ชีวิตการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในชีวิตของเราก็ได้จบลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
1 ปีเต็ม ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีแต่เรื่องเครียดๆๆ และ น่าปวดหัวก็ตาม
เกริ่น
ก็อื่นขอแนะนำตัวก่อน เรา(เคย)เป็นเด็กสายวิทย์ ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง(ขออภัย ไม่อยากเอ๋ยชื่่อโรงเรียน)
ได้เรียนในห้องที่เกือบเก่ง นั้น คือห้อง(ที่เค้าว่ากันว่าเป็น)ควีน เพื่อนๆๆในห้องโหดๆๆกันทั้งนั้น Y___Y
ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนเก่ง แต่เป็นคนที่มีความขยัน(ถึก)มากกกก ทำให้สามารถไถ่ถูตัวเองมายังห้องนี้จนได้ :))
ปัจจุบันกำลังจะเข้าการศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
วิศว กลับ ใจ
เมื่อก่อน อยากเข้าวิศวะ มากกกกกกกกกก คิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนมอห้า ((ชีวิตมอห้าจะเป็นชีวิตที่ชิวๆๆวันๆก็คิด
เเค่เรื่องที่จะเรียนต่ออะไรดี)) อาจเป็นเพราะเป็นคนที่ถนัดด้านคำนวณมากกว่าด้านอื่น ทำให้คิดว่าตัวเองคงจะเหมาะ
กับด้านนี้มากกว่า หลังจากนั้นก็เริ่มเรียนพิเศษเฉพาะวิชาที่ใช้สอบวิศวะ จริงๆเเล้วตอนนั้นเรียนแค่ ฟิสิกส์กะ
ความถนัดวิศวะ ยิ่งตอนเรียนความถนัด ยิ่งชอบเพราะ ได้ใช้แนวความคิดแปลกๆเยอะมาก แบบสามารถคิดโจทย์
แบบนี้ในใจได้เลย เพราะวิศวะเป็นกรเรียนแบบประยุกต์ มาจากฟิสิกส์และเคมี ตอนนั้นวันๆๆอ่านเเต่ฟิสิกส์
ถึงแม้ว่าตอนนั้นอยากเป็นวิศวะ มากแต่ก็ตั้งใจที่จะสอบหมอด้วย เพราะอยากลองดู ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเตรียมตัว
อะไรเลย(ประมาณเปิดเทอมมอหกเทอมหนึ่ง) คือตั้งใจว่าจะสอบแพทสามรอบตุลาให้สร็จๆแล้วค่อยเริ่มอ่าน เคมี
ชีวะ ไทย สังคม ส่วนอังกฤษ กะเลขนั้น ค่อนข้างจะถนัดอยู่แล้วเลยอ่านเก็บมาเรือยๆตั้งแต่ปิดเทอมเมษาแล้ว
แต่!!!!!!! ปรากฏว่า น้ำท่วม ก็เลยต้องเลื่อนสอบแกท แพท !!!
จำได้ว่าตอนนั้นชีวิตวุ่นวายมาก แบบ ต้องเริ่มอ่านเคมี ชีวะ แต่ก็ยังทิ้งวิศวะไม่ได้ T____T
สามเดือนเท่านั้น สำหรับ กสพท ที่กำลังจะมาถึง !!!!!!
เราเลยลุยเดี่ยวเลย ไปซื้อคัมภีร์ แยกบท และ20 พศ ชีวะ เคมี มาเริ่มต้นอ่าน(แค่คิดถึงตอนนั้นก็เหนื่อยแล้ว)
แต่โชคดีที่น้ำท่วม โรงเรียนปิดยาวเลยมีเวลาอ่านหนังสือได้ทั้งวัน
ตอนนั้นอ่านและเขียนสรุปเองโดายการอ่านเรื่อเดียวทีละ สี่ แห่ง คือ จาก หนังสือ OPD(ของหมอพิชญ์....โชคดี
ที่ได้เรียนจบหมดทุกเล่ม)และจากชีทที่ถ่ายเอกสารมาจากเพื่อน(ของยูเรก้าอ่ะ) และค่อนสรุปเป็นของตัวเอง
ด้วยลายมือตัวเอง พร้อมวาดรูปประกอบ แล้วค่อนๆๆอ่านทวนไปเรื่อยๆๆ ใช้เวลาประมาณหนึงเดือนเต็ม วันละสาม ชม ปรากฏว่า สามารถจำได้หมดจริงๆๆ
ตอนแรกไม่อยากจะเชื่อตอนเองเหมือนกัน เพราะปกติเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องที่ต้องจำ แต่กลับพบว่าสามารถจำได้
ทั้งหมด ตั้งแตจากตอนที่เคยเรียนแล้วสอบในโรงเรียนอย่างมาก
พอเริ่มจำได้หมด ทำข้อสอบก็ถูกเยอะ (ดีใจมากกกก) และเริ่มชอบชีวะ ขึ้นมาทันตา 5555
ส่วนเคมี นั้น จริงๆเเล้วเราไม่ถนัดเคมียิ่งกว่าชีวะซะอีก 55555
เราเลยตัดสินใจไปเรียนพิเศษเคมีคอร์สเอนท์ ที่ GET ของอาจารย์สำราญ พฤกษ์สุนทร เพราะ ชอบอ่านหนังสือ
ที่อาจารย์เขียนมากๆๆ อ่านมาตั้งแต่ตอนมอสี่ มอห้าแล้ว และหนังสือเคมีทุกล่มที่ซื้อก็เป็นของอาจารย์คนนี้แหละ
น้องๆๆบางคนมักงง และถามว่า ทำไมไม่เรียนอาจารย์ อุ๊ ล่ะ ขอตอบคำเดียวสั้นๆๆ ว่า เรากะอาจารย์อุ๊เคมีไม่ตรง
กัน 555555555 เพราะเคยเรียนตอนมอสี่เทอมหนึ่งแล้วไม่ค่อยเริ่ดเท่าไร พอเทอมสองไม่เรียน คะแนนพุ่งเลย
ค่ะ ตั้งแต่นั้นมาเลยไมเคยคิดเรียนพิเศษเคมีอีกเลย 555
แต่อาจารย์สำราญสอนดีมากกก รักเคมีเลยแหละตอนนั้น เสียดายทีเราไม่ค่อยมีเวลาเลยต้องเรียนแบบส่วน
ตัว(แพงอยู่นะ) และเรียนได้ไม่หมดทุกเรื่องด้วย (เราเลือกเรียนแต่พวกเคมีบรรยายอ่ะ ส่วนคำนวณอ่านเอง)
เรียนไปและอ่านเองบ้าง ปรากฏว่าเคมีเป็นวิชที่เราได้คะแนนในการสอบกสพท มากที่สุดแหละ :)))
มากกว่าฟิสิกส์ด้วย(หนึ่งคะแนน)
สรุปแล้วกลับใจเมื่อไรล่ะเนี่ยยยย
ก็คือเริ่มคิดได้ว่าจริงๆเเล้วเราก็สามารถถนัดชีวะเเละเคมี และวิขาอื่นด้วยเหมือนกัน ถ้าเรามีความพยายาม แต่
เรากลับไม่เคยมีความพยายามที่จะเริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ แต่กลับมัวแต่จมอยู่กับสิ่งที่ได้มาแต่เดิม โดยไม่คิดที่จะ
มองหาสิ่งอื่นใหม่ที่อาจจะเป็นสิ่งที่เราถนัดและชอบมากกว่าของเก่าก็ได้.......................
ตอนนั้นสับสนมากว่าจะเอาดี วิศวะที่เราคิดว่าชอบเพราะว่าเราถนัด และสนุกกับมัน
กับ หมอที่เราเริ่มที่จะชอบและถนัดมากขึ้นเรื่อยๆๆ
เลยไปปรึกษาคนอื่นๆๆ(พ่อ เเม่ เพื่อน) เพิ่มเติม เคยปรึกษา หลายครั้งแล้ว มีแต่คนบอกว่าเลือกที่ชอบและถนัด
เรา:แล้วความชอบมันคืออะไร
คนอื่น: ก็พวกลักษณะ อาชีพ สภาพสังคม
ระหว่างนั้น จิตใจก็เริ่มลังเลไปทางหมอ เพราะ เราเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตเรียบๆๆ ง่ายๆๆ และก็รักอิสระ
เคยมีคนบอกว่าเป็นวิศวะ ต้องเป็นคนที่ต้องดิ้นรนเพื่อนหางานตลอดเวลา ถ้าหากอยากจะรุ่ง
และชอบสภาพสังคมของหมอมากกว่าวิศวะ(ความเ็นส่วนตัวนะค่ะ :)) เพราะ เรานับว่าปัจจุบันก็อยู่ในสังคมแบบ
นี้ สังคมเด็กเรียน เรียนเสร็จ กลับบ้าน ไรงี้ ไปเที่ยวนิดหน่อย (ไม่ดริ้ง ) และชอบสังคมแบบนี้มาก
และ ตัดสินใจได้จริงๆๆก็เมื่อได้ไปสอบตรงของวิศวะที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ได้พบเพื่อนๆที่มาสอบด้วย และแน่นอน
ต้องเป็นคนที่อนาคตต้องอยู่นวงการเดียวกัน
แต่ พบว่าตัวเองไม่ชอบเลย
ก็เริ่มอยากเป็นหมออย่างจริงจังซะที (ตอนนั้น ประมาณธันวา)
ตอนนั้น เครียดมากกกกกกกกกกกกกกกก เพราะ รู้สึกว่า จะทันไหมเนี่ย !!!!!
คนอื่นเค้าเตรียมตัวกันไปถึงไหนๆๆกันแล้ว
แต่ก็สู้ถึงที่สุดค่ะ อ่านถึกควายมากกกกกกกกกตอนนั้น(แอบภูมิใจนะเนี่ย)
เราต้องจัดตารางอ่านหนังสืออ่านบ้าครั่งทีเดียว
ตย.
06.30-08.00 เลข
08.00-09.00 อาบน้ำและอาหารเช้า
09.00-12.00 อ่านและสรุปชีวะ
12.00-13.00 พักผ่อน
13.00-17.00 vocab+วิศวะ+ฟิสิกส์
17.00-19.00 พักผ่อน
19.00-20.30 GAT ความถนัดแพทย์
20.30-21.00 อาบน้ำ
21.00-23.00 เคมี
23.00 ----- ทำโจทย์เลข กะดูทีวีไปเรื่อยๆๆจนง่วงแล้วก็หลับไป
ถือว่าถึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทำได้บางไม่ได้บาง แต่ก็อยากทำไว้เพราะจะได้ไม่ต้องมาคิดว่าต้องอ่านอะไรต่อ 555
สรุป
การเข้าสอบของเรา
ได้สมัครสอบ กสพท//วิศวะ ฬ //วิศวะ(สถาบันที่เล่าไป) //ทุนญี่ปุ่น// ทุนกระทรวงวิทย์
ที่ติด หมอรามา//วิศวะ ฬ //วิศวะ(สถาบันที่เล่าไป) // ทุนกระทรวงวิทย์
ที่จะเรียน หมอรามา
สุดท้ายต้องขออภัยวิศวะทุกท่านที่เราเข้าไปกันที่นะค่ะ :(( แต่สละสิทธิ์ไปหมดเเล้วนะค่ะ
ส่วนกระทรวงวิทย์นั้น ไปสอบเล่นๆๆ5555555 แต่ตกสอบสัมภาษณ์ค่ะ 555
ขอขอบคุณบทความดีดีจาก http://daydreamlife.exteen.com/20120416/entry-2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น