วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

เลือกคณะผิดชีวิตก็เปลี่ยน

ใกล้จะ แอดกลางแล้ว หลายๆคนคงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร  ผมขอนำประสบการณ์ชีวิตคนนึง ซึ่งตัดสินใจผิดพลาด มาดูกันว่าพี่เค้าจะรู้สึกอย่างไร หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี 
.....................................................................
เมื่อวานพ่อโทรมาบอกว่าจะออกรถให้นะ แต่จะมีเงินผ่อนรึเปล่า  ด้วยความดีใจของเราก็ตอบไปทันทีว่ามีๆ ได้ๆ จะประหยัดเอา  แต่พอมานั่งคิดอีกทีก็เริ่มกลุ้มๆ เพราะก็รู้ว่าตัวเองใช้เงินยังไง  ยิ่งเงินเดือนก็เท่านี้อยู่  เฮ้อ!! ไม่รวยเหมือนคนอื่นบ้างนะ  เลยคิดโน้นคิดนี่  ว่าทำไงถึงจะมีเงินเยอะกว่านี้  เบ้ย!! ช่างว่าเนอะ  คิดๆ ก็ได้แต่คิด  เลยกลับคิดถึงความชอบของตัวเองดูบ้าง 
กลับไป 5 ปีที่แล้ว ที่คิดว่าจะเลือกเรียนอะไร  ทำไมไอ้ footech มันขึ้นมาในหัวนะ  ทำไมไอ้บริหารรึสื่อสารมวลชน มันหายไปหล่ะ  ทำไมต้องฟังคนอื่นมากกว่าตัวเอง  ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองถนัดอะไรนี่นะคนเรา  ทั้งที่มีโอกาสเลือกแต่ไม่เลือก ทั้งที่ก็รู้ว่าถ้าทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบก็จะไปได้ดีกว่านี้  
แต่มันก็คงสายไปที่คิดตอนนี้  คำตอบของมันเราก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม  กุลธิดา!!!เธอหนิจริงๆ เลยนะ  อีกปีต่อมาที่คิดจะเลือกทางเดินชีวิตใหม่  แต่ก็ต้องหยุดคิดไปอีกรอบ  คงเพราะมีอะไรมาลิขิตชีวิตเราไว้แล้ว ว่าควรจะเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไป ถึงตอนนี้เลยเสียใจจริงๆ  บอกใครไปก็คงไม่มีใครเข้าใจเท่าตัวเราเองหรอก  ยิ่งตอนเรียน  ตอนฝึกงาน  ตอนไปทำงานพิเศษ  ก็เริ่มได้รู้สิ่งที่ตัวเองต้องการมากขึ้นเท่านั้น  แต่ก็คงได้แค่คิด  ยิ่งตอนเรียนจบไปทำงานยิ่งรู้เลยว่าตัวเองเลือกทางเดินผิดไปอย่างมาก  ความสำเร็จที่เคยวาดฝันเอาไว้ต้องสลายไป  เหมือนคนตายทั้งเป็น  ต้องทนดูชีวิตที่หดหู่ของตัวเองตามลำพัง  ต้องคอยชื่นชมความสำเร็จของคนอื่นที่เขาเลือกทางเดินชีวิตที่เหมาะกับเขา 
แต่สิ่งที่วาดเอาไว้ก็น่าจะเป็นจริงได้ตอนออกจากงานที่แรก  ที่แม่ได้ยื่นข้อเสนอให้ทำกิจการเอง แต่ต้องทำที่บ้านและค่อยเรียนต่อไปด้วย  แต่มันก็ไม่เป็นจริงไปอีกครั้งเมื่อเราเกิดเสียดายเวลาที่เสียไปกับทางที่ผิด 4 ปี  เลยคิดว่าจะต้องทำให้สิ่งที่เรียนมากก่อนถึงจะเปลี่ยนสาย  และด้วยความไม่อยากทำงานที่บ้านด้วย  และโอกาสนั้นก็หมดไปอีกเช่นเคย 
ใครว่ามีคนลิขิตชีวิตเรา  ไม่มีเลย  เราลิขิตชีวิตตัวเองต่างหาก
เวลาผ่านไประยะหนึ่งก็เริ่มมาคิดได้ว่าคิดผิดไปอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อเราเลือกที่จะตายทั้งเป็นอีกรอบก็ได้ทำงานใหม่แล้วไง  คนเรานี่ก็แปลกเนอะ  ทั้งที่ไม่ชอบก็คิดที่จะเลือก ตอนนี้ไง  ที่ต้องหน้าชื่นอกตรมอยู่  ต้องร้องไห้ในใจอยู่ตลอดเวลา
ตอนเรียนอาจไม่มีอะไรให้คิดมากมาย  ความรัก  เพื่อน เรียนๆเล่นๆ  คิดแค่ว่ายังไงก็จะเปลี่ยนสายอยู่แล้ว แต่พอได้ทำงานมันไม่เป็นอย่างนั้นเลย  คิดอย่างเดียวในตอนนี้อนาคตเราหล่ะ  อีกกี่ปีถึงจะประสบความสำเร็จ  เขาก้าวไปก่อนเราหลายก้าวนะ  แล้วเราหล่ะ  จะต้องทนอยู่อย่างนี้อีกนานเท่าไหร่  บอกใครก็ไม่ได้  คิดว่า 2 ปีที่วางไว้มันช่างยาวนานเหลือเกิน  แล้วก็กลับมาคิดถึงอดีตอีกครั้งว่าถ้าเราเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบมันคงจะได้ก้าวข้ามคนอื่นไปแล้ว  ยิ่งเสียใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เราเลือกมันไม่ทำให้เราถึงเป้าหมายในชีวิต
 อยากจะร้องไห้แล้วก็ถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะถึงทีของเรานะ  ตอนนี้เลยคิดว่าจะต้องทำตามใจตัวเองแล้วหล่ะ  ถ้าชอบอะไรก็คงทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ  จะต้องเชื่อใจตัวเองให้มากที่สุด
ชีวิตเราลิขิตเอง  สักวันมันจะเป็นทีของเรา  แล้วเราก็จะไม่ต้องมาร้องไห้ในใจต่อไป
เมื่อถึงจุดสูงสุดในชีวิต  จะกลับมามองดูการตัดสินใจของตัวเอง จะถามตัวเองว่าเลือกถูกแล้วใช่มั้ย ???
กลับมาคิดได้อีกข้อหนึ่ง  ว่าสิ่งที่เราเลือก อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเราก็ได้  แต่สิ่งที่เราไม่เลือกอาจะเหมาะกับเราก็ได้นะ  แต่คิดไปคิดมา นั่นแหล่ะเราเลยต้องเลือกมากไงเพื่อที่จะได้แน่ใจว่าที่เลือกมันเหมาะกับเราที่สุดแล้ว
ขอขอบคุณประสบการณ์ดีๆ จาก  http://kpkul.wordpress.com/

ไม่มีความคิดเห็น: