คือเรื่องที่พี่จะมาแบ่งปัน(ขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะ) ก็เพราะอยากจะให้เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้กับน้องที่พลาดหวัง เพื่อให้น้องมีแรงฮึดสู้ขึ้นมา คิดซะว่าคนเราเมื่อมีความพยายามย่อมไม่มีอะไรที่เกินฝัน :) *ขอไม่เอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ*
ขอเริ่มจากตอนม.ปลายพี่เป็นเด็กสายวิทย์ พ่อแม่อยากให้เรียนด้านสายแพทย์ พี่ก็เลยกะจะลงเรียนทันตะ เพราะคิดว่าตรงกับความชอบมากกว่า แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเรื่อยๆไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย แถมยังไม่ชอบวิชาเลขและฟิสิกส์มากๆ ทำให้การสอบเอนทรานซ์ปีแรก(ปี2551) คะแนนหลุดลุ่ยมาก คณะทันตะมันเกินเอื้อมสุดๆ พี่เลยเลือกลงวิทยาศาสตร์ และก็ติดคณะวิทย์ที่เลือก แต่พอเข้าไปเรียนจริงๆ มันกลับไม่ตรงกับที่คิด วิชาหลักที่ต้องเรียนเป็นวิชาที่ต้องใช้ฟิสิกส์กับเลข ด้วยความที่ไม่ชอบบวกกับปัญหาบางอย่าง พี่เลยตัดสินใจลาออกเพื่อมาสอบใหม่
พี่่ใช้เวลาอยู่บ้านอ่านหนังสือ แต่ก็เหมือนเดิมคือไม่ยอมอ่านฟิสิกส์กับเลข ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบไม่อยากอ่าน เมื่อถึงการสอบรอบสอง:ซิ่วรอบที่1(ปี2552) พี่ก็หลุดทันตะอีก เพราะคะแนนเลขไม่ถึง(กสพทกำหนด30%) ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก แต่ก็ยังติดเภสัชที่เลือกเอาไว้ พอได้เรียนเภสัชสักพัก กลับรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ทางของเรา ถึงพยายามแต่ก็ไม่ไหวจริงๆ ยิ่งเรียนยิ่งท้อ เลยตัดสินใจดรอปที่มหาวิทยาลัยเพื่อซิ่วอีกรอบ
การสอบรอบที่3:ซิ่วรอบที่2(ปี2553) มันก็ยังคงแบบเดิมคือคะแนนเลขกสพทไม่ผ่าน เลยไม่ได้เรียนทันตะ ตอนนั้นพี่เลยตัดสินใจงั้นเรียนเภสัชก็ได้เพราะซิ่วต่อไปไม่ไหวแล้วเพื่อนเค้าจะขึ้นปี3กันแล้ว พี่เลยเลือกเภสัชใกล้ๆบ้าน แต่พอผลออกมาคะแนนพี่ถึงเภสัชใกล้บ้านแต่กลับโดนตัดสิทธิด้วยเหตุผลที่ว่าเภสัชซิ่วเภสัชต้องลาออกก่อน(ที่เก่าพี่ดรอปไว้ไม่ได้ลาออก)และด้วยความที่พี่อ่านระเบียบไม่ครบไม่อ่านให้ดีซะก่อน ทำให้ปีนั้นพี่เคว้งไม่มีที่เรียน เสียใจมากๆ เลยตัดสินใจฮึดสู้จะกลับมาเอาทันตะที่ฝันให้ได้
การสอบรอบที่4:ซิ่วรอบที่3(ปี2554) ปีนี้พี่อยู่บ้านตลอดทั้งปี ตั้งใจอ่านหนังสือ พยายามอ่านเลขกับฟิสิกส์ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างมั่วๆไป555 พอรอบแอดพี่เลยยื่นทันตะทั้ง4อันดับ ด้วยความที่คิดว่าพอเทียบคะแนนแล้วมันเกินปี53เยอะ ต้องติดแน่นอน แต่ผลออกมากลับทำให้ตกใจเพราะปีที่แล้วคะแนนเฟ้อมาก พี่หลุดทั้ง4อันดับ ทันตะที่เลือกอันดับสุดท้ายขาดแค่ไป10คะแนน(เทียบจาก30,000) ความเสียใจหลั่งไหลมาจนทำให้พี่ช็อคไปหลายวัน
หลังจากได้กำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆ พี่ก็กลับมาฮึดสู้อีกรอบ คราวนี้พี่ตั้งใจอ่านฟิสิกส์กับเลข ทิ้งความคิดที่ว่า"ก็ฉันไม่ชอบ อ่านไปยังไงก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี"ทิ้งซะ!! คิดใหม่ว่า"คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้" พี่ฝึกทำข้อสอบเก่าเลขกับฟิสิกส์ ตอนแรกๆก็ทำถูกบ้างผิดบ้าง เมื่อทำผิดก็กลับไปอ่านเฉลยให้เข้าใจแล้วลองทำใหม่ไปเรื่อยๆ
การสอบรอบที่5:ซิ่วรอบที่4(ปี2555)คราวนี้การสอบกสพทคะแนนเลขกับฟิสิกส์พี่ผ่านเกณฑ์ฉลุยสมกับความพยายาม แต่ดันมาติดที่ความถนัดแพทย์ทำเชื่อมโยงได้น้อย คะแนนรวมเลยไม่ถึงทันตะ หลุดไปนิดเดียว แต่คำว่าท้อมันไม่มาขัดขวางความพยายามของพี่ ไม่ได้กสพทพี่ก็กลับมาตั้งใจอ่านอังกฤษกับวิทย์ ฝึกทำเชื่อมโยงเพื่อสอบแกทแพท และก็สมกับความพยายามคะแนนออกมาสมใจปรารถนา พี่เลยก็ยื่นคณะโดยเลือกทันตะมหาลัยที่ชอบไว้อันดับ1
และวันนี้(7พ.ค.)ความพยายามของพี่ก็บังเกิดผล พี่ติดทันตะที่เลือกไว้อันดับ1 พี่่,ครอบครัวและเพื่อนๆดีใจมาก ความปรารถนาของพี่สมปรารถนาสักที มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ^^ ดังนั้น6ปีต่อจากนี้พี่จะตั้งใจเรียนให้สมกับที่รอคอยมานาน คณะในฝัน :)
ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครอบครัวที่เข้าใจและคอยเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลายามที่พี่ล้มหรือท้อก็มีครอบครัวคอยพะยุงให้พี่ลุกขึ้นมายืนหยัดสู้ให้ถึงฝัน และเพื่อนๆทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจ ลุ้นให้พี่มีที่เรียนเอ๊ย!ติดทันตะสักที555 ,,อยากจะขอบคุณทุกคนจากใจจริง ^^
สุดท้ายพี่อยากให้เรื่องนี้เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้กับน้องๆที่ไม่สมหวังหรือยังไม่ได้คณะที่ใช่ อยากใ้ห้น้องๆทุกคนพยายามและตั้งใจ(เหมือนพี่ที่ตอนแรกไม่ชอบเลขและฟิสิกส์แต่ก็ฮึดสู้จนทำได้) จำไว้ถ้าเราตั้งใจไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ สู้ๆนะคะ โชคดีค่ะทุกคน :)
ขอเริ่มจากตอนม.ปลายพี่เป็นเด็กสายวิทย์ พ่อแม่อยากให้เรียนด้านสายแพทย์ พี่ก็เลยกะจะลงเรียนทันตะ เพราะคิดว่าตรงกับความชอบมากกว่า แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเรื่อยๆไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย แถมยังไม่ชอบวิชาเลขและฟิสิกส์มากๆ ทำให้การสอบเอนทรานซ์ปีแรก(ปี2551) คะแนนหลุดลุ่ยมาก คณะทันตะมันเกินเอื้อมสุดๆ พี่เลยเลือกลงวิทยาศาสตร์ และก็ติดคณะวิทย์ที่เลือก แต่พอเข้าไปเรียนจริงๆ มันกลับไม่ตรงกับที่คิด วิชาหลักที่ต้องเรียนเป็นวิชาที่ต้องใช้ฟิสิกส์กับเลข ด้วยความที่ไม่ชอบบวกกับปัญหาบางอย่าง พี่เลยตัดสินใจลาออกเพื่อมาสอบใหม่
พี่่ใช้เวลาอยู่บ้านอ่านหนังสือ แต่ก็เหมือนเดิมคือไม่ยอมอ่านฟิสิกส์กับเลข ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบไม่อยากอ่าน เมื่อถึงการสอบรอบสอง:ซิ่วรอบที่1(ปี2552) พี่ก็หลุดทันตะอีก เพราะคะแนนเลขไม่ถึง(กสพทกำหนด30%) ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก แต่ก็ยังติดเภสัชที่เลือกเอาไว้ พอได้เรียนเภสัชสักพัก กลับรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ทางของเรา ถึงพยายามแต่ก็ไม่ไหวจริงๆ ยิ่งเรียนยิ่งท้อ เลยตัดสินใจดรอปที่มหาวิทยาลัยเพื่อซิ่วอีกรอบ
การสอบรอบที่3:ซิ่วรอบที่2(ปี2553) มันก็ยังคงแบบเดิมคือคะแนนเลขกสพทไม่ผ่าน เลยไม่ได้เรียนทันตะ ตอนนั้นพี่เลยตัดสินใจงั้นเรียนเภสัชก็ได้เพราะซิ่วต่อไปไม่ไหวแล้วเพื่อนเค้าจะขึ้นปี3กันแล้ว พี่เลยเลือกเภสัชใกล้ๆบ้าน แต่พอผลออกมาคะแนนพี่ถึงเภสัชใกล้บ้านแต่กลับโดนตัดสิทธิด้วยเหตุผลที่ว่าเภสัชซิ่วเภสัชต้องลาออกก่อน(ที่เก่าพี่ดรอปไว้ไม่ได้ลาออก)และด้วยความที่พี่อ่านระเบียบไม่ครบไม่อ่านให้ดีซะก่อน ทำให้ปีนั้นพี่เคว้งไม่มีที่เรียน เสียใจมากๆ เลยตัดสินใจฮึดสู้จะกลับมาเอาทันตะที่ฝันให้ได้
การสอบรอบที่4:ซิ่วรอบที่3(ปี2554) ปีนี้พี่อยู่บ้านตลอดทั้งปี ตั้งใจอ่านหนังสือ พยายามอ่านเลขกับฟิสิกส์ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างมั่วๆไป555 พอรอบแอดพี่เลยยื่นทันตะทั้ง4อันดับ ด้วยความที่คิดว่าพอเทียบคะแนนแล้วมันเกินปี53เยอะ ต้องติดแน่นอน แต่ผลออกมากลับทำให้ตกใจเพราะปีที่แล้วคะแนนเฟ้อมาก พี่หลุดทั้ง4อันดับ ทันตะที่เลือกอันดับสุดท้ายขาดแค่ไป10คะแนน(เทียบจาก30,000) ความเสียใจหลั่งไหลมาจนทำให้พี่ช็อคไปหลายวัน
หลังจากได้กำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆ พี่ก็กลับมาฮึดสู้อีกรอบ คราวนี้พี่ตั้งใจอ่านฟิสิกส์กับเลข ทิ้งความคิดที่ว่า"ก็ฉันไม่ชอบ อ่านไปยังไงก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี"ทิ้งซะ!! คิดใหม่ว่า"คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้" พี่ฝึกทำข้อสอบเก่าเลขกับฟิสิกส์ ตอนแรกๆก็ทำถูกบ้างผิดบ้าง เมื่อทำผิดก็กลับไปอ่านเฉลยให้เข้าใจแล้วลองทำใหม่ไปเรื่อยๆ
การสอบรอบที่5:ซิ่วรอบที่4(ปี2555)คราวนี้การสอบกสพทคะแนนเลขกับฟิสิกส์พี่ผ่านเกณฑ์ฉลุยสมกับความพยายาม แต่ดันมาติดที่ความถนัดแพทย์ทำเชื่อมโยงได้น้อย คะแนนรวมเลยไม่ถึงทันตะ หลุดไปนิดเดียว แต่คำว่าท้อมันไม่มาขัดขวางความพยายามของพี่ ไม่ได้กสพทพี่ก็กลับมาตั้งใจอ่านอังกฤษกับวิทย์ ฝึกทำเชื่อมโยงเพื่อสอบแกทแพท และก็สมกับความพยายามคะแนนออกมาสมใจปรารถนา พี่เลยก็ยื่นคณะโดยเลือกทันตะมหาลัยที่ชอบไว้อันดับ1
และวันนี้(7พ.ค.)ความพยายามของพี่ก็บังเกิดผล พี่ติดทันตะที่เลือกไว้อันดับ1 พี่่,ครอบครัวและเพื่อนๆดีใจมาก ความปรารถนาของพี่สมปรารถนาสักที มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ^^ ดังนั้น6ปีต่อจากนี้พี่จะตั้งใจเรียนให้สมกับที่รอคอยมานาน คณะในฝัน :)
ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครอบครัวที่เข้าใจและคอยเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลายามที่พี่ล้มหรือท้อก็มีครอบครัวคอยพะยุงให้พี่ลุกขึ้นมายืนหยัดสู้ให้ถึงฝัน และเพื่อนๆทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจ ลุ้นให้พี่มีที่เรียนเอ๊ย!ติดทันตะสักที555 ,,อยากจะขอบคุณทุกคนจากใจจริง ^^
สุดท้ายพี่อยากให้เรื่องนี้เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆให้กับน้องๆที่ไม่สมหวังหรือยังไม่ได้คณะที่ใช่ อยากใ้ห้น้องๆทุกคนพยายามและตั้งใจ(เหมือนพี่ที่ตอนแรกไม่ชอบเลขและฟิสิกส์แต่ก็ฮึดสู้จนทำได้) จำไว้ถ้าเราตั้งใจไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ สู้ๆนะคะ โชคดีค่ะทุกคน :)
ประสบการร์ดีดี จากคุณ teukmint
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น