วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รับตรงวิศวกรรมต่อเรือ วิทยาลัยพาณิชย์นาวีนานาชาติ





สาขาที่เปิดรับได้แก่
วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต  20
  • แขนงวิศวกรรมต่อเรือ 
  • แขนงวิกรรมนอกฝั่ง  
  • แขนงวิชาเครื่องกลเรือ 
วิทยาศาสตรบัณฑิต
  • สาขาวิทยาศาสตร์การเดินเรือ  

เป็นผู้ศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา หรือเที่ยบเท่า สายวิทย์ - คณิต 
และต้องสอบคัดเลือกวิชาต่างๆ  เช่น  ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ความถนัดทางวิศวกรรม  ทดสอบพลศึกษา และ ว่ายน้ำ
ปล ค่าเทอม 35,000 บาทยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ
เรียนที่นี่โหดกว่า รด 10 เท่า
หน้าเว็บไซต์หลัก  http://www.imc.src.ku.ac.th/home.asp



What is it?

หลายคนคงจะรู้จักถึงหลักสูตรการออกแบบ สร้าง และซ่อมเครื่องบินของภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม. เกษตรศาสตร์   จากบนฟ้ามาสัมผัสกับผิวน้ำกันบ้าง นั่นก็คือหลักสูตรวิศวกรรมต่อเรือและเครื่องกลเรือ (Naval Architecture and Marine Engineering) ของวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ (International Maritime College) ซึ่งเทียบได้กับคณะๆ หนึ่งของ ม. เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา (Kasetsart University, Si Racha Campus) โอ้... ม. เกษตรอีกแล้วครับท่าน วิศวะของเขาหลากหลายจริงๆ นะเนี่ย



สาขาวิชาวิศวกรรมต่อเรือและเครื่องกลเรือ เป็น 1 ใน 2 หลักสูตรที่วิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติเปิดสอน โดยอีกหลักสูตรหนึ่งก็คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเดินเรือ (Nautical Science) ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน เอาไว้จะนำมาเสนอในคราวต่อๆ ไปนะ ตอนนี้เรามาเรียนที่จะสร้างเรือกันก่อนดีกว่า



ปัจจุบันมีสถาบันที่เกี่ยวกับพาณิชยนาวีหลายแห่ง แต่ก็เป็นหลักสูตรวิทยาศาสตร์การเดินเรือทั้งนั้น หรืออาจมีสอนเรื่องเครื่องกลเรือบ้างนิดหน่อย ส่วนหลักสูตรที่เกี่ยวกับวิศวกรรมต่อเรือโดยเฉพาะนั้นมีเพียงที่วิทยาลัย พาณิชยนาวีนานาชาติที่นี่ที่เดียว และถึงจะใช้ชื่อวิทยาลัยว่าเป็นนานาชาติ แต่หลักสูตรที่เป็นนานาชาติจริงๆ คงต้องรอกันหน่อย แต่จะว่าไม่มีการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษเลยก็ใช่ที่ เพราะมีบางวิชาที่เชิญอาจารย์ต่างชาติมาสอนด้วย



• What do they learn?

หลักสูตรวิศวกรรมต่อเรือและเครื่องกลเรือใช้เวลาเรียน 4 ปี โดยเริ่มจากวิชาพื้นฐานทั่วไปที่น้องๆ หลักสูตรปริญญาตรีทุกคนต้องเรียนในปีแรก ในขณะเดียวกันก็จะได้เรียนการเขียนแบบเรือแบบง่ายๆ ตั้งแต่เขียนด้วยมือไปจนถึงเขียนด้วยคอมพิวเตอร์
เมื่อขึ้นปี 2 จึงจะปูพื้นฐานด้านวิศวกรรม ฟิสิกส์ระดับแอดวานซ์ และยังมีวิชาด้านกลศาสตร์วิศวกรรม ที่พูดถึงแรงที่มากระทำกับวัตถุ และการเคลื่อนที่ซึ่งทำให้เกิดแรง วิชาด้านการวิเคราะห์วัสดุต่างๆ วิชาอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamics) ซึ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของความร้อนในส่วนของต้นกำลัง และในภาคฤดูร้อนของปีนี้ น้องๆ ยังได้เติมความมันให้กับชีวิตด้วยการฝึกภาคปฏิบัติบนเรือ หรือก็คือเรียนรู้การใช้ชีวิตบนเรืออีก 160 ชั่วโมง

หากรอดชีวิตจากปี 2 มาสู่ปี 3 (เพราะมีเกือบ 50 เปอร์เซนต์ที่ไม่ผ่านและต้องโบกมือบ๊ายบายจากวิทยาลัยไป หรือไม่ก็ต้องอยู่เก็บวิชาเหล่านั้นให้ผ่านก่อน) ก็จะเป็นการเข้าสู่ศาสตร์ของการต่อเรือให้เป็นรูปเป็นร่าง น้องๆ จะได้เรียนคำนวณรูปทรงเรือ การทรงตัวของเรือ ต่อเนื่องด้วยโครงสร้างเรือ รวมไปถึงวิศวกรรมไฟฟ้าในเรือ การออกแบบเครื่องจักรกลเรือ หรือวิชาเลือกอย่างการออกแบบใบจักร และไฮโดรฟอยล์ (Hydrofoil) ที่เหมือนปีกเครื่องบินแต่ติดอยู่กับเรือเพื่อช่วยยกเรือให้แตะน้ำน้อยลง จนกระทั่งถึงภาคฤดูร้อนก็จะเป็นการฝึกงานตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งทาง วิทยาลัยจัดเตรียมไว้ให้ เช่น บริษัทต่อเรือ อิตาเลี่ยน-ไทย อู่ซ่อมเรือ บริษัทเดินเรือระหว่างประเทศ RCL แม้แต่บริษัทน้ำมันอย่าง ปตท. เชลล์ และทีพีไอ น้องๆ ก็จะได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสด้วย เพราะนี่เป็นการฝึกงานด้าน Offshore Engineering น่ะ คือดูแลเรื่องท่อส่งน้ำมันไง

คราวนี้เมื่อถึงปี 4 น้องๆ จะเริ่มว่างมากขึ้นแล้ว เพราะรายวิชาที่ต้องลงทะเบียนมีน้อยลง แต่ถึงวิชาน้อยก็ใช่ว่าจะง่าย ตามหลักสูตรน้องๆ ต้องทำโครงงานทางวิศวกรรมส่งอาจารย์ด้วยชิ้นหนึ่ง ในปีสุดท้ายนี้นักศึกษาหลายคนที่มีผลงานเข้าตาบริษัทที่เคยฝึกงานยังได้รับ เลือกให้เข้าไปทำงานที่บริษัทนั้นๆ อีกต่างหาก แบบว่าเรียนด้วยทำงานด้วยน่ะ


 Job opportunities

นั่งดูคลื่นที่ออกจากท้ายเรือเวลาเรือวิ่ง แล้ววิเคราะห์ว่าเรือลำนี้มีจุดดีจุดด้อยตรงไหน อ๊ะ...ไม่ใช่ (แต่ขอบอกว่าน้องๆ สามารถทำอย่างนี้ได้จริงเมื่อเรียนจบแล้ว) ส่วนใหญ่น้องๆ ในสาขาวิชาวิศวกรรมต่อเรือเกือบทั้งหมดจะได้งานทำทันทีหลังเรียนจบ เพราะตลาดงานด้านนี้ยังมีที่ว่างอีกเยอะ อาชีพที่ทำได้ก็มีทั้งออกแบบ ต่อเรือ ซ่อมเรือ ทำงานในเรือ หรือไม่ก็เป็นวิศวกรชายฝั่ง นอกจากบริษัทในบ้านเราแล้ว บริษัทจากต่างประเทศอย่างเช่นที่ ดูไบ อินเดีย บรูไน หรืออินโดนีเซีย ก็ติดต่อขอบัณฑิตจากที่นี่ไปทำงานมากมาย แต่น้องๆ คงต้องทำใจหน่อยเพราะต้องจากบ้านไปทำงานไกลโพ้น ยิ่งถ้าเป็นอาชีพเดินเรือ มีโอกาสที่ต้องลอยอยู่ในทะเลนานเป็นเดือนๆ ใครมีแฟนอยู่ล่ะก็ ได้เวลาพิสูจน์ใจกันล่ะคราวนี้ แต่เอาน่า...เงินดีมากๆ แค่ท่องประโยคนี้ให้ขึ้นใจก็พอว่า "Make money!"


• How to apply

จะชายหรือหญิงก็สามารถเรียนได้ ขอให้จบ ม. 6 สายวิทย์ การรับสมัครมีทั้งผ่านระบบแอดมิชชั่นส์และรับตรง ขอให้มีความตั้งใจและความรับผิดชอบเป็นใช้ได้ เพราะการสร้างซ่อมเรือก็หมายถึงน้องๆ ต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้คนที่จะต้องโดยสารอยู่บนเรือด้วย ดังนั้นห้ามมีคำว่าพลาด ที่สำคัญหากเป็นน้องผู้ชาย ต้องผ่านการเรียน ร.ด. มาแล้ว(ไม่เรียนมาก่อนได้) แต่เพื่อประโยชน์ของตัวน้องเอง เพราะหากเรียนจบแล้วต้องไปเกณฑ์ทหาร จะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุส่วนค่าใช้จ่าย ไม่ได้มากมายใหญ่โตตามขนาดของเรือ ที่นี่ใช้ระบบเหมาจ่ายเทอมละประมาณ -35000 บาทแล้วแต่เทอม
 
P.Kla   ค่าเครื่องแบบ ประมาณ  1 หมืนขึ้นไป  ฝึกโหดกระจายหนักกว่า รด 10 เท่า  แต่ท่่าจบได้เงินเดือนก็ 5 หมื่นอัพนะครับ
 credit:dekd

ไม่มีความคิดเห็น: