เทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวไปไกลมากทีเดียว นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายคนกำลังพัฒนาเครื่องมือ หรืออุปกรณ์เพื่อช่วยลดโลกร้อน หรือลดการใช้ที่ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรและธรรมชาติ วันนี้ มี 10 นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมสุดเจ๋ง มาฝากเพื่อนๆกัน ไปดูซิว่าจะมีอะไรบ้าง ^^
10 นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมสุดเจ๋ง
10. เครื่องซักผ้าที่ใช้น้ำแค่ 1 แก้ว
- เทคโนโลยี เครื่องซักผ้าไร้น้ำ ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ร่วม 33% เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาโดย บริษัท Xeros Ltd, บริษัทเครื่องซักผ้าชื่อดังจากประเทศอังกฤษ และใช้ ลูกปัดไนลอนเล็กๆในการดูดซับคราบสกปรก ซึ่งสามารถใช้ซ้ำได้
- เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ ได้มีการจำหน่ายมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา การซักผ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 90% โดยที่ใช้น้ำในปริมาณพียงแค่ 1 แก้วเท่านั้น เครื่องนี้สามารถกำจัดคราบสกปรกต่างๆ เช่น หมึก โคลน หรือ ไวน์ที่หกใส่
- จุดเด่นของเครื่องนี้ก็คือ เสื้อผ้าที่ผ่านการซักโดยเครื่องนี้จะอยู่ในสภาพเกือบจะแห้งสนิท ส่งผลให้ไม่ต้องใช้เครื่องปั่นแห้ง หรือใช้เวลานับวันในการตากแดด รายงานจากเว็บไซต์ www.energysavingtrust.org.uk ระบุว่า 33% ของพลังงานที่ใช้สำหรับครัวเรือนถูกใช้ในการทำน้ำร้อน และ 15% ของน้ำที่ใช้ในแต่ละเดือน ถูกใช้เพื่อการซักผ้า
- ในขณะที่ The Guardian สื่อดังในประเทศสหราชอาณาจักร ได้รายงานว่า หากประชาชนทุกคนในประเทศสหราชอาณาจักร หันมาใช้เครื่องซักผ้าไร้น้ำ ของ Xeros ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เทียบเท่ากับการปล่อยของรถยนต์จำนวน 1.4 ล้านคัน ซึ่งจะช่วยสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนได้อย่างดี
- Stephen Burkinshaw นักเคมีพอลีเมอร์ ประจำมหาวิทยาลัยลีดส์ พบว่า แนวคิดในการทำความสะอาดด้วยพอลีเมอร์ หลังจากที่ใช้เวลาถึง 30 ปี ในการย้อมสีพลาสติกในเส้นใย เมื่อเขาพบว่าคราบสกปรกนี้มีปฏิกิริยาต่อสารย้อมสีค่อนข้างสูง ทำให้เขาเริ่มหาหนทางในการทำให้พลาสติกที่ทดลองมีผลในทางตรงกันข้ามต่อคราบสกปรกเหล่านี้ เมื่อลูกปัดไนลอน ดูดซับ คราบสกปรกและ เก็บไว้ในบริเวณที่มีความชื้น 100% เพื่อให้คราบเหล่านี้ แพร่กระจายไปยังศูนย์กลางของลูกปัด โดยที่ไม่ต้องใช้น้ำ ส่งผลให้ไม่ก่อให้เกิดน้ำเสีย และประหยัดค่าน้ำในแต่ละเดือนอีกด้วย
9. เครื่องพิมพ์ที่ลบและพิมพ์ซ้ำได้
- เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ที่สามารถพิมพ์และลบได้ในเครื่องเดียว โดยที่ไม่ใช้หมึก ด้วยกระดาษพิเศษที่ทำจาก โพลีเอธิลีน เทเรพทาเลต หรือที่เรียกว่า แผ่นพลาสติก PET ที่จะมีปฏิกิริยากับความร้อน ทำให้เกิดเป็นตัวอักษรตามที่ต้องการ และคุณสามารถลบออกได้ด้วยการใส่ แผ่นพลาสติกนี้เข้าไปยังเครื่อง
- ในทางที่กลับกัน เครื่องนี้มีราคาค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ 5,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเครื่อง และ แผ่นพลาสติกมีสำหรับพิมพ์ มีราคาอยู่ที่ 3,360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1,000 แผ่น แต่ถ้าเทียบกับมูลค่าของหมึก และกระดาษที่คุณต้องเสียในแต่ละวันแล้ว ถือว่าคุ้ม หากคุณทำอาชีพที่ต้องพิมพ์เอกสารเพื่อการใช้งานเป็นเวลาสั้นๆ เครื่องนี้จะช่วยลดการใช้หมึก และแผ่นพลาสติก PET นี้สามารถใช้ซ้ำได้ถึง 1,000 ครั้ง ทำให้คุณไม่ต้องทิ้งกระดาษเป็นจำนวนมากหลังใช้งานเสร็จแล้ว
8. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่ผลิตจากไม้ไผ่
- ASUS บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ชื่อดังจากประเทศไต้หวัน ได้สร้างความตื่นตาตื่นในให้กับโลก ด้วยการสร้าง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจากต้นไผ่ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และใช้พลังงานไฮบริดเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
- ชิ้นส่วนภายในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้สามารถนำมารีไซเคิลได้ และไม่มีการพ่นสี ทาสี หรือ เคลือบด้วยโลหะ ก่อนหน้านี้ บริษัท เดล ได้ผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คโดยมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นไม้ไผ่ ซึ่งใช้พลังงานน้อยลงถึง 70% และมีชิ้นส่วนภายในที่ทำจากเหยือกนมและขวดน้ำที่ใช้แล้วอีกด้วย
7. โรงแรมใช้พลังงานมนุษย์
- โรงแรม Crown Plaza ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย จักรยานออกกำลังกาย ที่เชื่อมต่อกับระบบผลิตกระแสไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งทางโรงแรมได้มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ปั่นจักรยานอย่างน้อย 6 นาที ด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างน้อย 10 วัตต์ ต่อนาที จะรับประทานอาหารฟรี 1 มื้อ โปรโมชั่นนี้ถือเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากผู้บริหารโรงแรมต้องการให้ประชาชนทุกระดับมีส่วนร่วม รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้ผู้ที่มาพักรู้จักการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีสุขภาพดี
- นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมีการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ยุโรปตอนเหนือรวมทั้งยังมีระบบทำความร้อนและเย็นจากน้ำบาดาล ยิ่งไปกว่านั้น ทางโรงแรมยังใช้ขวดแชมพูที่ย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ส่งผลให้ลดค่าพลังงานของโรงแรมได้ถึง 90%
- ต่อมาได้มีการติดตั้งเครื่อง IPhone ไว้ที่เครื่องจักรยาน เพื่อให้ลูกค้าได้ติดตามความคืบหน้าของการออกกำลังกาย รวมถึงจัดให้มีการแข่งขันการผลิตกระแสไฟฟ้าร่วมกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ แม้หลายคนรังเกียจการออกกำลังกาย แต่ก็เป็นเรื่องดีที่มีการรณรงค์ให้มีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
6. ยกทรงผลิตกระแสไฟฟ้า
- สำหรับสาวทรงโตทั้งหลาย ต้องรู้สึกตกใจแน่ๆเมื่อมีการคิดค้น ยกทรงที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากการเคลื่อนไหวของหน้าอกออกมาจำหน่ายแล้วในขณะนี้
- ยกทรงดังกล่าว มีการติดสายไฟเอาไว้ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเมื่อบริเวณหน้าอกมีการเคลื่อนไหว แต่เครื่องผลิตไฟฟ้านี้ก็มีปัญหาในการใช้งานเช่น เครื่องนี้มีโอกาสเสียหายระหว่างการเย็บหรือซัก และผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดเล็ก จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เป็นจำนวนน้อยเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวน้อยกว่าคนที่มีขนาดใหญ่ โดยมีการระบุว่า คนที่มีหน้าอกเล็กสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าในระดับที่สามารถชาร์จเครื่องไอพอต ได้ ในขณะที่ผู้ที่มีหน้าอกขนาดใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าในระดับที่สามารถเป็นพลังงานให้แก่อาคารพาณิชย์ได้เลย
- ยกทรงผลิตกระแสไฟฟ้านี้ถือเป็นต้นแบบที่ส่งผลให้มีการพัฒนาให้มีการคิดค้นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาในรูปแบบอื่นอย่างเช่น เสื้อคอกลม เป็นต้น ในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราอาจได้สวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อชาร์จเครื่อง ไอพอต ของเราก็อาจเป็นไปได้
5. รดน้ำต้นไม้ด้วยร่างกายตัวเอง
- เป็นที่รู้กันดีว่า การฝังโรงศพนั้นจะส่งผลเสียต่อพื้นดิน เช่นเดียวกับการเผาศพ ที่มีการปล่อยสารพิษต่างๆ เช่น ปรอท, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
- แต่ก็มีการคิดค้นวิธีฝังศพแบบใหม่ ที่เรียกว่า Resomation หรือการต้มศพ กระบวนการนี้เป็นการนำศพไปต้มในน้ำร่วมกับสารที่เป็นด่าง ด้วยเครื่องที่เรียกว่า Alkaline Hydrolysis ที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทจากประเทศสกอตแลนด์ ทำให้ศพละลาย กลายเป็นน้ำที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหมาะสมกับการรดน้ำต้นไม้
- แม้ว่าวิธีนี้จะไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่อยู่ในรัฐเมน ฟลอริดา และ โอเรกอน ยอมรับว่าวิธีนี้เป็นการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมจนถึงวันที่ชีวิตดับสูญอย่างแท้จริง ด้วยการยอมใช้ร่างกายตัวเองเป็นอาหารหล่อเลี้ยงต้นไม้เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน … (แต่มันน่ากลัวพิลึก และคาดว่าประเทศไทยเราไม่น่าจะใช้ได้นะครับ)
4. ไนท์คลับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- นวัตกรรมนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ ไนท์คลับชื่อ Bar Suyra ได้สร้างสิ่งนี้ให้เป็นจริง ด้วยการติดตั้งสปริงและเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใต้พื้น ที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าเมื่อมีการเดินบนชุดอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งทางผู้ก่อสร้างคลับแห่งนี้ระบุว่า 60% ของพลังงานที่คลับใช้ ถูกผลิตจากการเต้นของลูกค้า เขามีความต้องการให้บรรดาคนรุ่นใหม่มีส่วนในการเคลื่อนไหวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และก่อตั้งองค์กรที่เรียกว่า Club4Climate โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดผลกระทบของภาวะโลกร้อน
- ค่าเข้าคลับดังกล่าวอยู่ที่ราวๆ 10 ยูโร แต่สำหรับคนที่ขี่จักรยานและคนที่เดินมาคลับแห่งนี้จะได้เข้าฟรี ลูกค้าทุกคนจะต้องลงชื่อก่อนเข้าคลับแห่งนี้ เพื่อเป็นการรับรองว่าลูกค้าทุกคนจะช่วยคลับในการผลิตพลังงาน กล่าวแบบสั้นๆก็คือ หากคุณต้องการจะเข้าไป คุณต้องเต้น
- คลับแห่งนี้มีโถปัสสาวะไร้น้ำ ชักโครกประหยัดน้ำ และแก้วน้ำที่ทำจาก โพลีคาร์บอน นอกจากนี้ คลับดังกล่าวยังมีกังหันผลิตไฟฟ้าและแผงเซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์เป็นของตัวเอง โดยที่พลังงานที่เหลือจากการใช้งานจะถูกแจกจ่ายให้แก่ชุมชนใกล้เคียง
3. แม๊กที่ไม่ต้องใช้ลูก
- มนุษย์ใช้ลูกแม๊ก เพื่อเย็บกระดาษ นับพันล้านหน่วยต่อปี โดยที่ลูกแม๊กเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้ รวมทั้ง อาจเป็นอันตรายต่อเท้าของคุณหรือคนรอบตัวคุณ หากพวกมันถูกทิ้งอยู่บนพื้น เครื่องมือขนาดเล็กเพื่อสิ่งแวดล้อมชนิดนี้ จะช่วยทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป
- เครื่องมือชนิดนี้ จะตัดขอบกระดาษเป็นรอยเล็กๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการพับเข้าหากันเพื่อนำใส่ประเป๋าหรือทำงานพับกระดาษต่างๆ นอกจากนี้ การพับตรงมุม สามารถรวมกระดาษได้ถึง 5 แผ่น ซึ่งเหมาะสำหรับเก็บเรียงความของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีจำนวนไม่ถึง 10 แผ่น รวมถึงเหมาะสมสำหรับเก็บรายงานเล็กๆ อีกด้วย
2. น้ำมันหล่อลื่นที่เป็นสารอินทรีย์
- บริษัท Yes จากประเทศ สหราชอาณาจักร ได้ผลิตสารหล่อลื่น และครีมทาผิวที่เป็นสารอินทรีย์ ซึ่งมีส่วนผสมหลักเป็นน้ำ และไม่มีสารเคมีซึ่งอาจสร้างความระคายเคืองหรือทำลายผิวหนังแต่อย่างใด สารหล่อลื่นนี้ทำจากส่วนประสมต่างๆอย่างเช่น อโลเวร่า, สารสกัดจากพืช, หมากฝรั่งถั่วปาทังกา และกรดจากมะนาว ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีคุณสมบัติในการสร้างความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ สารหล่อลื่นนี้ไม่มีกลิ่น ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและสามารถใช้ร่วมกับน้ำยางได้อย่างปลอดภัย
- นอกจากนี้ยังมีสารที่เป็นน้ำมัน ซึ่งผลิตโดยวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างเช่น น้ำมันอัลมอนด์หวาน เชียบัตเตอร์ และ เนยโกโก้ น้ำมันชนิดนี้สามารถใช้เพื่อการนวดแทนที่น้ำมันแบบเดิมได้อย่างดี โดยที่มีข้อแตกต่างที่น้ำมันชนิดนี้ไม่สมควรใช้ร่วมกับถุงยางอนามัย
- บริษัท Yes ไม่ใช้สารที่สร้างความระคายเคืองต่อผิวอย่างเช่น การบูร สารสกัดจากเมล็ดส้มโอ หรือ น้ำมันกลิสเซอริน และไม่ได้ใช้สารสังเคราะห์ต่างๆ เช่น
- ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น น้ำมันพาราฟิน ที่เคลือบผิว และ กีดกันผิวหนังจากการทำงานปกติ แต่สารขี้ผึ้งเหล่านี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สำหรับผลิตเครื่องสำอาง เนื่องจากไม่ใช่สารบริสุทธิ์และก่อให้เกิดมะเร็งได้ พาราเบน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งทรวงอก น้ำมัน ซิลิโคน เป็นน้ำมันที่มีพิษ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันชนิดนี้จะไม่มีการทดสอบกับสัตว์ และใช้ส่วนประกอบจากสัตว์แต่อย่างใด มีสิ่งที่ได้จากสัตว์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ขี้ผึ้ง ซึ่งได้รับการรับรองโดยสมาคมมังสวิรัติ ให้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของน้ำมันหล่อลื่นชนิดนี้
- มีคำถามหนึ่งที่ทุกคนคิด นั่นก็คือแม้น้ำมันชนิดนี้จะส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่มีจำหน่ายจริงหรือเปล่า ทางบริษัท YES รับรองว่า มีจำหน่ายทางเว็บไซต์ของบริษัทและยังมีราคาถูกอีกด้วย
1. เสื้อผ้าที่ผลิตจากก้นบุหรี่
- เมื่อขยะจากบรรดาสิงห์อมควันถูกแปรสภาพเป็นเสื้อผ้าในสไตล์ที่โดดเด่นและไม่ต้องผ่านการกรองสารพิษ บุหรี่นั้นเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นเดียวกับอาหารฟาสต์ฟู๊ด สุรา และการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ความจริงคือ คนทั่วไปยังคงทำหรือบริโภคสิ่งเหล่านี้ และจะเป็นไปอีกเป็นเวลานานตราบใดที่ยังมีให้บริโภคอยู่ บุหรี่ถือเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียในระยะยาวมากที่สุด แต่คนนับล้านก็ยังสูบอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราเห็นอยู่ทุกที่
- เพราะฉะนั้น พวกเราจึงมักจะเห็นก้นบุหรี่อยู่ตามสถานที่สาธารณะ เช่น ตามถนน ทางเท้า สวนสาธารณะ ชายหาด ฯลฯ ทำให้นาง อเล็กซานดร้า เกอเรโร่ ดีไซเนอร์ ชาวชิลี มีความคิดที่จะนำก้นบุหรี่เหล่านี้มารีไซเคิล ด้วยการถักเป็นเสื้อผ้า ที่มีความคงทน
- หลังจากที่ทำความสะอาดก้นบุหรี่เหล่านี้ด้วยหม้อนึ่งอัดไอน้ำ และสารละลายชนิดพิเศษ ที่ทำให้ก้นบุหรี่เหล่านี้แห้ง และสะอาด ก่อนที่จะถูกถักร่วมกับขนแกะ เพื่อผลิตเครื่องแต่งกายที่สวยงาม เช่น หมวก และเสื้อผ้า
- แน่นอนว่า ก้นบุหรี่เหล่านี้ผ่านการทำความสะอาดด้วยกรรมวิธีที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คุณสามารถสวมเครื่องแต่งกายเหล่านี้โดยที่ไม่มีกลิ่นบุหรี่ติดตัวแน่นอน
ที่มา energysavingmedia.com
เรียบเรียง http://teen.mthai.com/variety/66757.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น