นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้หูฟังโทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนและรุ่นพี่ โดยไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ ถูกขบวนรถเกี่ยวกระเป๋า จนลากร่างเข้าไปใต้ขบวนทับดับอนาถ
วันนี้ (21 พ.ค.) เวลา 07.30 น. พ.ต.ต.ศุภชัย หาญคำกล้า พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุมีรถไฟทับคนเสียชีวิต บริเวณรางรถไฟ ใกล้ป้อม อโศก-ดินแดง ตัดกับถนนกำแพงเพชร 7 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุ บนรางรถไฟ เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.บัดรียะฮ์ อู่งามสิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/246 ซ.กรุงเทพกรีฑา แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ใกล้กัน พบกระเป๋าสะพายสีดำแบบผู้หญิง และโทรศัพท์มือถือพร้อมสายหูฟังติดอยู่กับศพ จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณใบหน้าซีกขวามีบาดแผลเป็นรอยช้ำ ทั่วร่างกายมีรอยครูด เป็นแผลจำนวนมากและมีกระดูกสันหลังหัก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.รามาธิบดี
จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุดังกล่าว ตนได้นั่งอยู่บน จยย.รับจ้าง และจอดรอรถไฟวิ่งผ่าน ได้เห็นผู้ตายเดินออกมาจากทางสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ก่อนเดินเลียบมาตามรางรถไฟ ซึ่งเป็นช่วงที่ขบวนรถไฟสาย 283 (กรุงเทพ-ภูตาหลวง) กำลังวิ่งเข้ามาที่สถานีอโศก โดยรถไฟวิ่งมาทางด้านหลังของผู้ตาย พร้อมเปิดเสียงเตือนประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นเห็นว่าขบวนรถไฟคันดังกล่าวได้เกี่ยวกับกระเป๋าสะพายและลากผู้ตายไปตามรางรถไฟ จนร่างผู้ตายได้มุดไปใต้ท้องรถไฟจนโดนทับเสียชีวิต แต่ที่สังเกตเห็นนั้น ตนคิดว่าผู้ตายเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงเตือนของรถไฟขบวนดังกล่าว
ต่อมา นางนิตยา ศิริกิจ อายุ 54 ปี ป้าของผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตา ว่า ผู้ตายเพิ่งเป็นนิสิตปี 1 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินทางออกจากบ้าน และขึ้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ มาลงที่สถานีพญาไท กำลังจะต่อรถโดยสารไปมหาวิทยาลัย แต่ผู้ตายไม่ค่อยชำนาญเส้นทางมากนักเลยคิดว่าอาจลงผิดสถานี และวันนี้รุ่นพี่ได้นัดหมายเจอกัน ตอนเวลา 08.00 น. จึงอาจทำให้รีบร้อนจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว สำหรับศพทางญาติจะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่ผู้ตายนับถืออยู่ต่อไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจใช้หูฟังขณะที่เดินอยู่ข้างรางรถไฟ จึงไม่ได้ยินเสียงเตือนของรถไฟ ซึ่งพบหูฟังที่ต่อกับโทรศัพท์ของผู้ตายยังตกอยู่ใกล้กับศพ โดยตรวจสอบครั้งสุดท้าย พบว่าผู้ตายได้โทร.ไปบอกกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ว่ากำลังรีบเดินทางไปที่มหาวิทยาลัย และอาจกลัวไม่ทันนัดหมายไว้ที่มหาวิทยาลัย จึงทำให้รีบร้อนจนกระทั่งถูกรถไฟเฉี่ยวชนจนเสียชีวิตดังกล่าว
Credit manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น