วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เรียนในสิงที่รัก กับ นิเทศน์ศิลป์

 Name : Elle
University : Mahidol University International College
Major : Comunication Design
Communication Design   นิเทศน์ศิลป์
เราจะได้เรียนเกี่ยวกับ  การออกแบบทุกอย่าง  ออกแบบตัวอักษร  ออกแบบผลิตภัณฑ์   กราฟฟิกดีไซน์   สำหรับคนเรียนทางด้านนี้ก็ควรจะมีใจรักทางด้านศิลปะ  ไม่จำเป็นต้องเก่ง  แต่เราก็ต้องขวนขวายและพัฒนาตัวเองระหว่างเรียนเสมอ
การค้นหาตัวเอง
สำหรับคนที่ยังไม่รุ้ว่าตัวเองชอบอะไร  ก็ขอแนะนำให้อยู่กับตัวเองมากขึ้น   และถามตัวเองว่าเราชอบอะไร  ถนัดด้านไหน  อยากให้ลองสังเกตุตัวเองว่าสามารถทำสิ่งไหนได้ดี   หรือไม่ก็ถามเพื่อน ว่าเพื่อนมองเห็นอะไรในตัวเราบ้าง

บุคลิกของนักออกแบบ
ต้องเป็นคนเปิดเผยและยอมรับสิ่งใหม่ๆที่เขามา และเป็นคนช่างสังเกตุ  คอยสังเกตุสิ่งเล็กๆน้อยที่บางครั้งคนอื่นมองว่าไม่สำคัญ  ที่สิ่งเล็กๆเหล่านี้อาจจะเป็นหัวใจสำคัญของแรงดันบาลใจในการออกแบบชิ้นงาน

ศิลปิน  กับ การออกแบบ
ทุกคนที่เรียนทางด้านนี้ก็อยากเป็นศิลปินกันหมด แต่การที่จะเป็นศิลปินได้คงจะต้องมีอะไรที่โดดเด่นมากๆ  ผลงานแต่ละชิ้นจะต้องส่งความรู้สึกถึงผู้ชม ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้เลยว่าเราคือศิลปิน เหมือนกับว่า เราไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่า เราคือศิลปินแต่ต้องให้คนที่ชมผลงานของเราบอก  แต่ถึงยังไงการเป็นศิลปินก็ไม่ใช่เรื่องงาน อย่างศิลปินบางท่านใน 1 ปี ผลิตผลงานได้เพียง 2 ชิ้น
แต่สำหรับการออกแบบก็จะต่างกับศิลปิน เพราะเรา ออกแบบมาเพื่อให้คนใช้งาน ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย บางครั้งเราไม่อาจจะใส่ความเป็นตัวตนของเราไปได้ เพราะเราต้องคำนึกถึงกลุ่มเป้ามหมายเป็นหลัก

ศิลปะทำงานหนักจริงหรอ
ในความคิดของ แอล คิดว่าทุกสาขาเรียนต่างกันไป อย่างวิทยาศาสตร์  พวกเขาต้องทำแลปทั้งวัน  จดบันทึกทั้งวัน  สายสังคมก็ต้องติดตามข่าวสารอยู่ตลอด  เด็กบริหารก็มีโปรเจค หนังสือก็เยอะ   แต่สำหรับสาขาที่เน้น ศิลปะเราจะเน้นปฎิบัติ  ทุกวิชาที่เรียนก็จะมีการบ้าน  บางครั้งเราทำงานเสร็จแล้วเกิดไม่พอใจเราก็ต้องทำใหม่  บางครั้งอาจให้แก้ เราก็ต้องแก้ TT^TT เรื่องอดนอนเป็นปกติ นอนตี 2 ตี 3 ตลอด

Comment  จากอาจารย์
แอล คิดว่า แล้วแต่อาจารย์ แต่ละท่าน สำหรับอาจารย์ที่ MUIC เป็นอาจารย์ที่ตรงไปตรงมา ถ้ามันไม่ดี อาจารย์ก็จะพูดออกมาตรงๆ เพื่อที่จะทำให้เราได้เห็นว่า มันไม่ดีจริงๆเราจะได้นำคำวิจารย์กลับมาพัฒนาข้อผิดพลาดของเรา    การที่อาจารย์ติชมผลงานของเรา ก็เหมือนกับการขัดเกลาเรา   ถึงแม้มันจะเจ็บ  (  T__Y ) แต่มันก็ส่งผลดีต่อเราทั้งสิ้น  และเราก็เข้าใจอาจารย์ว่าเค้าหวังดีกับเรา   

การได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองรัก
ช่วงสมัยมปลายก็มี ความคิดไม่ตรงกับพ่อแม่บ้าง เพราะเราอยากเรียนศิลปะ แต่พ่อแม่ไม่สนับสนุน  ก็เลยต้องจำใจเข้าสาขาอื่น ตอนแรก แอลก็ไม่คิดว่าติด MUIC ด้วย เพราะคิดว่าที่นี่ยากแต่ก็ลองสอบดูติด Pre3 ซึ่งก็ถือว่าดีมากแล้วเลยตัดสินใจเรียนที่นี่ โดยเรียนการโรงแรม แต่พอเรียนไปก็รู้ตัวเลยว่าไม่รอดเพราะเราไม่ถนัดเลขจริง ๆ พอหลังจากได้เรียนสังคมดีกว่าเพราะคิดว่าน่าจะเรียนวิชาพวกท่องจำได้ดีกว่า ผลเกรดออกมาแบบว่าห่วยมาก T___T   พอปี 2 ก็รู้ว่า  MUIC จะเปิดสอน สาขา Communication Design   ดีใจมากและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนสาขานี้  พอเราได้เรียนสาขานี้ผลการเรียนของเราก็ดีขึ้นตามลำดับ  ทำให้รุ้ได้เลยว่าถ้าได้ทำหรือเรียนในสิ่งที่ตัวเองรัก ผลก็จะออกมาดี

อยากฝากอะไรถึงน้อง ๆ
ถ้าใครอยากเข้าคณะนี้ ก็อยากให้มีใจรัก และยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น  ยอมรับในคำวิจารณ์  และสำหรับที่ MUIC สิ่งที่คัญที่สุด คือ   ผ่านภาษาอังกฤษให้ได้ 555  เพราะภาษาที่นี่ถือว่ายากมาก วิชาอื่นๆก็ผ่านกันหมดแต่ไม่ผ่าน อังกฤษนี่แหละ T__Y

ไม่มีความคิดเห็น: