วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ชวนน้อง เรียนเกาหลี ที่ มศว



เรียนเกาหลีที่ มศวกระแสเกาหลีในเมืองไทยแม้จะตกลงไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นที่นิยมนะครับ  ล่าสุดเพลง gangnam style ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเป็นคลิป vdo ที่มียอดผู้เข้าชมสูงสุดในโลกในขณะนี้   กระแส k-pop อาจจะกลับมาอีกครั้งก็เป็นไปได้  หึหึ ๆ เห็นแบบนี้แล้วก็อยากเรียนภาษาเกาหลีขึ้นมาทันใด  เอ๊ะ !! แล้วจะเรียนที่ไหนดี unigang ขอนำเสนอ !!!    ชวนน้องไปเรียนภาษาเกาหลีที่ มศว !!!  ขอเชิญอ่านบทความได้เลยจ้า 
เดี๋ยวนี้มีคนสนใจภาษาเกาหลีกันมาก น้องๆ บางคนสนใจเรียนในระดับอุดมศึกษาแต่ไม่รู้ว่าในระดับ มหาวิทยาลัย เขาเรียนกันอย่างไรบ้าง นิตยสาร Friends ไปคุยกับ อาจารย์สิทธินี ธรรมชัย สาขาภาษาเกาหลี ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมา ใครกำลังมองหาข้อมูลการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยอยู่ลองอ่านทางนี้ นิตยสาร Friends เชื่อว่าจะเนื้อหาต่อไปนี้จะมีประโยชน์กับน้องๆ แน่นอน
เกริ่น
สาขาภาษาเกาหลีที่ มศว เริ่มต้นจากการเป็นวิชาโทก่อนจะเปิดให้เรียนเป็นหลักสูตรวิชาเอก ตอนนี้ที่สาขามีอาจารย์ประจำเป็นอาจารย์ชาวไทย 3 ท่าน (แต่ลาไปศึกษาต่ออยู่ 1 ท่าน) และอาจารย์ชาวเกาหลี 1 ท่าน ทั้ง 3 ท่านรับหน้าที่สอนวิชาเอกกันท่านละหลายวิชา เดี๋ยวนี้ สาขาภาษาเกาหลีจึงไม่มีให้เรียนเป็นวิชาโทและวิชาเลือกเสรี แล้วเนื่องจากบุคลากรไม่พอ
(หมายความว่าน้องๆ ที่เรียน มศว จะต้องเรียนเอกภาษาเกาหลีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ได้เรียนวิชาต่างๆ ของสาขาภาษาเกาหลี น้องๆ ต่างเอกต่างคณะต้องรอกันหน่อยนึง อาจารย์สิทธินีบอกกับเราว่าทางสาขากำลังวางแผนจะรับอาจารย์เพิ่มเพื่อจะเปิดเป็นวิชาโทและวิชาเลือกกันอยู่)
ทำอย่างไรจึงจะได้เรียน เอกภาษาเกาหลีที่ มศว
สาขาภาษาเกาหลีรับนิสิตจากการสอบตรงและแอดมินชั่น ปีหนึ่งๆ รับคนประมาณ 35 คน ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาเกาหลีมาก่อน (แต่อาจารย์สิทธินีอยากให้เด็กๆ ที่จะมาเรียนลองทำความรู้จักภาษาเกาหลีกันก่อนสักนิด จะด้วยเหตุผลอะไรรออ่านกันได้ที่ช่วงท้ายของคอลัมน์จ้า) 
เอกภาษาเกาหลีต้องเรียนอะไรบ้าง
สาขาภาษาเกาหลีที่ มศว เพิ่งเริ่มใช้หลักสูตรใหม่ได้สองปี หากไม่นับวิชาศึกษาทั่วไป หลักสูตรนี้จะต้องเรียนวิชาแกนและวิชาเอก วิชาแกนคือวิชาของภาควิชาภาษาตะวันออก ซึ่งได้แก่ ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เขมร และเวียดนาม มีวิชาที่ต้องเรียนรวมกันทั้ง 5 เอกอยู่ 4 วิชา คือวิชาอารยธรรมและภูมิปัญญาตะวันออก วิชาวัฒนธรรมสมัยนิยมในตะวันออก วิชาภาษาและการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และวิชาสถานการณ์ปัจจุบันในเอเชียตะวันออก ส่วนวิชาเอกรวมทั้ง 4 ปีมีอยู่กว่า 20 วิชา นิสิตหลักสูตรใหม่ต้องเรียนวิชาเอกเยอะ เพราะหลักสูตรนี้ไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาโท แต่ต้องเก็บหน่วยกิตวิชาเอกมากขึ้นแทน
วิชาเอกหลักๆ คือตัวภาษา ต้องเรียนไวยากรณ์ ฟังพูดอ่านเขียน เรียนการแปล เรียนวิชาทางด้านวรรณกรรม ด้านการท่องเที่ยว ด้านธุรกิจ อักษรจีนในภาษาเกาหลี วิชาที่เกี่ยวข้องกับภาษาศาสตร์ เช่น ตรรกศาสตร์ โครงสร้างวากยสัมพันธ์ภาษาเกาหลี เกาหลีปัจจุบัน
อาจารย์สิทธินี บอกว่าหลายวิชาต้องเรียนเป็นภาษาเกาหลี หลักสูตรของสาขาภาษาเกาหลี มหาวิทยาลัยศรีนครินทวิโรฒจะเน้นภาษาเพื่อการสื่อสาร และแถมด้วยความรู้ด้านวรรณกรรมและภาษาศาสตร์
เรียนเกาหลีที่ มศว
ไม่ใช่แค่เรียน แต่ต้องทำกิจกรรมด้วย!
กิจกรรมของนิสิตเอกภาษาเกาหลีมีมากมายก่ายกอง ทั้งกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ของคณะ และของสาขา นิสิตปีหนึ่งต้องไปเรียนที่องครักษ์ จ.นครนายก และทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยกับคณะมากหน่อย ตั้งแต่ปีสองเป็นต้นไปจึงจะกลับมาเรียนที่ประสานมิตร
กิจกรรมของสาขาส่วนใหญ่มักจะทำร่วมกันกับสาขาภาษาอื่นๆ อาทิ งานมหกรรมภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ต้องออกบูธและประชาสัมพันธ์สาขาวิชา มีการไปดูงาน (อาจารย์บอกว่าล่าสุดเพิ่งจะพาเด็กๆ ไปดูงานที่โรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้ากับนิสิตสาขาอื่นมาเอง) บางวิชาก็ไปสอบนอกสถานที่ เช่นวิชาท่องเที่ยว อาจารย์เคยพาเด็กๆ ไปสอบที่วัดพระแก้ว ให้นิสิตเป็นมัคคุเทศก์พาอาจารย์เที่ยวด้วยภาษาเกาหลี บางทีหน่วยงานภายนอกก็ขอความร่วมมือให้ไปช่วยเป็นล่ามก็มี อย่างนี้เป็นต้น
จุดเด่นของสาขาภาษาเกาหลีที่ มศว 
สาขาภาษาเกาหลีที่ มศว โดดเด่นที่ระบบแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยพูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โครงการนี้เป็นโครงการสำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 ที่ให้นิสิตลงทะเบียนเรียนที่ประเทศไทย แต่ตัวไปเรียนที่พูซาน เรียนจบครบทั้ง 2 เทอมก็กลับมาเรียนปี 4 ต่อที่ มศว (หลักสูตรที่ใช้เรียนระหว่างที่นี่กับที่โน่นเหมือนกันเด๊ะ)
อาจารย์ย้ำว่าเป็นระบบแลกเปลี่ยนไม่ใช่ระบบทุน คือนิสิตต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าหอ ค่ากินอยู่เอง แต่บางปีมหาวิทยาลัยพูซานก็มีทุนให้ เช่นปีนี้มีทุนให้ 1 ทุน นิสิตที่ได้รับทุนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้นไม่ว่าค่าเทอม ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าหอ ฯลฯ
นิสิตที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนจะต้องมีผลการเรียนทุกวิชาไม่ต่ำกว่าบีจึงจะมีสิทธิ์สมัคร และอาจารย์ทุกท่านจะเป็นผู้คัดเลือกจากผลการเรียน และความพร้อมอีกหนึ่งที โครงการนี้กำหนดจำนวนนิสิตไว้ไม่เกิน 10 คนต่อหนึ่งปี
จบเอก ภาษาเกาหลี แล้วไปทำอะไร?
จบสาขานี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีงานทำ อาจารย์สิทธินีเล่าว่าเมืองไทยมีบริษัทเกาหลีเยอะมาก ลูกศิษย์หลายคนเรียนจบแล้วก็ไปทำงานกับบริษัทเกาหลี หรือไม่ก็ไปทำงานกับสายการบิน อาจารย์บอกว่าเดี๋ยวนี้มีงานที่ต้องใช้ภาษาเกาหลีเยอะมาก โดยเฉพาะงานตามสายการบิน (ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสายการบินของประเทศเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสายการบินอื่นที่ต้องแวะประเทศไทยก่อนไปเกาหลีด้วย) นอกจากนี้ยังมีงานด้านการท่องเที่ยว งานแปล งานเอกสาร ภาครัฐบาลก็กำลังต้องการคน เพราะเร็วๆ นี้จะมีการเปิดสายศิลป์ภาษาเกาหลีในโรงเรียนมัธยม รัฐจึงต้องการครูสอนภาษาเกาหลีเยอะมาก (ทั่วประเทศไทยมีโรงเรียนมัธยมตั้งกี่โรงเรียนล่ะ!)
เรียนเกาหลีที่ มศว
ถึงน้องๆ ที่อยากเรียน ภาษาเกาหลี ในระดับมหาวิทยาลัย
อาจารย์สิทธินีฝากถึงทุกคนว่า ถ้าอยากจะเข้ามาเรียน เอกภาษาเกาหลี อาจารย์อยากให้ลองเรียนภาษาเกาหลีดูสักนิดหนึ่งก่อน เรียนเพื่อให้พอรู้จักตัวภาษาแล้วจึงพิจารณาต่อว่าเราจะเรียนต่อได้ไหม บางคนเห็นว่าภาษาเกาหลีมีพยัญชนะสระน้อยก็คิดว่าน่าจะเรียนง่าย ที่จริงแล้วภาษาเกาหลีก็ยากไม่น้อยไปกว่าภาษาจีนหรือญี่ปุ่นเลย ลำพังตัวภาษาว่ายากแล้วยังต้องเรียนวิธีเขียนและพูดให้ถูกอีก ต้องรู้วิธีการเขียนจดหมายธุรกิจ การเขียนเรซูเม่ หรืออะไรทำนองนี้อีก จึงอยากให้ตัดสินใจดีๆ ว่าชอบจริงๆ หรือเปล่า อยากเรียนจริงๆ หรือเปล่า เพราะเราต้องอยู่กับมันสี่ปี ต้องเรียนอย่างจริงจังซึ่งต่างจากการเรียนพิเศษระยะสั้น จบแล้วก็อาจต้องทำงานกับคนเกาหลี คิดไกลๆ ว่าเราจะทำงานกับคนเกาหลีได้ไหม เพราะคนเกาหลีบางคนก็ไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย เราต้องยอมรับในสิ่งที่คนเกาหลีเขาเป็นด้วย รู้ภาษาของเขาก็ต้องรู้และเข้าใจวัฒนธรรมของเขาด้วย
สี่ปีในรั้ว มหาวิทยาลัย จะว่าสั้นก็สั้นจะว่ายาวก็ยาว อย่าลืมคุยกับตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจว่าจะเรียนอะไรอย่างที่อาจารย์สิทธินีฝากไว้จะได้ใช้ชีวิตตลอดสี่ปีอย่างมีความสุขกันเนอะ!
thank :: นิตยสาร Friends

ไม่มีความคิดเห็น: