วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

'แอนนา' ว่าที่คุณหมอ ดาวดวงล่าสุดแห่ง ม.รังสิต


Pic_279081
กลับมาพบกับ 'สวัสดีแคมปัส' ศุกร์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม ในช่วงฟ้าฝนเป็นใจ และช่วงเตรียมตัวสอบมิดเทอมของน้องๆ อยู่พอดี อย่าลืมดูแลสุขภาพกันมากๆ เพื่อเตรียมตัวท่องหนังสือ ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์โรคมือเท้าปากกำลังระบาดหนักอยู่ด้วย สัปดาห์นี้ 'สวัสดีแคมปัส' จะพาไปรู้จักกับเฟรชชี่แพทยศาสตร์ รั้วมหาวิทยาลัยรังสิต ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งดาวของมหาวิทยาลัยมาหมาดๆ

น้องแอนนา นางสาวชาลินี เพียรธนภาคย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เฟรชชี่หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่ถึงสองเดือน หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายวิทย์-เยอรมนี เกรดเฉลี่ยสามนิดๆ ซึ่งเธอบอกว่า การเลือกมาเรียนแพทยศาสตร์ เพราะคุณแม่อยากให้เป็นหมอ และเธอก็มีความสนใจอยู่เช่นกัน จึงสอบ กสพท.ติดเข้ามา

"บางคนอาจบอกว่าเรียนแพทย์ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่นี่ บางคนถามว่าทำไมจบเตรียมอุดมถึงมาเรียนเอกชน แต่ในความคิดเรานั้น แพทย์ที่ไหนก็เหมือนกัน ที่นี่ก็เป็นสถาบันที่ผลิตแพทย์ได้ดีที่หนึ่ง มันขึ้นอยู่กับตัวของเราเองมากกว่า ว่าถ้าจบไปแล้วจะเป็นแพทย์ที่ดีได้มากแค่ไหน"

น้องแอนนา เล่าถึงความเป็นอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยช่วง 1 เดือนกว่าๆ กับ 'สวัสดีแคมปัส' ว่า เป็นช่วงที่รู้สึกสนุกมาก เพราะเป็นช่วงที่มีกิจกรรมรับน้อง ที่เข้าร่วมเพราะคิดว่าเป็นกิจกรรมของปี 1 และเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะได้ทำร่วมกับเพื่อน ซึ่งรุ่นพี่ก็น่ารัก ให้คำแนะนำและกำลังใจดี ยิ่งการที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย ก็ทำให้รู้จักเพื่อนต่างคณะ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ ความคิดเห็น เปิดมุมมองให้เรามากขึ้น แม้ว่าจะเป็นช่วงที่เหนื่อยเช่นกัน เพราะหลังจากที่ได้รับคัดเลือกเป็นดาวคณะแล้ว ก็ต้องไปทำกิจกรรมร่วมกับดาวเดือนของคณะอื่น มีการฝึกซ้อมการแสดงบนเวที กว่าจะเลิกก็ประมาณ 3 ทุ่ม และหลังจากนั้นก็จะแยกซ้อมดาวเดือนเฉพาะคณะต่อถึงประมาณเที่ยงคืน พอกลับมาห้องก็ต้องอ่านหนังสือ เพราะมีสอบย่อยที่คณะในตอนกลางวันอยู่บ่อยๆ

"การเป็นดาวของคณะและเข้าประกวดในระดับมหาวิทยาลัย มันไม่ได้หมายถึงเราคนเดียว แต่หมายถึงการเป็นตัวแทนของทั้งคณะ เราจึงเต็มที่และพยายามกับมันมาก แต่อาจารย์ก็เข้าใจ ถามเราตลอดว่าเรียนตามทันหรือไม่ รุ่นพี่และเพื่อนๆ ก็ช่วยทำสรุป ช่วยติวช่วยสอนให้หากไม่เข้าใจ โดยส่วนตัวมองว่าการปรับตัวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยไม่ได้ยาก ขึ้นอยู่กับตัวของเรามากกว่า ถ้าเรามีความรับผิดชอบ รู้ว่าหน้าที่ของเราคืออะไรและต้องทำอะไร ก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี"

