วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แนะนำ คณะ กายภาพบำบัด


ตอนนี้กำลังเรียน คณะเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ค่ะ

กายภาพบำบัดไม่ได้เรียนหนักถึงขั้นหมอหรอกค่ะ
แต่ก็มีหลายตัวที่ไปเรียนของคณะแพทย์ (จะขอพูดถึงของม.เชียงใหม่นะคะ เพราะม.อื่นก็มีหลักสูตรต่างๆกันไป)
แล้วก็มีหลายๆตัวที่เป็นวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ถ้าใครแน่นเป็นทุนเดิมก็ดีไป
มีวิชาของวิทยาศาสตร์สุขภาพทั่วไป รวมทั้งวิชา แปลกๆที่เหมือนจะไม่เกี่ยวข้อง แค่ลงให้หน่วยกิตเยอะๆรึเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ
ถ้าเป็นวิชาของทางกายภาพเลยจะเน้นแบบที่ต้องปฏิบัติทั้งนั้น
มาดูค่ะว่ามีอะไรบ้าง
  • เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา สถิติ ภาษาอังกฤษ จิตวิทยาทั่วไป ฯลฯ
  • Gross Anatomy (ผ่าอาจารย์ใหญ่)  Basic Anatomy  Neuroanatomy (ประสาท)  สรีรวิทยา จิตวิทยา
  • Manual therapy (หัตถบำบัด)  พวก Exercise ต่างๆ  การบำบัดในแขนงต่างๆ  และสาขาเฉพาะ 
  • ว่ายน้ำ?  ลีลาศ!!  ประกอบคอม!!??
สาขากายภาพบำบัดเรียนก็เพื่อไปบำบัดผู้ป่วยไงคะ (เออ! จะรู้ไหมนั่น) :P
กายภาพเป็นการรักษาในเชิงฟื้นฟูค่ะ ไมใช่แบบที่ต้องมาทำให้หายจากโรค (เอ๊ะ แต่ก็ไม่เชิงนะ)

เคยไหมคะที่แขนหักขาหักแล้วต้องใส่เฝือกเป็นเดือนๆ  ต้องมาให้ใครก็ไม่รู้มาสั่งให้ฝึกเดินฝึกยืดน่ะค่ะ
ไอ้ใครนั่นแหละค่ะที่เป็นนักกายภาพบำบัด(ต่อไปจะขอเรียกว่า PT นะคะ) คนที่เคยเป็นคงจะรู้จัก
แต่ถ้าเป็นในโรงพยาบาลชุมชนเล็กๆ อาจจะไม่มี PT มาฝึกให้ก็ได้ค่ะ เพราะคนไม่พอ

หรือคนเป็นอัมพาต  เด็กสมองพิการ (ที่คนเข้าใจว่าเป็นเอ๋อนั่นแหละค่ะ แต่เขาไม่เอ๋อนะ
ฉลาดด้วยซ้ำ แค่สมองสั่งการให้ควบคุมร่างกายไม่ได้เท่านั้นเอง)  แม้แต่การคิดโปรแกรม
การออกกำลังกายให้ผู้ป่วยก่อนหรือหลังผ่าตัดก็ใช่ค่ะ เราทำงานเป็นทีมกับหมอ พยาบาล
และวิชาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องค่ะ ถ้าเป็นสาขาเฉพาะก็มีอีก 4 สาขาที่ได้นำไปใช้แน่นอน
Sport -> จำเป็นค่ะ เพราะนักกีฬาต้องมีสมรรถภาพที่ดี ได้ข่าวว่าที่ต่างประเทศรุ่งมาก อา..สมองไหล
SPA -> นวดเล้ย ยังไงก็ได้เรียนนวดมาอยู่แล้ว แต่ส่วนมาก PT จะไม่เป็นคนนวดนะคะ จะเป็นผู้ฝึกสอนและควบคุมคนนวดอีกที ว่าจะลงน้ำหนักเท่าไหร่ ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย แต่ไม่คลายเกินไปจนขยับไม่ได้ ประมาณนี้ล่ะมั้งคะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เรียนค่ะ ผ่านไปก่อน
ธาราบำบัด -> กายภาพบำบัดในสระน้ำอุ่น  อบซาวน่า  อ่างจากุชชี่ ...สุดยอดดด
Women -> ดูแลคุณแม่ก่อนคลอด ...ประมาณนี้มั้งคะ อันนี้ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่

เคล็ดลับในการเรียน...ไม่บอกค่ะ อย่าเพิ่งหาว่าเนียนขี้เกียจนะคะ (แต่จริงๆก็ใช่ :D)
จริงๆแล้วไม่ว่าสาขาวิชานี้ คณะนี้ หรือคณะไหนก็มีเทคนิคการเรียนเหมือนๆกันนั่นแหละค่ะ
คือต้องขยันและฝึกปฏิบัติ  โดยส่วนตัวแล้วต้องเรียนแล้วนำไปใช้ถึงจะจำเข้าหัวค่ะ
บอกตัวเองว่าเรียนเพื่อรู้ ไม่ใช่เพื่อมุ่งเอาแต่คะแนน  แล้วนำความรู้นั้นไปต่อยอดวิชาอื่นๆ
วิชาที่ไม่ชอบก็มี แต่ก็ถือว่าจำเป็นที่จะต้องนำไปใช้ (หรือลีลาศนี่จะนำไปใช้ออกงานสังคม?)
ไม่ชอบได้ บ่นได้ แต่ก็ต้องพยายามถูไถไปให้รอดค่ะ ไม่งั้นก็กลายเป็นเด็กรักเรียน
เรียนวิชาเดิมซ้ำทุกปีๆ

อยากฝากน้องๆว่า...สายวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพเป็นเหมือนค่านิยม คนทั่วไปมักจะคิดว่า
มาสายนี้แหละดี โก้เก๋ ยังไงก็ไม่ตกงาน (ถ้าทำในโรงพยาบาล) ซึ่งก็จริง (อะป่อยยยย)
แต่ก็ไม่สบายเลยนะคะ งานหนัก เงินพอใช้ถ้าไม่สุรุ่ยสุร่าย  ถ้าได้เงินมากงานก็เยอะ
ไม่มีเวลาใช้หรอกค่ะ  แถมยังเสี่ยงต่อชีวิตเขา (ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา) และชีวิตเรา
(จะโดนฟ้องติดคุก) ได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นใครที่หลุดมาทางนี้แล้วล่ะก็  ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนก็ขอให้ปรับตัว เปิดใจกว้างๆนะคะ
PT อาจถูกมองว่ามีความสำคัญน้อย เป็นแค่บุคลากรเล็กๆของโรงพยาบาล ไม่ยิ่งใหญ่
เท่าหมอ  ไม่มากมายเท่าพยาบาล  แต่เราก็สำคัญค่ะ อย่าดูถูกสาขาและคณะที่ตัวเองเรียน

ไม่มีความคิดเห็น: