"หนูก็ไม่ค่อยชอบสังคมวงการบันเทิงเท่าไหร่ การแข่งขันมันสูงมาก แถมหนูรักเป็นคนอิสระ อยากทำอะไร ถ้ามันเป็นความสุข หนูก็จะทำ หากถ้าไปอยู่ตรงนั้น ใช่ว่ามันไม่มีข้อดี แต่บางทีเราก็สูญเสียตัวเองไป คือเราไม่เป็นตัวของตัวเองเลย"...
"ข้าวปุ้น" หรือนางสาวชลลิดา พจนะสัจจาภรณ์ แคมปัสรับเชิญประจำสัปดาห์ กล่าวกับ "สวัสดี…แคมปัส" ถึงมุมมองความแตกต่างระหว่างเวทีเดินแบบกับวงการบันเทิง พร้อมยังเปรียบเปรยให้ฟังถึงงานเดินแบบ ที่ตัวเองมีประสบการณ์มาพอดูว่า "งานบันเทิงแตกต่างจากงานเดินแบบ ในงานเดินแบบ หนูจะได้เป็นตัวของตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเองได้ งานนี้ควรใส่อะไร เสื้อผ้าแบบไหนที่เราใส่แล้วดูดี แบบไหนดูนี้น้อยกว่า และแบบไหนเหมาะสมกับเรา ทำให้เราเอามาใช้กับชีวิตประจำวันได้"
ขณะที่ "สวัสดี…แคมปัส" มองว่า "ข้าวปุุ้น" มีหน้าตาสวยใส น่ารัก หุ่นเป๊ะ ไร้ศัลยกรรม จึงถามถึงโอกาสที่จะเข้าวงการบันเทิงว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด "ข้าวปุ้น" ตอบว่า "เคยมีคนชวนเข้าวงการบันเทิงเหมือนกันค่ะ แต่สำหรับหนูว่ามันช้าไปที่จะเริ่มต้น หนูก็อายุ 21 ปี แล้ว และหนูว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง"
"ข้าวปุ้น" หรือนางสาวชลลิดา พจนะสัจจาภรณ์ แคมปัสรับเชิญประจำสัปดาห์ กล่าวกับ "สวัสดี…แคมปัส" ถึงมุมมองความแตกต่างระหว่างเวทีเดินแบบกับวงการบันเทิง พร้อมยังเปรียบเปรยให้ฟังถึงงานเดินแบบ ที่ตัวเองมีประสบการณ์มาพอดูว่า "งานบันเทิงแตกต่างจากงานเดินแบบ ในงานเดินแบบ หนูจะได้เป็นตัวของตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเองได้ งานนี้ควรใส่อะไร เสื้อผ้าแบบไหนที่เราใส่แล้วดูดี แบบไหนดูนี้น้อยกว่า และแบบไหนเหมาะสมกับเรา ทำให้เราเอามาใช้กับชีวิตประจำวันได้"
ขณะที่ "สวัสดี…แคมปัส" มองว่า "ข้าวปุุ้น" มีหน้าตาสวยใส น่ารัก หุ่นเป๊ะ ไร้ศัลยกรรม จึงถามถึงโอกาสที่จะเข้าวงการบันเทิงว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด "ข้าวปุ้น" ตอบว่า "เคยมีคนชวนเข้าวงการบันเทิงเหมือนกันค่ะ แต่สำหรับหนูว่ามันช้าไปที่จะเริ่มต้น หนูก็อายุ 21 ปี แล้ว และหนูว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง"
"ข้าวปุ้น" กล่าวถึงวงการบันเทิงว่า "ถ้าจะเข้าวงการบันเทิง เราก็ต้องเคยเรียนการแสดง และต้องมีทักษะการแสดง แต่วงการเดินแบบ จะอาศัยทักษะจากประสบการณ์ที่ได้จากการเดินแบบมา และอาศัยบุคลิก คือจะทำอย่างไรให้เสื้อผ้าของเขาดูดี และทำให้แบรนด์ของเขาเป็นที่รู้จัก" สาวนางแบบ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
"ชลลิดา" เรียนอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่จังหวัดนครปฐม เธอเลือกเรียนเอกประวัติศาสตร์ โทภาษาญี่ปุ่น ถามว่าเรียนยากมั้ย ข้าวปุ้นบอกว่า "ก็ยากเหมือนกัน แต่ไม่กี่วันที่จะถึง ข้าวปุ้นก็จะเรียนจบแล้ว เมื่อเรียนจบ หนูจะสอบที่สายการบินตะวันออกกลางเลย เพราะหนูฝันว่า หนูอยากเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าวันหนึ่งได้เป็นแล้ว สัก 5-6 ปี ก็อาจจะออกมาร้านหรือทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง หรือไม่ก็งานอะไรก็ได้ที่สบายๆ กับคุณแม่
"ชลลิดา" เรียนอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่จังหวัดนครปฐม เธอเลือกเรียนเอกประวัติศาสตร์ โทภาษาญี่ปุ่น ถามว่าเรียนยากมั้ย ข้าวปุ้นบอกว่า "ก็ยากเหมือนกัน แต่ไม่กี่วันที่จะถึง ข้าวปุ้นก็จะเรียนจบแล้ว เมื่อเรียนจบ หนูจะสอบที่สายการบินตะวันออกกลางเลย เพราะหนูฝันว่า หนูอยากเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าวันหนึ่งได้เป็นแล้ว สัก 5-6 ปี ก็อาจจะออกมาร้านหรือทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง หรือไม่ก็งานอะไรก็ได้ที่สบายๆ กับคุณแม่
ความสวย ความสามารถธรรมดาซะที่ไหน "ข้าวปุ้น" เคยผ่านเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2011 มาแล้วครึ่งหนึ่ง ครานั้นเธอมีโอกาสผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายเสียด้วย จากนั้นก็มีคนเริ่มชวนมาเดินแบบ ทำให้เธอหลงเสน่ห์เวทีเดินแบบตั้งแต่นั้นมา ซึ่งข้าวปุ้นยอมรับว่า ช่วงแรกๆ เธอก็ยังเดินแบบไม่ค่อยเป็น ก็มีพี่ๆ มาคอยสอน จนทำให้ต่อมาข้าวปุ้นได้มีโอกาสประกวดเวทีไทยซุปเปอร์โมเดล
เธอทิ้งท้ายว่า "งานเดินแบบ มันเป็นงานที่สนุก หนูรัก หนูชอบที่จะทำ! "สวัสดี…แคมปัส" ก็หวังว่า "ข้าวปุ้น" สาวผู้มั่นใจจะประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ อย่างไรก็ขอเป็นกำลังให้ "สาวศิลปากร หัวใจนางแบบ" คนนี้ด้วยนะคะ!!
เธอทิ้งท้ายว่า "งานเดินแบบ มันเป็นงานที่สนุก หนูรัก หนูชอบที่จะทำ! "สวัสดี…แคมปัส" ก็หวังว่า "ข้าวปุ้น" สาวผู้มั่นใจจะประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ อย่างไรก็ขอเป็นกำลังให้ "สาวศิลปากร หัวใจนางแบบ" คนนี้ด้วยนะคะ!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น