เมื่อมาถึงในคืนประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย น้องแอนนาก็โชว์ความสามารถร่วมกับเดือนของคณะ ด้วยการเต้นและร้องเพลง ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่เธอชอบ น้องแอนนาเล่าว่า เมื่อผ่านเข้าสู่รอบ 10 คนสุดท้าย จะต้องมีการตอบคำถาม และเลือกได้คำถามว่า หากเป็นครูสอนวิชาแนะแนวจะแนะแนวนักเรียน ม.6 ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไรบ้าง? ซึ่งเธอตอบไปว่า ทุกคนมีความฝันที่ต่างกัน ถ้าเราฝันอยากเป็นอะไรหรืออยากจะทำอะไร ก็ควรลงมือทำทันที เพราะถ้าเราไม่มีก้าวแรก เราก็จะไม่มีวันมีก้าวต่อๆ ไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเราเริ่มที่จะลงมือทำหรือเปล่า อย่าพูดว่าไม่มีเวลาหรือเดี๋ยวค่อยทำ เพราะมันก็จะไม่มีวันได้เริ่ม
เมื่อได้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ก็ต้องมีการตอบคำถามเช่นเดิม ครั้งนี้เธอได้คำถามว่า หากใกล้จะถึงวันที่ 5 ธันวาคม จะมีวิธีมอบความสุขให้กับพ่อได้อย่างไร? เธอตอบว่า คนเป็นพ่อแม่มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการที่คุณพ่อของเธอเสียไปแล้ว ทำให้ยิ่งรู้ว่าคนเป็นพ่อแม่มีความสำคัญมากแค่ไหน และท่านก็รักลูกมากเช่นกัน จึงอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญ เพราะถ้าไม่มีท่านก็จะไม่มีเราในวันนี้ ไม่อยากให้คิดว่าต้องรอโอกาสสำคัญหรือวันพิเศษ เพียงทำให้ทุกวันเป็นวันที่ท่านได้มีความสุข 

ที่สุดแล้ว น้องแอนนาก็ได้รับรางวัลดาวมหาวิทยาลัย เธอบอกว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ เพราะทุกคนที่เข้าประกวดก็มีความสามารถ และมีความสวยงามกันทุกคน ซึ่งหลังจากได้รางวัลและกลับมาเรียนก็มีคนมาทัก แสดงความยินดี มียิ้มทักทายให้ รุ่นพี่บางคนก็มาถามชักชวนให้ลองไปประกวดเวทีข้างนอก ซึ่งก็สนใจอยู่บ้าง แต่ก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสมและเวลาก่อน

ดาว ม.รังสิตปีล่าสุด บอกถึงงานอดิเรกที่เธอชอบคือ การทำขนม โดยอาศัยเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ตและเปิดตำรา แล้วทำตามสูตร ทั้งเค้ก พาย คุกกี้ เธอบอกว่าที่ชอบทำ เป็นเพราะชอบทานขนมมาก ถ้าทำเองก็สามารถกำหนดได้ว่าเราจะใส่อะไรมาก-น้อยตามความชอบ ส่วนประกอบดี-ไม่ดีแค่ไหน จึงทำทานเอง ส่วนที่ไม่เห็นว่าหุ่นของเธออ้วนนั้น เป็นเพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะการเล่นโยคะร้อน

"ถ้าถามว่าการเข้ามาเรียนแพทย์นั้นยากมั้ย ยากนะ แต่ไม่เกินความสามารถทุกคนหรอก สำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนด้านนี้ ถ้าทุกคนมีความขยัน มุ่งมั่น ก็อยากให้เริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่จำเป็นต้องไปโหมหนักช่วงใกล้สอบ ค่อยๆ อ่าน ทำแบบฝึกหัดมากๆ ถ้าทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจจริงก็มีโอกาส อย่าไปกลัวว่ามันยากแล้วเลิกล้มความตั้งใจ ต้องมั่นใจในตัวเอง ลองสอบ ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะการทำอะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อมีโอกาสหรือพื้นที่ที่จะได้ทำตรงนั้น ก็ควรทำออกมาให้เต็มที่ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง"

ส่วนในอนาคตนั้น น้องแอนนาบอกว่า อยากเป็นแพทย์ตามต่างจังหวัดหรือชนบท เพราะในเมืองมีแพทย์อยู่เยอะแล้ว อยากทำประโยชน์อะไรได้มากกว่าการเปิดคลินิกในเมือง จึงอยากช่วยเหลือคน เพราะบางที่ขาดแคลนหมอ หมอไม่พอกับคนไข้.


Credit ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น: