงนามสำเนาถูกต้อง และส่งไปที่

                       รองคณบดีฝ่ายการศึกษาก่อนปริญญา งานแพทยศาสตรศึกษา
                       ตึกอดุลยเดชวิกรมชั้น 6 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กรุงเทพฯ 10700
                       วงเล็บมุมซองด้านล่างว่า 
"แก้ไขข้อมูลส่วนตัว (ข้อ4.3)"

                 4.2 ถ้าอยากเปลี่ยนอันดับคณะที่เลือก ต้องทำใจนิดนึงเพราะจะต้องจ่ายเงินใบสมัครเก่าก่อน และรออีก 2 วันทำการถึงจะขอเปลี่ยนอันดับได้ หลังจากนั้นเปลี่ยนอันดับแล้ว ก็ต้องจ่ายเงินซ้ำอีกครั้ง 700 บาท  ซึ่งน้องๆ ไม่ต้องส่งเอกสารการเปลี่ยนลำดับสอบใหม่นะคะ แต่เมื่อจ่ายเงินแล้วจะต้องเก็บหลักฐานการสมัครเปลี่ยนลำดับสอบพร้อมใบชำระเงินไว้ด้วย หากสอบติดและมีรายชื่อเรียกสัมภาษณ์ก็ให้เอาหลักฐานนี้ไปยืนยันและให้สถาบันตรวจสอบค่ะ
                       การเปลี่ยนลำดับ ทำได้ถึง 24.00 น.ของวันที่ 31 ส.ค.เท่านั้นนะคะ ดังนั้นก่อนกดยืนยัน ดูข้อมูลให้ดี ทั้งชื่อคณะ สถาบัน ตรวจสอบว่าอยากเรียนจริงหรือไม่ สู้ไหวมั้ย ฯลฯ เพื่อให้ได้ทั้งความชัวร์และไม่ต้องเสียเงินฟรีๆ ด้วย กดผิดคลิกเดียวอาจเปลี่ยนเงินในกระเป๋าได้น้า
เด็กดีดอทคอม :: 5 จุดสำคัญ(มาก)!! ที่ ม.6 มักพลาดตอนสมัครสอบ กสพท.

    จุดที่ 5 : สมัคร กสพท.ปี 56 ไม่ต้องส่งเอกสารทางไปรษณีย์
                 ใครที่เคยเห็นระเบียบการสมัครสอบของปีที่แล้ว จะเห็นว่าพี่ๆ ต้องส่งเอกสารที่อัพโหลดในเว็บไปให้ทางไปรษณีย์ด้วย แต่รุ่นนี้ไม่ต้องแล้วนะคะ ทุกอย่างจะเสร็จสิ้นแค่อัพโหลดเอกสารในเว็บ และให้เก็บเอกสารทั้งหมดไว้ที่ตัว รอจนกว่าจะมีรายชื่อเรียกไปสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย แต่ย้ำว่าต้องเก็บให้ดีแล้วกันนะคะ
                สำหรับเอกสารที่ต้องโหลดขึ้นพร้อมกับการสมัครในเว็บ มีดังนี้
                         5.1 สำเนาบัตรประชาชน(ของตัวเอง) ทั้งด้านหน้าและหลัง
                         5.2 สำเนาคุณวุฒิการศึกษา ซึ่งม.6 กับน้องๆ เด็กซิ่วจะใช้เอกสารไม่เหมือนกัน ต้องอ่านดีๆ นะ โดย ม.6 จะใช้หนังสือรับรองที่มีตราโรงเรียนประทับ ส่วนคนที่จบ ม.6 แล้ว ให้ใช้เป็นใบระเบียนผู้สำเร็จการศึกษาหรือใบประกาศนีบัตรที่ได้รับตอนจบ ม.6 ค่ะ ส่วนพี่ๆ ที่อยู่ชั้นสูงกว่าปี 1 ให้ใช้ใบลาออก
                         5.3 หลักฐานอื่นๆ เช่น สำเนาเปลี่ยนชื่อ นามสกุล
                  เอกสารทั้งหมดนี้จะต้องทำเป็นสำเนาบนกระดาษ A4 เซ็นต์สำเนาถูกต้องให้ครบทุกแผ่น แล้วค่อยสแกนนะคะ โดยเซฟเป็นไฟล์นามสกุล .jpg และมีขนาดไม่เกิน 2MB ค่ะ และย้ำอีกรอบว่า เมื่ออัพโหลดเอกสารทั้งหมดแล้ว ให้เก็บเอกสารการสมัครทุกแผ่นไว้ด้วยนะคะ

   
 อ่านจบแล้ว ไปสมัครกันเลย >>คลิก<< ใช้ IE6 ขึ้นไปในการสมัครจะดีที่สุดนะคะ^^

                  ทั้ง 5 จุดนี้ ถือว่าเป็นจุดสำคัญของการสมัครเลย เพราะถ้าพลาดในส่วนใดส่วนหนึ่งขึ้นมา ต้องแก้ไขกันลำบากทีเดียว ถ้าไม่อยากผิดพลาดก็อย่าลืมตั้งสติก่อนสตาร์ท เพราะทางคณะกรรมการอาจดึงเอาประเด็นความรอบคอบมาเป็นส่วนในการพิจารณาได้นะ

                  สุดท้าย เมื่อสมัครสอบเสร็จแล้ว อย่ามัวอ่านหนังสือเพลินกันล่ะ น้องๆ ยังมีหน้าที่ไปสมัครสอบ 7 วิชาสามัญของ สทศ.อีก ซึ่งการสมัครทั้งหมดจะต้องดำเนินการสมัครเอง หากลืมสมัครก็จะอดสอบ และไม่มีคะแนนในส่วนของวิชาสามัญ กสพท.ที่สมัครไปก็จะไม่มีผลใดๆ เลยนะคะ เบื้องต้นทราบมาคร่าวๆ ว่าจะต้องสมัครกันในเดือนตุลาคมนี้ แต่ถ้าประกาศวันที่แน่นอนออกมา จะแจ้งให้ทราบอีกทีค่า
credit:dekd

ไม่มีความคิดเห็น: