สวัสดีครับ.. ก่อนอื่นดีใจกับน้องๆ ที่สอบผ่านรับตรง มศว ด่านที่ 1 ด้วยนะครับ(ยกนิ้วโป้งยก Like ให้เลย อิอิ) แต่อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะอีกไม่กี่วันก็จะต้องลุยต่อในด่านที่ 2 สอบสัมภาษณ์กันแล้ว ด่านต้องบอกว่าทำใจไว้ก่อนเลย เพราะ มศว จะคัดออกครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ดังนั้น น้องๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปเลยว่า คณะเราทำไมระเบียบการประกาศรับแค่ 25 คน แต่ผ่านข้อเขียนมาถึง 200 คน O_O
วันนี้เพื่อส่งน้องๆ ชาว Dek-D เข้าสนามสอบสัมภาษณ์รับตรง มศว อย่างมั่นใจ พี่ลาเต้ มีเทคนิคการสอบสัมภาษณ์ มศว ให้ผ่านฉลุยมาบอกกันคร้าบ ทุกเรื่องเป็นประสบการณ์จริงๆ ของรุ่นพี่ๆ ปีที่แล้วที่ประสบความสำเร็จในการสอบสัมภาษณ์สอบตรง มศว แต่ละคณะเขาสอบสัมภาษณ์ยังไงไปดูกันเลย
คณะศิลปกรรมศาสตร์
พี่อยู่ศิลปกรรมจ้า ตอนที่ไปสัมภาษณ์เค้าก็จะถามว่าทำไมถึงเลือกที่นี้ ไม่เลือกที่อื่น เเล้วเค้าก็จะถามเรื่องทั่วๆ ไป เรื่องครอบครัวที่อยู่ ความสนใจ อาจจะมีทดสอบนิดหน่อยอย่างที่พี่โดนก็คือ มีดีไซน์เนอร์นั่งอยู่ด้วยคนนึง เค้าถามว่าชอบดีไซนเนอร์คนไหนเป็นพิเศษไหม พี่บอกว่าไม่มี เค้าก็ถามว่า รู้จักคนที่นั่งข้างๆ เค้ามั๊ย พี่ก็บอกตรงๆ ไม่รูู้้จักค่ะ จบข่าว มารู้ทีหลังว่าเขาเป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดังมากๆ ที่เป็นกรรมการสัมภาษณ์
รวมๆ ก็คือเราพยายามตอบตามจริงอ่ะ เเต่ให้ดูว่าเราจริงจังกับการเรียน อยากเรียนที่นี้จริงๆ ต้องหาให้ได้ว่าทำไมต้องเป็นที่นี้ ไม่เป็นที่อื่น ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ ไม่รู้ไม่ผิด ส่วนเพื่อนพี่อีกคนอยู่ ศิลปกรรม ออกแบบสื่อสาร มันบอกมาว่าน้องอย่าตื่นเต้นเป็นพอ และรู้เกี่ยวกับวงการออกแบบเยอะ หนังสือ ภาพยนต์ มิวสิควีีดีโอ รายการโทรทัศน์ บางทีอาจารย์ก็ให้ร้องเพลงให้ฟัง - -" เอาเป็น “ไม่อวดเก่งเป็นพอคับ” อย่าหลบสายตา ร่าเริงเข้าไว้ ผ่านฉลุยแน่ๆ หากมีแฟ้มผลงานเอาไปด้วยนะ สำคัญสุดๆ
พี่อยู่ศิลปกรรมนะคะ ยังจำได้เลยว่าวันที่ไปสอบสัมภาษณ์ตื่นเต้นมาก น้องๆ ไม่ต้องเครียด ไปแบบสบายๆ ก่อนอื่นพอเข้าไปปุ๊บอาจารย์เขาก็จะให้เราแนะนำตัว เราก็แนะนำตัวไป เอาให้พูดแล้วได้ยินชัดเจน อย่าพูดในลำคอนะคะ ไม่ต้องแนะนำตัวนานมากก็ได้ค่ะ เอาแค่พอประมาณให้รู้ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน
คำถามที่ต้องเจอนะคะ
- ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้ เอกนี้..* (พี่อยู่การออกแบบเพื่อการแสดงค่ะ)
- พ่อแม่ว่ายังไงตอนรู้ว่าเราติดที่นี่
- ถ้าติดแล้วจะสละสิทธิ์ไหม
- ชอบอะไรในคณะนี้ เอกนี้
- รู้รึป่าวว่าคณะนี้เกี่ยวกับอะไร (น้องๆจำเป็นต้องรู้บ้างนะคะ)
ส่วนคำถามอื่นที่พี่เจอนะคะ
- มายังไง นั่งรถสายอะไรมา !!
- ที่บ้านมีพี่น้องกี่คน
- พ่อแม่ทำงานอะไร
รวมๆ แล้วน้องๆ ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ ที่สำคัญห้ามหยิ่งนะ เราต้องมีสัมมาคาราวะ
คณะเศรษฐศาสตร์
การสัมภาษณ์รอบสอบตรงกับรอบแอดมิชชั่น ไม่เหมือนกันนะ โดยเฉพาะของ มศว รอบรับตรง มีโอกาสหลุดสูงมาก อย่างเศรษฐศาสตร์ที่พี่ติด เค้าเรียกสำรองเข้าไปด้วย ตอนสอบสัมภาษณ์อาจารย์ก็กวนมาก ฮ่าๆ 555 มาถึงให้คิดเลข งงเลย แถมวัดความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ล้วนๆ พวกศัพท์ หรือคำเฉพาะจำไปเยอะๆ เลย ยังไงก็สู้ๆ นะ
ตอนที่พี่สอบสัมพาดก็ไม่มีอะไรมากนะครับ อย่างแรกคือ แนะนำตัวครับ อย่างที่ 2 ก็จะเป็นคำถามเกี่ยวกับความรู้ในสาขาที่เราเรียน อาจจะให้วิเคราะห์พวกสถานการณ์ปัจจุบันบ้างแล้วแต่คนนะครับ สุดท้ายก็จะโดนคำถามจิตวิทยาเล็กน้อย อันนี้เราต้องควบคุมสติสมาธิดีๆๆนะครับ เพราะอย่างของพี่ก็โดนขนาดว่า “คุณมีสิทธิ์สัมภาษณ์ตกนะ” พี่เองก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็พูดว่า "ครับ" อย่างเดียว คือเหมือนเค้าดูปฏิกิริยาของเราอะไรประมาณนั้นน่ะครับ อ้อ...คณะสอบข้อเขียนก็มีผลด้วยเหมือนกันครับ บางทีเราคิดว่าเราสอบสัมภาษณ์ดี แต่คะแนนข้อเชียนเราไม่ดีก็มีสิทธิ์ไม่ผ่านได้เหมือนกันครับ
คณะสหเวชศาสตร์
คือปีที่แล้วพี่ก็ติดสอบตรงนี่แหละ พี่เรียนคณะสหเวชศาตร์ กายภาพบำบัด ตอนที่พี่สัมภาษณ์นะ ก็เตรียมตัวอย่างที่ในรายละเอียดเค้าบอกมาอ่า เตรียมแฟ้มไปด้วยก็ดีนะแล้วที่สำคัญ แต่งตัวให้เรียบร้อย ไปรอสัมภาษณ์ก่อนเวลาเยอะๆ เพื่อคลายความตื่นเต้นอ่า อันนี้ช่วยได้จิงๆ
ส่วนเกณฑ์การตัดสินเนี่ย ปีที่แล้วพี่ถามอาจารย์เค้าในห้องสัมภาษณ์เลยอ่า อาจารย์บอกว่า ของคณะเราก็ดูจากคะแนนการสอบของเรา วัดจากคะแนนสอบ แล้วก็จะมีการทดสอบอะไรนิดหน่อย ถ้าเราผ่านหมด จิตไม่ผิดปกติ ก็โอเค แล้วที่สำคัญที่สุด คือบุคลิกของเรา
เวลาอาจารย์ถามอะไร ก็อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ ให้ตอบๆไปตามจริง อย่าโม้เว่อร์นะ อาจารย์เค้าไม่ถามยากหรอก เหมือนว่าเค้าจะดูว่าเราบุคลิกยังไง ลักษณะการพูด ลักษณะเหมาะสมต่อวิชาชีพไหม
ตอนพี่นะ พอเราเดินเข้าไปในห้องบรรยากาศจะวังเวงมากกกก ให้น้องยิ้มสู้อาจารย์ไปเลย อาจารย์เค้าต้องยิ้มให้เรามั่งแหละ มันจะลดความตื่นเต้นลงเยอะ อย่าลืมหวัดดีอาจารย์ล่ะ แล้วก็ถ้ามีแฟ้มก็เอาแฟ้มวางบนโต๊ะ (แต่ตอนพี่อ่า คณะพี่ไม่ได้บอกให้เอาแฟ้มไป ใครวางบนโต๊ะอาจารย์เค้าก็ไม่ได้ดูอ่านะ) แร้วอาจารย์ก็บอกว่าลองแนะนำตัวเอาซิ เราก็พูดๆ ไป มาจากโรงเรียนไร ทำกิจกรรมไรมั่ง เล่าๆ อะไรที่เกี่ยวกะตัวเราเนี่ยแหละ แล้วก็ถามว่าที่บ้านทำงานอะไร แล้วก็ดูๆ ข่าวไปด้วย เผื่อเค้าถามว่าดูข่าวมั่งไหม จะได้เล่าถูก อย่าดูแต่ข่าวดาราล่ะ 55+ อ่อ แร้ว
อีกอย่าง ศึกษาดูด้วยว่าคณะเราอ่า คณบดีชื่ออะไร เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง แล้วอันนี้คำถามยอดฮิต “ทำไมถึงเลือกมาสอบที่นี่ แล้วทำไมไม่เลือกที่อื่นล่ะ แล้วเลือกสอบคณะอะไรที่ไหนไปมั่ง ติดที่ไหนแล้วมั่ง ปีของพี่ให้เอาฟิลม์ X-ray ไปด้วยนะ สุดท้าย สู้ๆนะคะน้อง แล้วเจอกับพี่ๆได้ในรั้ว เทาแดง มศว ของเรายินดีต้อนรับจ้า
วิทยาลัยนานาชาติ
สัมภาษณ์ก็จะโดนสัมภาษณ์ทั้งไทย และอังกฤษ ตอนแรกเขาจะให้สัมภาษณ์กับอาจารย์ต่างชาติก่อน ก็ง่ายๆ จ้า เขาก็ถามชื่อน้อง ถามไปเรื่อย พี่ว่าเขาคงดูว่าน้องเข้าใจภาษาอังกฤษมากน้อยแค่ไหน อังกฤษที่ฟังก็สบายหูเด็กไทยจ้า ฟังง่าย ไม่ยากหรอก ส่วนสัมภาษณ์ไทย ก็จะถามว่าทำไมอยากเรียนคณะนี้ รู้ใช่มั๊ยว่าเรียนคณะนี้มันเรียนอังกฤษล้วน และก็ประมาณว่าถ้าให้เรียนอังกฤษเพิ่มจะเรียนหรือเปล่า เวลาสัมภาษณ์ให้เราอย่าเกร็งมาก อาจารย์ใจดีสุดๆ
ขั้นตอนต่อไปคือการสัมภาษณ์
1. การสัมภาษณ์กับอาจารย์ฝรั่ง ก็จะถามภาษาอังกฤษ ทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ ทำไมถึงเลือกที่นี่ อยากเป็นอะไร คาดหวังอะไร
2.การสัมภาษณ์กับอาจารย์คนไทย ก็จะถามทั่วไปซึ่งน้องๆคงตอบกันได้อยู่แล้วแนะนำน้องๆมี Certificate, Reward อะไร ก็พกไปให้เค้าดูด้วยแล้วกันนะคะ เอา Transcript เกรดไปด้วยก็ได้ค่ะ
3. Placement Test ก็สอบวัดระดับ เป็นข้อสอบ Multiple Choices 30 ข้อค่ะ ไม่ยากค่ะ แต่ตั้งใจทำด้วยนะคะ เพราะเป็นรวมกับคะแนนสอบทั้งสองส่วน เพื่อคัดห้องเรียนค่ะ
คณะสังคมศาสตร์
เอกภูมิศาสตร์ อย่างตอนที่พี่ไปสัมภาษณ์อ่ะ เค้าะถามเรื่องเกรดเฉลี่ย กับปัญหาค่าใช้จ่าย เพราะพี่เรียนเอกภูมิศาสตร์ ซึ่งใช้เงินค่อนข้างมากในการออกภาคสนาม (แอบโปรโมตค่ะ^^) แล้วก็ถามเรื่องทั่วๆไปค่ะของพี่อ่ะ อาจารย์ถามว่าเกรดวิชาเลขแค่เนี้ย (TT~TT) จะเรียนไหวเหรอ
พี่ก็พยายามตอบไปตามความเป็นจริงแหละค่ะ อะไรรู้ก็คือรู้ อะไรไม่รู้ก็ตอบไปค่ะ ข้อแนะนำสำหรับน้องๆนะคะ ถ้าน้องอยากรู้เรื่องราวของมหาวิทยาลัย แล้วก็คณะ น้องลองเข้าไปศึกษาที่เว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยดูได้ค่ะ อาจจะไม่ลึกซึ้งมากนะคะ มหาวิทยาลัยของพี่ไม่เน้นเด็กเก่งหรอกค่ะ แต่เน้นความประพฤติ มศว ยินดีต้อนรับน้องๆที่สอบติดทุกคนนะคน
เอกรัฐศาสตร์ สำหรับพี่ที่เคยผ่านสัมภาษณ์มานั้น มันจะเป็นคำถามลักษณะทั่วไปส่วนหนึ่ง คือ ให้แนะนำตัวเองว่าเป็นใคร มาจากไหน ทำไมจึงสนใจเรียนรัฐศาสตร์ คิดว่าตัวเองเหมาะกับรัฐศาสตร์หรือไม่อย่างไร สมัยเรียนอยู่มัธยมเคยทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง หรือไม่อย่างไร (ซึ่งสำหรับคำถามนี้ ถ้าน้องมีพวกแฟ้มสะสมผลงานไปแสดงด้วยมันก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ)
นอกจากนี้น้องก็อาจจะเจอพวกคำถามที่ให้แสดงความรู้เกี่ยวกับทางด้านรัฐศาสตร์ อย่างในรุ่นที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐ อาจารย์ก็มีถามว่าสโลแกนเลือกตั้งของแต่ละคนเป็นยังไง ใครเป็นผู้สมัครพรรคไหนยังไง และอาจเจอเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับในการเตรียมรับมือด้านนี้ ก็ขอให้น้องคอยติดตามเก็บข้อมูลพวกสถานการณ์ปัจจุบันไว้นะครับ
อื่นๆ น้องก็อาจจะเจอแบบเบาๆ อย่างที่คิดไม่ถึง จะให้ดีน้องควรตอบให้แบบชัดเจน มีข้อมูลมากๆ สร้างความสนใจให้อาจารย์เค้าให้ได้ อย่างเพื่อนพี่มันเป็นคนสุรินทร์ ตอนมันสัมภาษณ์กลายเป็นนั่งคุยเรื่องผ้าไหมสุรินทร์กับอาจารย์ไปเลย นั่นเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เพราะเท่ากับว่าเราทำให้อาจารย์เค้าสนใจตัวเราได้ ฉะนั้น ถ้าอาจารย์เค้าชวนคุยนานนี่ น้องไม่ต้องเครียดนะครับ เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ เลย เค้าอาจจะชวนเราคุยเรื่องทั่วๆไปในท้องถิ่นของเรา หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเราแค่นั้น ยิ่งคุยได้นานยิ่งแสดงว่าอาจารย์เค้าสนใจตัวเรามากนะครับ ถึงได้มีประเด็นต่อเนื่องเรื่อยๆ
เอกประวัติศาสตร์ พี่ในฐานะที่เคยสอบตรงประวัติศาสตร์รุ่นแรกมา ก็จะแนะนำว่า ตอนที่พี่สัมภาษณ์ อาจารย์เขาไม่ได้ถามอะไรมากนะ ส่วนใหญ่ก็ถามเรื่องทั่วๆไป
- ทำไมถึงเลือกสอบเอกนี้
- (ถ้า)เป็นประวัติศาสตร์จะถามว่า ชอบประวัติศาสตร์อะไร
- (ถ้า)บ้านอยู่ไกลจะมาเรียนยังไง
- พ่อแม่ทำงานอะไร
พี่อยากให้น้องๆเตรียมหลักฐานเอกสารให้พร้อม รวมทั้งแต่งกายให้เรียบร้อย ทำให้อาจารย์เห็นว่าเรามีบุคคลิกที่ดีอ่ะคะ เตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม อาจารย์ภาคประวัติศาสตร์น่ารักทุกคนจ๊า ^__^ สำหรับแฟ้มสะสมงานเตรียมไปด้วยก็ได้คะ เพราะบางภาควิชาก็จะใช้ด้วย แต่ภาคประวัติศาสตร์ไม่ต้องใช้(มั๊ง)เพราะพี่ไม่ได้ใช้ ^o^" แล้วก็อย่าไปสาย ไปถึงที่ภาควิชาก่อนสักประมาณครึ่ง ชม. เป็นอย่างน้อย จะได้เตรียมตัวได้ เผื่อขาดเหลืออะไรจะได้หาได้ทัน
คณะมนุษยศาสตร์
พี่อยู่คณะมนุษยศาสตร์นะคะ ตอนที่พี่สัมภาษณ์ พี่แนะนำว่าให้ไปก่อนเวลาซักครึ่งชั่วโมง เพื่อที่น้องๆ จะได้ไม่ต้องตื่นเต้นกับสถานที่ พอเข้าไป อาจารย์จะให้แนะนำตัวค่ะ น้องๆ ก็แนะนำตัวไปว่า ชื่ออะไร จบมาจากโรงเรียนอะไร อาจารย์ถามด้วยว่า ทำไมอยากเรียนคณะนี้ เอกนี้ จบไปแล้วอยากทำงานอะไร ของพี่มันเป็นคณะมนุษยศาสตร์ อาจารย์ถามเป็นภาษาอังกฤษด้วย แต่คอนเฟิร์มว่า ไม่ยากค่ะ
พี่ว่าข้อสำคัญคือ น้องต้องเป็นตัวของตัวเอง และตอบความจริงเท่านั้น อย่าอวดเก่ง พยายามนิ่งเข้าไว้ พี่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว สู้ๆ นะคะทุกคน
คณะเภสัชศาสตร์
น้องที่ติดเภสัชศาสตร์ ไม่ต้องเครียดนะจ๊ะ.... อาจารย์คณะนี้ ใจดีมากๆ เป็นกันเองที่สุด^^ คำถามทั่วๆ ไปให้แนะนำตัวเอง ถามเกี่ยวกะครอบครัว ถามว่าทำไมเลือกที่นี่ แล้วคิดว่าจะอยู่ที่องครักษ์ได้มั้ย (เภสัชเรียนที่องครักษ์นะ) ประมาณนี้แหละ แล้วต้องรู้เหตุผลด้วยว่า ทำไมเราถึงเลือกหลักสูตรนี้ จบไปอยากเป็นอะไร สู้ๆน้า...น้องๆทุกคนแล้วเจอกัน ในรั้วเทาแดงนะ
คณะวิทยาศาสตร์
วิทย์ เคมี ทั้งกศ.บ. และวท.บ ไม่ต้องเครียดนะ อาจารย์ภาควิชานี้ใจดีมากๆ เฉพาะตอนคุยนะแต่ตอนเรียนโหดนะ เหอๆๆ เวลาสอบสัมภาษณ์ก็ตอบไปที่อาจารย์ถามมาแล้วกัน ตอบไปตามตรง เพราะอาจารย์ไม่ชอบคนโกหก แล้วอย่าไปทำเสียงดังนะอาจารย์ภาควิชานี้เขาไม่ชอบอย่างแรง เพราะพวกพี่จะโดนบ่นกันบ่อยๆ แล้วก็ทำใจเย็นๆ ไว้ ติดหรือไม่ติดเดี๋ยวก็รู้กันนะ พี่รอต้อนรับพวกน้องๆ อยู่คับ
คณะพลศึกษา
จากประสบการณ์การสัมภาษณ์ มศว 2 ครั้ง คือสอบโควตานักกีฬาลง คณะสังคมศาสตร์ และสอบตรงลงคณะพลศึกษา พี่อยากจะให้น้องมองสองด้าน คือด้านแรก อาจจะต้องตอบตามความเป็นจริงทั้งหมด สองคือ ตอบเพื่อให้ดูดีบ้าง แต่พี่แนะนำว่าตอบแบบความจริงทั้งหมดจะดีกว่า
