ทปอ.ยืนยันปฏิทินแอดมิชชัน 56 ตามเดิม พร้อมทบทวนปฏิทินแอดมิชชัน 57 อีกครั้งมอบคณะแอดมิชชันฟอรั่มฯ ไปดูความเป็นไปได้จัดสอบ 7 วิชาสามัญพร้อมสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 1/2557 ในเดือนมี.ค.ชี้เป็นการสอบรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน ขณะที่ ขอร่วมมือมหาวิทยาลัยจัดสอบรับตรงช่วงเวลาเดียวกัน เบื้องต้นกำหนดเดือน ม.ค.เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่ายและเด็กวิ่งรอกสอบ
| |
“ยังมีบางส่วนของปฏิทินแอดมิชชัน ปี 2557 ที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้คณะทำงานแอดมิชชันฟอรั่ม รับไปศึกษา ได้แก่ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดการสอบ 7 วิชาสามัญ จากเดือน ม.ค.ให้ใกล้เคียงกับการสอบGAT/PATครั้งที่ 1/2557 ในเดือนมี.ค.เนื่องจากเห็นว่าการสอบทั้ง 2 รูปแบบมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ส่วนที่มองว่าจะสร้างภาระให้นักเรียนเครียดกับการสอบหรือไม่นั้นก็ให้คณะทำงานไปดูในจุดนี้ด้วย ขณะเดียวกัน หากรสอบ 7 วิชาสามัญในเดือน ม.ค.จะติดขัดในเรื่องของการเรียนหลักสูตรวิชารักษาดินแดน (รด).ของนักเรียนชาย ซึ่งตรงนี้ ทปอ.จะไปขอความร่วมมือกับผู้บังคับการกรมรักษาดินแดนว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะขยับการเรียนออกไป และในส่วนการสอบGAT/PAT ครั้งที่ 2/2557 ตรงกับเดือนพ.ค. ซึ่งอยู่ในช่วงเปิดภาคเรียนและมีการกิจกรรมของนักเรียน แต่การสอบต้องใช้โรงเรียนเป็นสนามสอบจึงขอให้คณะทำงานฯ ไปดูเรื่องเหล่านี้เพื่อปรับให้เหมาะสม”ประธาน ทปอ.กล่าว ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้หารือกันในที่ประชุมด้วยว่า จะมีการปรับกำหนดการสอบรับตรงของแต่ละมหาวิทยาลัยให้อยู่ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน เบื้องต้น คาดว่าน่าจะอยู่ในเดือน ม.ค. ดังนั้น ที่ประชุมจึงขอให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไปสำรวจข้อมูลเพื่อดูว่าหากมารับตรงในช่วงเวลาใกล้เคียงกันจะทำได้หรือไม่ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และลดปัญหาการวิ่งรอกสอบของนักเรียน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่จากอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ค่อนข้างเห็นด้วย นอกจากนี้ ได้แจ้งที่ประชุมรับทราบตามที่ตนและ นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้แทน ทปอ.ไปหารือกับสำนักงบประมาณเมื่อเร็วๆ นี้ ใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.สำนักงบประมาณเห็นด้วยในหลักการ การปรับเงินเดือนพนักงานพนักงานมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน ซึ่งเป็นแบบคลื่นกระทบฝั่งเป็นฐานสำหรับการคิดคำนวณ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องจำนวนเงิน ซึ่งสำนักงบฯ จะรับไปพิจารณา และ2.สำนักงบฯ เห็นชอบตามหลักการที่ ทปอ.เสนอคิดคำนวณรายได้ของมหาวิทยาลัยที่จะนำมาสมทบการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งจากเดิมมหาวิทยาลัยต้องใช้เงินรายได้ของตนเองสมทบในจำนวนที่มาก อาทิ ใช้งบประมาณตนเองสมทบอย่างต่ำ 35-80% ทำให้มหาวิทยาลัยต้องรับภาระงบประมาณ โดยสำนักงบฯ รับปากจะไปดูรายละเอียดต่างๆ |
Credit http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131655
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น