จากบทความ “เรียนอย่างไรให้ได้ A” ในครั้งที่แล้ว บางคนอาจมีข้อสงสัยว่า หากเป็นเด็กเรียนอ่อนมาตลอด จะสามารถทำเกรด Aได้หรือ เพราะสำหรับบางคน แค่ได้เกรดเฉลี่ยถึง 3.00 ก็นับว่าดีแล้ว ในบทความนี้ ผู้เขียนจึงอยากเล่าประสบการณ์จริงของเพื่อนคนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนผลการเรียนของตนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้สำเร็จมาแล้ว
ผู้เขียนรู้จักกับเพื่อนคนนี้ตั้งแต่ยังเรียนมัธยมต้น เคยนั่งอยู่ใกล้กัน เพราะตอนนั้นคุณครูจัดให้คนเรียนอ่อน หรือเกเร นั่งกับเด็กเรียนดี ซึ่งผู้เขียนเองก็เรียนได้อันดับ 1 ใน 5 ของชั้นมาตลอด 3 ปีในมัธยมต้นหลังจากนั้น ต่างก็แยกย้ายกันเรียนต่อในระดับมัธยมปลายของโรงเรียนต่างๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสพบและพูดคุยกันอีกทีทางFacebook เมื่อเร็วๆนี้ โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน
- จุดเปลี่ยนของเด็กเกเร
เค้าได้เล่าให้ฟังว่าตอนมัธยมปลายเคยต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะโดนพักการเรียนหนึ่งเทอม แล้วจบชั้นม. 6 ด้วยเกรดเฉลี่ย 1.3 พอจะเข้ามหาวิทยาลัย ที่บ้านจึงแนะนำให้เข้าเรียนในที่ที่ไม่มีเพื่อนเก่าไปเรียน จะได้ไม่มีคนมาชวนไปเสียอีก ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าไม่เคยเชื่อแม่เลย นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเชื่อและเข้าเรียนในวิทยาลัยนานาชาติตามที่ครอบครัวแนะนำ ซึ่งก็ได้ผล เค้าเริ่มต้นใหม่ ตั้งใจเรียน แล้วผลการเรียนเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนเทอมสุดท้ายของระดับปริญญาตรีได้เกรดเฉลี่ย 4.00 แล้วเรียนต่อปริญญาโทจนจบด้วยเกรดเฉลี่ย 3.7 และในขณะนี้เค้าก็กำลังเตรียมสมัครเรียนปริญญาโทในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศในอีกสาขาหนึ่ง
- ทราบได้อย่างไรว่าต้องเรียนยังไงให้เก่ง
ผู้เขียนเอง เมื่อได้ฟังก็รู้สึกสงสัยว่าคนเรียนไม่เก่ง แล้วทราบวิธีในการเรียนดีจนได้เกรดเฉลี่ยเป็น 3.7 หรือ 4.0 ได้อย่างไร ซึ่งเพื่อนคนนี้ได้ตอบว่า ใช้วิธีดูว่าคนอื่นเค้าทำอย่างไร แล้วก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ (แต่ในที่นี้ ขอแสดงความยินดีกับผู้อ่านด้วยที่ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองแล้ว เพราะในบทความ“เรียนอย่างไรให้ได้ A” ได้กล่าวถึงองค์ประกอบในการเรียนดีไว้แล้ว ^^) เพื่อนคนนี้ยังบอกอีกว่า ถึงตอนนี้ เค้ารู้แล้วว่าเรื่องเรียนดีน่ะ “อู๊ดๆ”
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเพื่อนคนนี้ สาเหตุที่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้ออกห่างจากเพื่อนๆที่ชวนกันเสียมาก่อน ประกอบกับมีความตั้งใจจริง มานะพยายาม ตั้งใจ เอาใจใส่ในการเรียน จึงสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นในทุกวันนี้ นอกจากนี้แล้ว ตอนนี้เค้าทำงานเป็นทหาร ได้รับยศร้อยโท ทำหน้าที่วิเคราะห์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ และเป็นผู้ฝึกสอนทหารจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกส่งมาศึกษาข้อมูลในไทยอีกด้วยค่ะ ^^แต่จากที่คุยกัน ผู้เขียนสังเกตได้ว่าเค้ายังอ่อนภาษาอังกฤษอยู่ เหมือนจำเป็นประโยคมากกว่า (เพราะเค้าต้องสื่อสารกับทหารต่างชาติ) จึงได้แนะนำให้สมัครเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนทราบว่าที่นี่จะสามารถช่วยให้เค้าเรียบเรียงและแต่งประโยคด้วยตนเองอย่างถูกต้องได้ เพื่อนคนนี้ตอบว่า เค้าสนใจ เพราะอยากชดเชยกับที่ผ่านมา ที่ไม่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษเลย ผู้เขียนจึงอยากถือโอกาสนี้ เชิญชวนให้คนที่มีโอกาส ตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่ตอนนี้ด้วยค่ะ ^^
สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังใจกับผู้อ่านทุกคน ให้ลองตั้งใจ ตั้งมั่น ที่จะปรับเปลี่ยนตนเองดู ทุกอย่างล้วนต้องมีการลงทุน ลงแรง จึงจะได้ดอกผลที่งดงาม เมื่อมีความตั้งใจจริง ลงมือทำ และทราบแนวทางปฏิบัติที่ได้ผลจริงแล้ว เกรด A หรือ เกรด 4 คงไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนค่ะ ^^ ส่วนการเรียนดีมีประโยชน์และสำคัญอย่างไรนั้น อาจมีบางข้อที่ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ไม่เคยทราบมาก่อน ก็สามารถหาอ่านได้จากหน้าแรกของบทความ “เรียนอย่างไรให้ได้ A” ค่ะ
Credit http://greatsecretstudy.blogspot.com/search?updated-min=2011-01-01T00%3A00%3A00-08%3A00&updated-max=2012-01-01T00%3A00%3A00-08%3A00&max-results=1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น