แต่การสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากมาย ไม่ต้องตื่นเต้น คนที่สัมภาษณ์อาจจะถามเรื่องทั่วไป ครอบครัว การเรียน เราก็ต้องตอบไปตามนั้น แต่ข้อนี้เราต้องเตรียมตัวดีๆ นะครับ อาจารย์หรือเจ้าหน้าที่ ที่เป็นคนสัมภาษณ์เราอาจจะสวนกลับมาได้
ตัวอย่างนะครับ จากที่เคยโดนสัมภาษณ์ และเพื่อน ๆ เล่าให้ฟัง เช่น ถามว่า คิดอย่างไรถึงอยากเข้าคณะนี้ เข้าเอกนี้ >> ถ้าตอบว่า อยากมีงานทำที่ดี มีอนาคต อาจจะโดนสวนได้ว่า ทุกคณะก็มีงานทำเหมือนกันหมด มีอนาคตทุกคณะ ไม่งั้นเขาไม่เปิดคณะนี้หรอก อะไรประมาณนี้
ถามว่า ทางบ้านทำอาชีพอะไร >> ถ้าตอบว่า ทำธุรกิจส่วนตัว อาจจะโดนสวนได้ว่า ธุรกิจส่วนตัวอะไร ขายยาบ้า หรือผิดกฏหมายหรือเปล่า ข้อนี้ก็ควรบอกว่าทำธุรกิจอะไร ไปตรงๆ เลยนะครับ แต่พี่คิดว่าน้องๆ ทุกคนน่าจะผ่านไปด้วยดี ถ้าไม่ตอบอะไรที่กวนๆ หรือว่า ตัวเองเป็น Super man อิอิ โชคดีนะครับ อย่าลืมว่า มศว ไม่มีจุดนะ
คณะศึกษาศาสตร์
คำถามยอดฮิตของการสัมภาษณ์ อันนี้ขอเป็นเฉพาะน้องๆ ที่ติด กศ.บ. 5 ปี มศว
1. ช่วยแนะนำตัวเองให้ครูฟังหน่อย ว่าเป็นมาอย่างไร? อันนี้น้องๆก็ตอบตามสไตล์น้องๆไป ถ้าเอกไทย แนะนำตัวเป็นกลอนได้ก็โอเคนะ เหอเหอ
2. ทำไมถึงอยากมาเรียนวิชาเอกนี้? อันนี้น้องต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรและวิชาเอกที่ตนติดมาพอสมควร คือ ไม่ต้องรู้หมดทุกอย่าง แต่ควรจะรู้บ้าง ว่าเรียนวิชาไรบ้าง จบแล้วทำไรแบบนี้
3. เธอคิดดีแล้วหรอที่เธออยากจะเป็นครู? หลักสูตร กศ.บ. 5 ปี ต้องจบแล้วไปเป็นครูนะ เธอรู้แล้วใช่ไหม? ข้อนี้ตอบยากเล็กน้อย เพราะถ้าอึ้งก็ตอบไปเลยว่า ตอนนี้ประเทศไทยขาดครูดีและเก่ง ดังนั้นผมจึงอยากทำให้เมืองไทยมีครูดีและเก่งเพิ่มขึ้น และขจัดครูที่ไม่ดีและไม่เก่งออกไป 555+ ตอนนั้นดู GTO ด้วย ก็เอามาผสมๆกัน แต่ยังไงข้อนี้ควรหาข้อมูลเตรียมตัวไว้ก็ดี ว่าทำไมถึงอยากเป็นครู
4. ทำไมอยากเรียนครูที่ มศว ไม่อยากเรียนที่อื่นหรอ? ครุศาสตร์ จุฬาฯ ก็เปิดรับตรงนะ ข้อนี้ประเด็นร้อน แต่ไม่ได้ถามทุกคนหรอกนะ เฉพาะคนที่เด็ดๆเท่านั้น ซึ่งพี่ก็เป็นคนเด็ดที่โดนถาม 55+ อันนี้พี่เคยโดนถาม ตอนนั้นแอบอึ้ง 55+ น้องๆต้องพยายามพูดเข้าว่าดีทั้ง 2 ที่ อะไรก็ว่าไป แต่ก็เลือก มศว แต่พี่ก็ผ่านมาได้ พี่บอกว่าทั้ง 2 ที่ก็ดีเท่าๆกัน แต่ที่เลือก มศว เพราะว่าที่นี่เป็นแหล่งผลิตครูดั้งเดิม และมีชื่อเสียง เมื่อไปถามครูในโรงเรียนที่ดี ก็มักจะจบจาก มศว กันทั้งนั้น และเป็นสถาบันแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้ปริญญาครูจนถึงปริญญาเอก ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเรียน ประสานมิตร ด้วยเหตุผลนี้ พี่เลยรอดตัวไป
5. เธอคิดว่าเธอจะเรียนไหวไหม? 555+ ข้อนี้อาจารย์ก็ถามดักคอซะงั้น เราต้องตอบอย่างมั่นใจเลยว่า เรียนไหว และจะเรียนจบให้ได้เกียรตินิยมด้วย 55 เพื่อแสดงความมั่นใจอย่างเต็มที่ พยายามทำให้แววตามีความมุ่งมั่น
6. เธอคิดว่าเธอเข้ามาอยู่ มศว แล้ว เธอคิดจะทำอะไรให้กับมหาวิทยาลัยบ้าง และจะทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง? ข้อนี้ถามยิ่งกว่าการประกวดนางงามระดับโลกเสียอีก 55 น้องก็บอกไปเลยว่าอยากทำอะไรให้ มศว และเพื่อสังคม เน้นพวกจิตอาสาเยอะๆ
7. ปี 1 (เฉพาะบางคณะ) ต้องไปอยู่หอที่องครักษ์ จะไปอยู่ได้ไหม? ข้อนี้ก็สำคัญ ได้ยินมาว่าใครบอกว่าไม่ได้อาจารย์เค้าก็ไม่ไห้ผ่านอ่ะ เพราะว่าถ้าไปอยู่ไม่ได้ ก็หมายความว่าต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยอื่นแน่นอน ยังไงถ้าใครอยากเรียน มศว ต้องอดทน ไปเรียนปี 1 ที่องครักษ์ได้อยู่แล้ว
น้องๆ ไม่ต้องกลัวอาจารย์ที่สัมภาษณ์เลย เพราะว่าอาจารย์ มศว จะมีสไตล์เหมือนครูที่โรงเรียนน้องๆ คือ เมตตา ใจดี ไม่ครียด ถึงแม้ว่าจะเป็น ดร. แต่ก็ทำตัวติดดิน เป็นคนธรรมดา มีความเป็นครูสูงมากๆ
น้องๆ คนไหนที่ติดคณะศึกษาศาสตร์ ตามไปขอคำปรึกษารุ่นพี่ๆ ได้ทาง Blog เรียนครูที่ไหน ไม่ภูมิใจเท่า มศว คลิกที่นี่ ได้เลยคร้าบ
สุดท้าย การสัมภาษณ์ มศว มักจะมีคำเด็ดๆ ดังนี้
1. แล้วเจอกันในวันเปิดเทอมนะครับ อันนี้อาจารย์บอกกับพี่ตอนสัมภาษณ์เสร็จ แต่พี่ก็สละสิทธิ์สอบตรง มศว อ่ะ ขอโทษนะครับอาจารย์ 555 แต่ผมก็เอนท์ติด มศว ด้วยความภูมิใจนะค้าบบบบบ
2. ขอให้เธอโชคดีนะครับ
3. ไม่ติดที่นี่ไม่เป็นไร ยังมีรอบแอดมิชชั่นนะครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับสนามสอบสัมภาษณ์ มศว ที่ขึ้นชื่อว่า โหด และสนุกที่สุดในบรรดาสอบตรงของทุกที่ หากขาดเหลือคณะไหน รุ่นพี่ๆ มาแนะนำในกล่องคอมเม้นด้านล่างได้เลยนะคร้าบ สุดท้ายนี้ พี่ลาเต้ ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดี สอบสัมภาษณ์ราบรื่นทุกคนคร้าบบ เพี้ยงง
credit:dek-d
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น