วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กว่าจะเป็นหมอ เส้นทางชีวิต18++






ก่อนอื่นมาฟังสาระดีดีกันก่อนดีกว่า ...การเตรียมตัวสำหรับGross Anatomy
อาจารย์ ใหญ่(Cadaver) ในที่นี้ คือร่างชำแหละดอง ที่ท่านเจ้าของร่างได้มีใจเป็นกุศล บริจาคร่างของท่านให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้จากร่างกายคนจริง ดังนั้น นักศึกษาควรปฏิบัติต่อร่างอาจารย์ใหญ่ด้วยความเคารพ ตั้งใจหาความรู้ สมความตั้งใจของผู้อุทิศ

ร่างอาจารย์ใหญ่จะได้รับการฉีดน้ำยารักษา ศพที่โคนขาทั้ง2ข้าง น้ำยานี้มีส่วนประกอบสำคัญเป็น formaldehyde, alcohol, phenol และ glycerine และถูกดองไว้อย่างน้อย1ปี อาจารย์บอกว่าที่เราได้ผ่าก็จะประมาณ2ปีแล้วล่ะ โดยนศพ.ไม่ต้องกลัวว่าจะติดเชื้อ หรือถ้าโดนมีดผ่าบาด ก็ฟอกสบู่ ล้างน้ำ ใส่ยาใส่แผล ปิดพลาสเตอร์ ซะ

ที่เชียงใหม่นี่จะแบ่งนักศึกษาแพทย์ออก เป็น40กลุ่ม กลุ่มละ6คน ต่อร่างชำแหละ1ร่าง และนอกจากนี้เรายังได้กระดูก1กล่อง ที่สามารถนำกลับหอ ใส่กระเป๋าหิ้วแฮร์รอดส์ได้ แต่ไม่ควรฟิตจัดหยิบกระดูกขึ้นมาท่องกลางที่สาธารณะ เพราะอาจโดนมองด้วยสายตาแปลกๆ แล้วก็มีหนังสือGrossให้ ซึ่งเปิดได้ตามสบาย มันโดนรุ่นพี่เปิดมาหลายปีจนเปื่อยแล้วล่ะ แล้วก็มีเครื่องมือ ได้แก่ปากคีบ เหล็กคุ้ย ด้ามมีด กรรไกร

สิ่งที่เราต้องเอาไปเองคือ ใบมีด ถุงมือ และmask

ใน ชั่วโมงเรียนต้องแต่งกายสุภาพ ใส่กาวน์ปักชื่อตัวเองทุกครั้ง ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่ม เข้ามาทาน ตอนแรกก็อาจจะคิดว่า ใครจะทำ ใครจะกินลง แต่ทำไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ( ถ้ามีนักศึกษาแพทย์...)

หากมีการสอบ จะแจ้งให้ทราบ1วันล่วงหน้า (ข้อนี้ใส่ด้วยความอนาถใจระคนประชดชีวิต)





ห้อง ผ่าแบ่งเป็น2ห้องใหญ่เชื่อมถึงกัน คือภาพข้างบนกับข้างล่าง ห้องมีแอร์ สะดวกสบาย แต่เก้าอี้นั่ง(เก้าอี้สีสดๆแบบเวลาไปนั่งร้านก๋วยเตี๋ยว) แตก90% ขอประณามมา ณ ที่นี้



ที่หน้าห้องก็จะติดไว้ข้างบนว่า "อาจารย์ใหญ่เป็นผู้มีพระคุณ ปวงชนน้อมรำลึก" เป็นการเตือนใจเราก่อนผ่าด้วย

คาบ แรก ก็จะขอขมาอาจารย์กัน ก็จะเอาพวงมาลัยไปไหว้ด้วยความเคารพ เราไปไม่ทันด้วย เครียดเลย แต่ก็ไปขอโทษอาจารย์อีกที ท่านคงไม่ว่าอะไรเนอะ แล้วก็เริ่มลงมีด เลาะชั้นชั้นผิวหนังบนสุด ตามด้วยชั้นไขมัน

เรียน ไปเรื่อยๆก็ต้องท่องเยอะขึ้นเรื่อยๆ แทบจะเอาหัวออกจากห้องกรอสไม่ได้เพราะติดก้อนความรู้ ชื่อกล้ามเนื้อใหม่ๆยาวๆเป็นสิบเรย วู้ววววว


 


อาจารย์บอกว่า การผ่าgrossคือการฝึกการอดทน+++

แน่นอน บางวันยืนผ่ากัน6ชั่วโมง โหว ทำไปได้นะเนี้ย ข้าวปลาไม่ได้กิน
แล้วทำไมไม่นั่ง?
ตอบ ก็เก้าอี้90%แตกไง บางทีนั่งแล้วหนีบก้นอีกอย่างเจ็บ และอีก5%ให้อาจารย์อาวุโสนั่ง แต่ที่สำคัญคือ มันนั่งแล้วผ่าไม่ถนัด!!
ถึง จะเมื่อยแต่ก็ต้องอดทน ไม่กลัวแล้ว ไม่เหม็นแล้ว หน้าที่ของเราคือชำแหละให้ได้ความรู้ เวลาก็จำกัด ต่องเร่งมือทำ สมองก็ต้องเร่งจำข้อมูลเข้าไป เมมๆๆ เหมือนหุ่นยนต์ถึกๆเรย น่าสงสารตัวเองจัง







บางคนก็เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จิ้มปุ๊บเจอnerve จิ้มปุ๊บเจอnerve บางคนก็แร่เนื้อได้อย่างงดงามประดุจลูกร้านขายเนื้อมาเอง





เรามักพูดกับอาจารย์ใหญ่ด้วยความเคารพเสมอ เช่น
สวัสดี ครับอาจารย์ อาจารย์ครับขอพลิกตัวหน่อยนะครับ โทษนะครับอาจารย์ ไปแล้วนะครับอาจารย์ .... (แต่เราไม่เคยหวังให้อาจารย์ตอบคำทักทายของเราเลยนะ)


ท้ายที่สุดนี้ ขอบคุณอาจารย์ใหญ่ทุกท่าน ที่สละร่างกายให้เราได้ศึกษา ไม่มีท่านเหล่านี้ นักศึกษาแพทย์ ก็คงไม่สามารถจบมาเป็นแพทย์ได้

คน เขียนคิดว่าจะไปบริจาคร่างกายนะ แต่จะไปอุทิศตอนอายุเยอะหน่อย สุดท้ายร่างกายเรา ก็เป็นแค่เปลือกนอก สังขารไม่เที่ยง เอาอะไรไปไม่ได้หรอก สิ่งที่เหลือไว้คือความดีต่างหากล่ะ (เอ้า ฮิ้วววว)
 

credit by : www.md.kku.ac.th   และ Dek-d.com  และ Bloggang  
และสุดท้าย กราบขอบคุณ อาจารย์ใหญ่ทุกท่าน มา ณ ที่นี้

ไม่มีความคิดเห็น: