วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

'ยีน เกวลิน' สาว มศว จากนางงามสู่นางเอกป้าย'แดง' แห่งวิก 3


Pic_275572

มาตรงกับวันศุกร์ 13 พอดี สำหรับ 'สวัสดีแคมปัส' สัปดาห์นี้ ยังคงเดินหน้าแนะนำนิสิต นักศึกษาสถาบันต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับนางเอกป้ายแดงแห่ง มศว ดีกรีรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีล่าสุด ที่ขึ้นแท่นนางเอกละครเบอร์แรกของบริษัท 'จันทร์ 25' ของคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ซึ่งเป็นการข้ามวิกมาร่วมกับช่อง 3 เป็นเรื่องแรกอีกด้วย

มาจากสายประกวดจริงๆ สำหรับน้องยีน 'เกวลิน ศรีวรรณนา' นักศึกษาปีที่ 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขานาฏศิลป์สากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เพราะก่อนที่เธอจะได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 นั้น เธอเคยคว้ามงกุฎเพชร รางวัลมิสแคนนอนยูลีก 2010 มาแล้วตอนเธออยู่ชั้นปีที่ 1
น้องยีนเล่ากับ 'สวัสดีแคมปัส' ว่า ที่เริ่มเข้าประกวด มาจากการที่มีรุ่นพี่ชวนไป ก็เลยลองประกวดดู ซึ่งเห็นว่าเวทีมิสแคนนอนฯ นั้น ไม่ใช่ว่าจะประชันแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้ความสามารถมาตัดสินด้วย ซึ่งตอนนั้นก็ใช้ยิมนาสติกประกอบเพลง ซึ่งเราเคยเรียนมาตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นก็เริ่มมีงานโฆษณาอีกหลายตัว โดยเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปแคสโดยตรง เพราะรู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองอ้วนอยู่ แต่มาจากการที่ไปเป็นเพื่อนกับเพื่อนที่ไปแคส แล้วพี่ๆ เขาก็บอกว่าให้เราลองไปแคสดู แต่ต้องลดน้ำหนัก พอกลับมาลดน้ำหนักอย่างจริงจังก็ได้รับงาน

ส่วนเรื่องการเรียน น้องยีน เล่าว่า ตอนที่เรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์นั้น เรียนสายวิทย์-คณิต และเข้าร่วมชมรมการรำไทยมาตลอด พอช่วงจะเข้าสู่มหาวิทยาลัย ก็เลือกเข้าคณะสังคมศาสตร์ เอกภูมิศาสตร์ มศว ซึ่งไม่ใช่การแหวกแนว เพราะเรายังต้องใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และส่วนตัวชอบและสนใจเรื่องเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ดวงดาวนอกโลก มาตั้งแต่ช่วง ม.2-3 และสามารถทำคะแนนได้ดีในวิชานี้
"พอเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยก็ต้องมีการปรับตัวมากพอสมควร เพราะเราต้องทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ทั้งหมด ไม่มีเพื่อนเก่ามาเรียนด้วยเลย เพราะส่วนมากก็จะไปเรียนสายวิทย์กันหมด แต่การเรียนที่องครักษ์ก็ช่วยให้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ง่ายขึ้น เพราะเหมือนต้องอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชม. แต่หลังจากที่ได้รับรางวัลมิสแคนนอนฯ งานก็เริ่มมากขึ้น เวลาเรียนของเราก็เริ่มตรงกับงาน ช่วงนั้นเหนื่อยมาก ต้องทำงานด้วยและต้องกลับมาตามงาน และอ่านหนังสือซึ่งเยอะมากๆ ประกอบกับการเรียนของเราไม่เพียงพอ ทั้งกิจกรรมการเรียนที่ต้องไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ก็เริ่มปรึกษากับคุณแม่ และทางออกก็คือการย้ายคณะมาเรียนศิลปกรรมศาสตร์ ตอนช่วงปี 2 เทอมแรก"

น้องยีน บอกว่า การมาเรียนในสาขานาฏศิลป์สากล เป็นการเรียนที่เน้นการทำกิจกรรม และการสร้างงาน ข้อดีคือการที่เราทำงานจนไม่มีเวลาออกกำลังกายหรือรักษาสุขภาพ ก็จะได้ออกกำลังกายโดยอัตโนมัติ เพราะมีการเรียนบริหารร่างกาย ซึ่งเหมือนได้เข้าฟิตเนสส์ ส่วนการจัดเวลาเรียนกับเวลางานนั้น ก็พยายามจัดให้ไม่ตรงกัน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะพยายามตามงานจากเพื่อน ตอนส่งอาจารย์ก็จะแนบใบลาไปพร้อมกับงาน
"ยอมรับว่าบางทีเราเสียโอกาสในการเข้าเรียน แต่งานที่เราได้รับจากผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส เป็นประสบการณ์ที่ดี ถึงแม้จะรู้สึกเหนื่อย ต้องใช้ความอดทน แต่ก็รู้สึกดีและสนุก เพราะเราต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น ทั้งการเรียนและทำงานพร้อมๆ กัน ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าของเราจะเป็นอย่างไร เมื่อมีโอกาสเข้ามาก็ต้องรีบคว้าไว้ก่อน ซึ่งการทำกิจกรรมหรืองานมากๆ นอกจากช่วยให้เรามีความคิดต่างจากในตำรา ก็จะทำให้การพรีเซนต์งาน และความกล้าแสดงออกของเราน่าสนใจมากขึ้นด้วย โดยตอนนี้ภายใน 1 สัปดาห์ก็ต้องถ่ายละคร 3 วัน อีก 2 วันก็จะกลับไปเรียนและตามงาน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องไปเรียนและซ้อมการแสดง"

ส่วนการผ่อนคลายและงานอดิเรกของน้องยีน นอกจากการพักผ่อนกับครอบครัวแล้ว เธอยังชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนและนวนิยายเป็นชีวิตจิตใจ เธอบอกว่า มันช่วยจุดประกายความคิดและจินตนาการ ซึ่งบางครั้งก็ลองประยุกต์มาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย
แม้ว่าจะเพิ่งลงจากเวทีนางงาม มารับบทนางเอกหน้าใหม่ของผู้จัดมากประสบการณ์อย่างคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ซึ่งเธอบอกว่า ด้วยนิสัยเป็นตัวของตัวเอง สนุกสนาน เฮฮา จึงทำให้เธอได้รับโอกาสตรงนี้ และในอนาคต น้องยีนบอกว่า อยากเดินตามรอยคุณพ่อซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ทำงานเบื้องหลังในวงการ

ท้ายสุด น้องยีนฝากผลงานละครเรื่อง 'ลับ ลวง หลอน' ซึ่งอยู่ในช่วงถ่ายทำ และคาดว่าจะได้ชมประมาณเดือนสิงหาคม ทางช่อง 3 ด้วยบทเด็กสาวผู้มีความฝัน ที่สามารถสื่อสารกับวิญญาณ และนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเขียนหนังสือ.

Credit  ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น: