ตอนเด็กๆ ท่านเคยฝันอยากเป็นอะไรซักอย่างมั๊ยครับ
หลายคนคงฟังเพลงพี่เบิร์ดที่ชื่อว่า "หนูอยากเป็นอะไร" แล้วอาจมีดวงไฟเล็กๆ ถูกจุดขึ้นในหัวใจที่ใหญ่ไม่เกินกำปั้นในเวลานั้น
ผมเองก็เช่นกัน ...
หลายคนคงฟังเพลงพี่เบิร์ดที่ชื่อว่า "หนูอยากเป็นอะไร" แล้วอาจมีดวงไฟเล็กๆ ถูกจุดขึ้นในหัวใจที่ใหญ่ไม่เกินกำปั้นในเวลานั้น
ผมเองก็เช่นกัน ...
เริ่มต้นที่ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะอยากจะผลิต "ยาอมตะ" เพื่อที่จะสามารถทำให้พ่อและแม่ผมอยู่กับผมไปตลอดกาล (ตอนนั้นยังไม่รู้จักคำว่า เภสัชกร)
โตขึ้นมาอีกหน่อยพระพุทธเจ้าก็ทรงมาทำให้ผมรู้จัก "เกิด แก่ เจ็บ ตาย"
ผมเปลี่ยนความอยากเป็นอีกครั้ง ผมอยากเป็น "หมอ" เพื่อที่จะได้รักษาคนที่ผมรัก
ผมเปลี่ยนความอยากเป็นอีกครั้ง ผมอยากเป็น "หมอ" เพื่อที่จะได้รักษาคนที่ผมรัก
พอผมเห็นดารา ผมก็อยากเป็นดารา เห็นนักร้องก็อยากเป็นนักร้อง เห็นนักการเมือง(สมัยนั้น)ก็อยากเป็นนายก แล้วก็อยากๆๆๆๆ อีกนับไม่ถ้วน
จนจบม.ปลาย จับพลัดจับผลูผมก็สอบได้ทุนเรียนดีคณะวิยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย จนได้มาอยู่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
เอาละวะ ... ความฝันของผมตอนเด็กเริ่มเข้าเค้าแล้ว (จริงๆไม่ว่าผมจะเข้าคณะอะไร ก็เข้าเค้าหมดแหละ อยากซะเยอะขนาดนี้)
แต่ที่ไหนได้มาเรียนเคมีเข้าจริงๆแล้ว มันไม่ตรงกับที่ผมอยากรู้เลยครับพี่น้อง .... ไม่รู้เพราะหลักสูตรประเทศไทย หรือว่าความทุพลภาพของผม
.... พระเจ้า!! เทอร์โมไดนามิกส์ สมการโชร์ดิงเจอร์ ทฤษฏีผลึก Claisen Rearrangement โครมาโตรกราฟี Capillari electrophoresis บลาๆ ...... เรียนกันจนตับอักเสบไปเลย
แล้ว ........... ชีวิตผมล่ะ รู้เรื่องพวกนี้แล้วไม่เห็นจะได้นำไปใช้จริงๆซักอย่างเลย ตื่นเช้ามาก็นำลายบูดย้อยข้างแก้มเหมือนเดิม
ผมอยากเป็นเทพ เข้าใจม๊ายยยย!!
ผมอยากเป็นเทพ เข้าใจม๊ายยยย!!
ผมไม่ยอมหมดหวังเพราะระบบการศึกษาไทยหรอก ผมมีความรู้พื้นฐานทางเคมีบวกกับความอาร์ตตัวพ่อนิดๆ ผสมกับชาติก่อนที่ผมคงเป็นหมา ... ทำให้ชาตินี้ผมดมกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ ผมมีพรนรกจำแนกกลิ่นตดคนได้ และไม่เคยผิดซักครั้ง
ผมให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบของกลิ่น จนเริ่มจับถึงโน๊ต(กลิ่นเดี่ยวๆ)ที่อยู่ในทุกกลิ่นที่ถูกลมหมุนพัดเข้ารูจมูกของผม แล้วนำไปโยงเข้ากับฐานข้อมูลสารเคมีที่อยู่ในสองส่วนลิมบิก
ผมเริ่มไม่สนใจเรียนตั้งแต่ปี 3 แล้วหันมาสนใจกลิ่นแทน ... ผมมักใช้เวลาการทำ Project ของผม แอบไปทำการวิจัยเล็กๆเรื่องกลิ่น ส่วนผสมของน้ำหอม การทำน้ำหอม การสังเคราะห์กลิ่น จนผมได้ Know How ที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้น้ำหอมของผมกลิ่นเสถียร ติดทน และใช้งานได้ดีแม้ในสภาพอากาศประเทศไทย
Now I can rule the world!!!
Now I can rule the world!!!
แต่โชคชะตาไม่ได้ขีดไว้ให้ผมเดินมาสายนี้ได้ง่ายๆเท่าไรหรอก
ตอนเรียนผมมีอุปสรรคอย่างสูงจนเกือบถูกรีไทร์ เมื่อผมเรียนจบผมทิ้งงานทุกอย่างที่เป็นเคมีทั้งๆที่ผมได้งานคนแรกในคณะด้วยซ้ำ แล้วออกมาตามฝันเล็กๆน้อยๆ เช่น เป็นสจ๊วตทำงานต่างประเทศ ไปทำงานที่อังกฤษ หรือเป็นพนักงานโรงแรม แต่สาบานได้ แต่ละที่ไม่เคยเกิน 3 เดือน ...
ผมขี้เบื่อ และกล้าตัดสินใจ ... อะไรที่ผมไม่ชอบ ผมจะปล่อยมันไปอย่างไม่ใยดี
จนในปัจจุบัน ผมได้กลับมาสู่วงโคจรที่ผมชอบที่สุด
ผมเป็นเจ้าของร้านน้ำหอม KenGSoHigH ร้านน้ำหอมที่ผมผลิตเอง และให้คุณภาพสูงกว่าน้ำหอมเคาน์เตอร์
ถ้าจะถามผมว่า ผมพอแล้วหรือยัง ... ผมตอบอย่างหนักแน่นได้เลยว่า "ยัง"
ผมเป็นเจ้าของร้านน้ำหอม KenGSoHigH ร้านน้ำหอมที่ผมผลิตเอง และให้คุณภาพสูงกว่าน้ำหอมเคาน์เตอร์
ถ้าจะถามผมว่า ผมพอแล้วหรือยัง ... ผมตอบอย่างหนักแน่นได้เลยว่า "ยัง"
มันยังห่างไกลความฝันของผมมากนัก ผมไม่ต้องการเป็นเงาของใคร
ผมอยากเป็นเทพแห่งกลิ่น ผมจะต้องผสมกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของผมเอง
ผมจะต้องนำศาตร์แห่งการผสมกลิ่นเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยให้ได้ เนื่องจากพี่ไทยเรามีวัตถุดิบมากมาย
ผมอยากเป็นเทพแห่งกลิ่น ผมจะต้องผสมกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของผมเอง
ผมจะต้องนำศาตร์แห่งการผสมกลิ่นเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยให้ได้ เนื่องจากพี่ไทยเรามีวัตถุดิบมากมาย
ไม่ว่าจะยากเพียงใด หรือต้องใช้เงินมหาศาลขนาดไหน
ผมจะกัดฟัน และขู่คำรามออกไปให้โลกได้รู้ว่า
ผมจะกัดฟัน และขู่คำรามออกไปให้โลกได้รู้ว่า
"ผม(กู)จะเป็นนักปรุงน้ำหอม (Perfumer) โว้ยยยย!!!!"
Credit http://www.oknation.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น