วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เทคนิคการอ่านหนังสือสอบ

เทคนิคการอ่านหนังสือสอบ

รวมเทคนิคการอ่านหนังสือสอบมาฝากค่ะ
เป็นเทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ซึ่งถ้าจะให้ได้ผลดีเยี่ยม ต้องใช้เวลาเตรียมตัว และปฏิบัติตามอย่างน้อย 1 เดือน … แต่นี่เด็ก ๆจะสอบแล้ว อาจจะช้าไปนิด แต่ไม่ถึงกับสายเกินไป ลองทำดูค่ะ
1 .เลิกสร้างบรรยากาศที่ไม่ใช่การเตรียมสอบ อาทิเช่น ต้องเลิกเที่ยว เลิก chat ตอนดึกๆ เลิกเม้าท์โทรศัพท์นานๆ ตัดทุกอย่างออกไป ปลีกวิเวกได้เลย ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้อย่าคิดเลยว่าจะอ่านหนังสือได้ดีเห็นผล
2.ตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าต่อไปนี้จะทำเพื่ออนาคตตัวเอง บอกเพื่อน บอกทุกคนว่า อย่ารบกวน ขอเวลาส่วนตัว จะเปลี่ยนชีวิต จะกำหนดชีวิตตัวเอง จะกำหนดอนาคตตัวเอง เพราะเราต้องการมีอนาคตที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง
3.ถ้าทำ 2 ข้อไม่ได้ อย่าทำข้อนี้ เพราะข้อนี้คือ ให้เขียนอนาคตตัวเองไว้เลยว่า จบแล้วจะเป็นอะไร เช่น จะเป็นพนักงานบัญชี ในระดับสูง จะได้มีเงินเดือนสูงๆ มีเวลามากพอไปเที่ยว ไปพักผ่อน ได้รับการยอมรับในสังคม อะไรทำนองนี้ เขียนติดเป็นป้ายบอก หรือมีภาพประกอบด้วยได้ยิ่งดีเลย เพื่อสร้างเป้าหมายให้ชัดเจน
4.เตรียมตัว สรรหาหนังสือมาให้ครบทุกเนื้อหาที่จะต้องสอบ และแนะนำค่ะว่าในแต่ละวิชา เด็ก ๆ ควรมีหนังสือหลัก 1 เล่ม และหนังสือประกอบอีกสัก 2-3 เล่มนะคะ เพื่อให้ได้เนื้อหาครบถ้วนและโชคดีอ่านเจอหนังสือดีๆ ที่ทำให้เราอ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น หรือมีโจทย์ ตรงตามข้อสอบเลยก็ได้
เตรียม ดินสอ ยางลบ ปากกา ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายสี ถ้ามีเงินก็ลงทุนซื้อ ๆมาเถอะค่ะ เวลาเขียนอาจจะมีความสุขกับสีสันที่มากขึ้น ปากกาเน้นข้อความ ตลอดจนสมุดจด บางคนเลือกเอาประเภทที่น่าเขียน น่าเก็บไว้อ่านก็ได้ค่ะ
อาจหาอาจารย์ติว (ไม่ใช่ครูนะคะ เพราะไม่มีเวลาค่ะ) หาเพื่อนคนเก่งๆ ก็บอกกับเค้าล่วงหน้าหน่อย ให้เข้าได้เตรียมตัว หรือหาเพื่อนสนิทให้ช่วยเป็นกำลังใจ ว่าเขาว่าเป็นกำลังใจให้เราหน่อย ช่วยเหลือเราหน่อย และเตรียมห้องอ่านหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ ให้พร้อม
5.เริ่มลงมืออ่านหนังสือ เริ่มจากวิชาที่ชอบ เรื่องที่ถนัด ก่อน หรือ เอาวิชาที่ชอบก่อน เพื่อให้เราอ่านได้เยอะๆ และอ่านได้เร็ว จะได้มีกำลังใจอ่านเนื้อหาอื่นต่อไป โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เริ่มต้นการทำสิ่งที่เราชอบจะมีโอกาสสำเร็จ เห็นผลดีมากกว่า ถ้าเด็กทำได้ดี เห็นผล ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้อ่านวิชาอื่นๆ ต่อไป และจะดีที่สุดหากมีการสรุปสาระสำคัญใส่สมุดเล่มเล็ก ๆ หรือกระดาษอะไรก็ได้ เพื่อให้สะดวกแก่การพกพา การสรุปจะน่าอ่านมากยิ่งขึ้นถ้าเราทำด้วยความเข้าใจ และตั้งใจ ถ้าทำเป็นMind Mapping ได้ก็จะช่วยให้อ่านง่ายขึ้น ใส่รูปแบบ ลูกเล่น ที่น่าสนใจ น่าอ่าน นอกจากเวลาอ่านจะได้ความรู้ แล้วยังได้ความภาคภูมิใจในผลงานเราด้วยนะคะ
เวลาอ่านถ้ามีแนวข้อสอบก็ทำข้อสอบไปด้วย ถ้าไม่มีอย่างง่ายสุด ก็ทำแบบฝึกหัดจากง่ายไปยาก ค่อยๆ ทำ ถ้าท้อก็ให้ลืมตาดูป้าย ดูรูปอนาคตของตัวเอง ต้องลงมืออ่านอย่างจริงจัง อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง !!!
แล้วจะทำได้ไง ??? ไม่ยากค่ะ วิธีการคือ อ่านทุกครั้งเมื่อที่มีโอกาส หนังสือต้องติดตัวตลอดเวลา ว่างเมื่อไรหยิบมาอ่านได้ทันที อย่าปล่อยให้ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ที่สำคัญอ่านแล้วต้องมีโน้ตเสมอ ห้ามนอนอ่าน ห้ามกินขนม ห้ามฟังเพลง ห้ามดูทีวี ห้ามดูละคร ดูหนัง อ่านอย่างเดียว ทำอย่างจริงจัง
6. ตรวจผลของการอ่าน ดูได้จากการที่ว่า ทำข้อสอบ หรือการบ้านได้หรือไม่ ถ้าอ่านแล้วทำได้ ก็แสดงว่าอ่านรู้เรื่อง อ่านเข้าใจ ได้เนื้อหาจริงๆ แต่ถ้าอ่านแล้วทำไม่ได้ ก็ต้องกลับไปทบทวนใหม่ ขอแนะนำว่า ในการตรวจสอบผลงานให้ทำทุก ๆ ระยะ เช่นทุกครั้งที่จบหัวข้อ ก็หาข้อสอบหรือแบบฝึกหัดทำตรวจสอบความรู้กันเลย หรือถ้าไม่มีแบบฝึกหัด ก็หลับตานึกทบทวนเรื่องที่เพิ่งอ่านจบว่ามีอะไรบ้าง ถ้าตอบตัวเองได้ครบถ้วน ถือว่าผลงานดีแล้ว ทำข้อสอบได้แน่ค่ะ
7. อ่านจริงจังเมื่อเข้าสู่ 1 สัปดาห์ก่อนสอบ หยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป
และก็กลัยมาอ่านวิชาที่จะสอบในวันพรุ่งนี้ก่อน 1 วัน การอ่านรอบนี้เป็นการอ่านเพื่อทบทวนในความแม่นย่ำ หรือเพิ่มความแม่นย่ำแล้วหล่ะค่ะเพราะอย่างน้อยก็เป็นรอบที่ 3 ของเราแล้ว บางคนอาจเลือกอ่านเฉพาะที่จดบันทึกสำคัญ ๆ ไว้ ก็ได้ค่ะ หรือบางคนอาจจะใช้วันนี้ในการเก็งข้อสอบ ก็จะฝึกความแม่นย่ำตรงจุดที่คิดว่าจะออกเป็นพิเศษ เพื่อที่ว่าเวลาทำข้อสอบจะได้ทำได้เร็วมากขึ้น สิ่งสำคัญอย่าหักโหมใส่ความรู้จนเกินไปในวันก่อนสอบนะคะ เพราะนอกจากมันจะไม่เข้าสมองแล้วอาจจะทำให้เครียดได้ค่ะ
8. อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย บางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมี ปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อย ทำให้ต้องนอนดึก ตื่นแต่เช้าหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หาอาหารดี ๆ มีประโยชน์ให้รางวัลกับตัวเอง หานมอุ่นๆหรือของว่างไว้ทานสักนิดนึงช่วงดึก ๆ หรือหากมีตังค์ ลงทุนแบรนด์สักวันละขวดก็ได้ค่ะ ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวอาจป่วยได้ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะค่ะ และสำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะ
9.ข้อนี้สำคัญมาก หากท้อให้มองภาพอนาคตของตัวเองไว้เสมอ ย้ำกับตัวเองว่า “เราต้องกำหนดอนาคตของตัวเอง ไม่มีใครกำหนดให้เรา เราต้องทำได้ เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ให้กำลังใจกับตัวเองอยู่เสมอ บอกกับตัวเองอย่างนี้ทุกวัน หากท้อ ขอให้นึกว่า อย่างน้อยก็มีอาจารย์คนหนึ่งเป็นกำลังใจให้เด็ก ๆ เสมอ นะคะ นึกถึงภาพวันที่เรารับปริญญา วันที่เราและครอบครัวจะมีความสุข วันที่คุณพ่อคุณแม่จะดีใจที่สุดในชีวิต และต่อไปนี้ต้องทำเพื่อท่านบ้าง อย่าเห็นแก่ตัว อย่าขี้เกียจ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เลิกนิสัยเดิมๆ เสียที
เทคนิคทั้งหมดที่รวบรวมมาให้ คงไม่ยากเกินไป และาช่วงนี้ยังมีเวลาเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นที่ดี ยังไม่สายเกินไปนะคะหากคิดจะเริ่มอย่างจริงจัง อย่าอ่านเพียงแค่ได้เปิดหนังสือ อย่าโกหกตัวเองว่าได้อ่านแล้ว อย่าหลอกตัวเอง อย่าหลอกคนอื่น ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ คนที่จะได้คือคนที่ปฏิบัติจริงจังเพื่อให้ได้มันมา หลอกคนอื่นอาจหลอกได้ แต่เราหลอกตัวเองไม่ได้แน่นอน คนที่รู้จักเรามากที่สุดก็คือตัวเราเองนี่แหละค่ะ เราทำอะไรเราย่อมรู้ ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ดี ๆ คนที่จะได้รับในสิ่งที่ดี ก็คือตัวเราเองนั้นและค่ะที่ได้ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำ เช่นกันค่ะที่ว่าตัวเราเองนั้นแหละค่ะที่จะไม่ได้
เวลาไม่เคยหยุดเพื่อที่จะรอใคร โอกาสที่ได้รับในแต่ละวันไม่ใช่ว่าจะได้ในทุก ๆ วัน ตั้งใจทำ ทำเพื่ออนาคตของตัวเองนะคะ ขอให้โชคดีประสบความสำเร็จค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: