ปัญหาใหญ่ของการเลือกคณะ นั่นก็คือ เลือกยังไงให้ติด แต่สำหรับบางคนปัญหาของเค้าอยู่ที่ แอดมิชชั่นติดในคณะที่ไม่่ใช่ และผลสุดท้ายก็จะต้องซิ่วออกในที่สุด และไปรอชิงพื้นที่กันในปีหน้า โดยมีสาเหตุหลักๆ คือ ติดในคณะที่ไม่ชอบ หรือคิดว่าใช่ แต่สุดท้ายก็เรียนไม่ไหว
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ มือใหม่หัดแอดฯ ต้องอ่านเคล็ดลับการเลือกคณะนี้ให้ครบทุกข้อ เราจะได้ไม่กลายเป็นเด็กซิ่วรุ่นต่อไป
>> ถูกใจพ่อแม่ ถูกใจเรา
หลายคนเจอปัญหาอยากเรียนคณะนี้ แต่แม่อยากให้เรียนอีกคณะนึง ก็เลยแสดงความกตัญญูด้วยการเลือกคณะที่แม่อยากให้เรียนไว้อันดับ1 ซึ่งในใจตัวเองก็รู้ดีว่าเราไม่ได้อยากเรียน
เลยสักนิดเดียว ส่วนคณะที่เราอยากเรียนก็ไว้อันดับ 2-4 แล้วกัน แต่ผลออกมาดันเก่งเกินคาด ติดตั้งแต่อันดับ 1 ส่วนแม่ก็ดีใจไปสิ เราน้ำตาแทบตกใน เพราะไม่ได้อยากเรียนเลย ทนเรียนไปได้ไม่นาน สุดท้ายก็ต้องลาออก เพราะไปไม่ไหวจริงๆ
ปัญหานี้อย่าคิดว่าเป็นละครน้ำเน่านะคะ หลายบ้านเป็นแบบนี้จริงๆ คือ พ่อแม่หวังอยากให้ลูกจบมาทำงานนี้ แต่ลูกไม่ได้ชอบ แต่ก็เถียงไม่ได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ น้องๆ ควรเปิดอกคุยกับพ่อแม่ไปเลย ว่าถ้าเราเรียนคณะนี้ท่านจะรับได้แค่ไหน พร้อมทั้งบอกไปว่าเราอยากเรียนหรือไม่อยากเรียนคณะนี้เพราะอะไร ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็หาจุดกึ่งกลางที่ดีที่สุด เพราะถ้าเราแฮปปี้ ครอบครัวแฮปปี้ ก็วินๆ ทั้งคู่ อนาคตก็ไม่ต้องซิ่วค่ะ
หลายคนเจอปัญหาอยากเรียนคณะนี้ แต่แม่อยากให้เรียนอีกคณะนึง ก็เลยแสดงความกตัญญูด้วยการเลือกคณะที่แม่อยากให้เรียนไว้อันดับ1 ซึ่งในใจตัวเองก็รู้ดีว่าเราไม่ได้อยากเรียน
เลยสักนิดเดียว ส่วนคณะที่เราอยากเรียนก็ไว้อันดับ 2-4 แล้วกัน แต่ผลออกมาดันเก่งเกินคาด ติดตั้งแต่อันดับ 1 ส่วนแม่ก็ดีใจไปสิ เราน้ำตาแทบตกใน เพราะไม่ได้อยากเรียนเลย ทนเรียนไปได้ไม่นาน สุดท้ายก็ต้องลาออก เพราะไปไม่ไหวจริงๆ
ปัญหานี้อย่าคิดว่าเป็นละครน้ำเน่านะคะ หลายบ้านเป็นแบบนี้จริงๆ คือ พ่อแม่หวังอยากให้ลูกจบมาทำงานนี้ แต่ลูกไม่ได้ชอบ แต่ก็เถียงไม่ได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ น้องๆ ควรเปิดอกคุยกับพ่อแม่ไปเลย ว่าถ้าเราเรียนคณะนี้ท่านจะรับได้แค่ไหน พร้อมทั้งบอกไปว่าเราอยากเรียนหรือไม่อยากเรียนคณะนี้เพราะอะไร ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็หาจุดกึ่งกลางที่ดีที่สุด เพราะถ้าเราแฮปปี้ ครอบครัวแฮปปี้ ก็วินๆ ทั้งคู่ อนาคตก็ไม่ต้องซิ่วค่ะ
>> รู้เขา รู้เรา รู้อนาคตตัวเอง
อีกปัญหานึงของการซิ่ว คือ ได้ไปอยู่ในมหาลัยที่ไม่ชอบ และไม่สามารถปรับตัวเข้ากับที่นั่นได้ จริงๆ แล้ว การปรับตัวเข้ากับสถานที่เรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ไม่ใช่เรื่องยากนะคะ เพียงแต่ว่าเราจะรับกับสภาพสังคมที่แตกต่างกันของแต่ละสถาบันได้แค่ไหน ในที่นี้ไม่ได้บอกว่าที่ไหนดี หรือไม่ดี เพราะในเรื่องของความรู้สึก ความคิดแต่ละคนไม่เท่ากันอยู่แล้วค่ะ
ดังนั้นถ้าเรายังไม่รู้จักคณะ หรือ สถาบันที่เราอยากไปเรียนดีพอ พี่มิ้นท์ขอให้น้องๆ เข้าไปหาข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนทำการเลือกคณะ สิ่งที่ต้องดู คือ สถานที่ตั้งอยู่ที่ไหน เดินทางยังไง บังคับอยู่หอมั้ย มีรับน้องมั้ย ไลฟ์สไตล์แต่ละวันเป็นยังไง ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ดีหรือไม่ ค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหน?? ไม่ใช่แค่เรื่องชีวิตเท่านั้น แต่ควรดูเกี่ยวกับหลักสูตร ค่าเทอม รายวิชาด้วย ว่าเราพร้อมที่จะเจอสิ่งเหล่านี้ตลอด 4 ปีได้มั้ย หาคำตอบเหล่านี้ให้ครบ ถ้าผลออกมาเราแฮปปี้กับมัน จึงค่อยเลือก แต่ถ้าไม่ตรงใจเยอะก็อย่าเลือก เราจะไม่มีความสุขไปกับมันแน่ๆ
ข้อมูลเหล่านี้ น้องๆ สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย/คณะนั้นๆ หรือมาเจอกับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เว็บเด็กดีก็ได้ บอร์ดเรามีประโยชน์มากๆ หรือไม่ก็เสิร์ชหาจากกูเกิ้ลเลยค่ะ อยากรู้อะไรได้รู้แน่นอน
อีกปัญหานึงของการซิ่ว คือ ได้ไปอยู่ในมหาลัยที่ไม่ชอบ และไม่สามารถปรับตัวเข้ากับที่นั่นได้ จริงๆ แล้ว การปรับตัวเข้ากับสถานที่เรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ไม่ใช่เรื่องยากนะคะ เพียงแต่ว่าเราจะรับกับสภาพสังคมที่แตกต่างกันของแต่ละสถาบันได้แค่ไหน ในที่นี้ไม่ได้บอกว่าที่ไหนดี หรือไม่ดี เพราะในเรื่องของความรู้สึก ความคิดแต่ละคนไม่เท่ากันอยู่แล้วค่ะ
ดังนั้นถ้าเรายังไม่รู้จักคณะ หรือ สถาบันที่เราอยากไปเรียนดีพอ พี่มิ้นท์ขอให้น้องๆ เข้าไปหาข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนทำการเลือกคณะ สิ่งที่ต้องดู คือ สถานที่ตั้งอยู่ที่ไหน เดินทางยังไง บังคับอยู่หอมั้ย มีรับน้องมั้ย ไลฟ์สไตล์แต่ละวันเป็นยังไง ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง ดีหรือไม่ ค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหน?? ไม่ใช่แค่เรื่องชีวิตเท่านั้น แต่ควรดูเกี่ยวกับหลักสูตร ค่าเทอม รายวิชาด้วย ว่าเราพร้อมที่จะเจอสิ่งเหล่านี้ตลอด 4 ปีได้มั้ย หาคำตอบเหล่านี้ให้ครบ ถ้าผลออกมาเราแฮปปี้กับมัน จึงค่อยเลือก แต่ถ้าไม่ตรงใจเยอะก็อย่าเลือก เราจะไม่มีความสุขไปกับมันแน่ๆ
ข้อมูลเหล่านี้ น้องๆ สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย/คณะนั้นๆ หรือมาเจอกับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เว็บเด็กดีก็ได้ บอร์ดเรามีประโยชน์มากๆ หรือไม่ก็เสิร์ชหาจากกูเกิ้ลเลยค่ะ อยากรู้อะไรได้รู้แน่นอน
>> จัดอันดับดี มีชัยเห็นๆ
ก่อนเลือกคณะน้องๆ ควรประเมินตัวเอง ด้วยการคำนวณคะแนนของเรา และนำไปเทียบกับคะแนนต่ำสุดของปีที่แล้ว เพื่อดูว่าคะแนนเราน่าลุ้นแค่ไหนในคณะนั้น โอกาสที่น่าลุ้น คือ คะแนนของเราสูงกว่าคะแนนขั้นต่ำ แต่ถ้ามันดันต่ำกว่า ก็สามารถเลือกได้เช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่าไม่ควรติดลบทั้ง 4 อันดับ เพราะมันเสี่ยงมากที่จะไม่ติดทั้ง 4 อันดับ และจะนำไปสู่การแอดมิชชั่นไม่ติดและไปซิ่วปีหน้า
ดังนั้นในการจัดอันดับเลือกคณะ ไม่จำเป็นจะต้องคะแนนเป็นบวกทั้งหมด แต่ขอให้เรียงลำดับจัดวางให้ดีๆ อย่าเอาคะแนนติดลบไว้อันดับท้ายๆ แค่นี้เราก็แอดติดแล้วจ้า
ในส่วนของเทคนิคการจัดอันดับ น้องๆ สามารถติดตามได้ที่ Dek-D.com นี่แหละค่ะ รับรองว่ามีเทคนิคดีๆ เพียบ รอติดตามกันนะคะ
ก่อนเลือกคณะน้องๆ ควรประเมินตัวเอง ด้วยการคำนวณคะแนนของเรา และนำไปเทียบกับคะแนนต่ำสุดของปีที่แล้ว เพื่อดูว่าคะแนนเราน่าลุ้นแค่ไหนในคณะนั้น โอกาสที่น่าลุ้น คือ คะแนนของเราสูงกว่าคะแนนขั้นต่ำ แต่ถ้ามันดันต่ำกว่า ก็สามารถเลือกได้เช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่าไม่ควรติดลบทั้ง 4 อันดับ เพราะมันเสี่ยงมากที่จะไม่ติดทั้ง 4 อันดับ และจะนำไปสู่การแอดมิชชั่นไม่ติดและไปซิ่วปีหน้า
ดังนั้นในการจัดอันดับเลือกคณะ ไม่จำเป็นจะต้องคะแนนเป็นบวกทั้งหมด แต่ขอให้เรียงลำดับจัดวางให้ดีๆ อย่าเอาคะแนนติดลบไว้อันดับท้ายๆ แค่นี้เราก็แอดติดแล้วจ้า
ในส่วนของเทคนิคการจัดอันดับ น้องๆ สามารถติดตามได้ที่ Dek-D.com นี่แหละค่ะ รับรองว่ามีเทคนิคดีๆ เพียบ รอติดตามกันนะคะ
>> อย่าเลือกเพราะคะแนนถึง (แต่ไม่ได้อยากเรียน)
น้องๆ อาจจะเคยได้ยินเทคนิคการเลือกคณะแบบให้เอาคะแนนที่เป็นบวกไว้อันดับท้ายๆ ยิ่งบวกจากคะแนนขั้นต่ำเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสติดมากเท่านั้น เชื่อว่าหลายคนยึดติดคำเตือนนี้อย่างเคร่งครัด จนลืมใส่ใจไปว่า อันดับ 3-4 ที่เราเลือกรั้งท้ายไว้ เราอยากเรียนจริงๆ หรือไม่ หรือแค่คะแนนถึงก็เลยเลือก?? เพราะกลัวไม่มีที่เรียน
เมื่อขาดสติตอนเลือกคณะ ก็ถึงคราวซวยแน่นอน เพราะถ้าติดในคณะที่เลือกไว้กันพลาด นอกจากจะไม่ได้อยากเรียนตั้งแต่แรกแล้ว ยังไม่รู้ด้วยว่าไปเรียนเราจะต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เราเรียนไม่ไหว ดังนั้นในการเลือกคณะทั้ง 4 อันดับ ควรเป็นคณะที่เราอยากเรียนหรือไม่ก็น่าจะเรียนไหว ทั้ง 4 อันดับนะคะ เพราะถ้าติดแล้วไม่เรียน และกลับมาแอดใหม่ปีหน้า ก็จะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ ก็จะเป็นการแย่งที่คนอื่นด้วยนะคะ ไม่ดีๆ
น้องๆ อาจจะเคยได้ยินเทคนิคการเลือกคณะแบบให้เอาคะแนนที่เป็นบวกไว้อันดับท้ายๆ ยิ่งบวกจากคะแนนขั้นต่ำเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสติดมากเท่านั้น เชื่อว่าหลายคนยึดติดคำเตือนนี้อย่างเคร่งครัด จนลืมใส่ใจไปว่า อันดับ 3-4 ที่เราเลือกรั้งท้ายไว้ เราอยากเรียนจริงๆ หรือไม่ หรือแค่คะแนนถึงก็เลยเลือก?? เพราะกลัวไม่มีที่เรียน
เมื่อขาดสติตอนเลือกคณะ ก็ถึงคราวซวยแน่นอน เพราะถ้าติดในคณะที่เลือกไว้กันพลาด นอกจากจะไม่ได้อยากเรียนตั้งแต่แรกแล้ว ยังไม่รู้ด้วยว่าไปเรียนเราจะต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เราเรียนไม่ไหว ดังนั้นในการเลือกคณะทั้ง 4 อันดับ ควรเป็นคณะที่เราอยากเรียนหรือไม่ก็น่าจะเรียนไหว ทั้ง 4 อันดับนะคะ เพราะถ้าติดแล้วไม่เรียน และกลับมาแอดใหม่ปีหน้า ก็จะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ ก็จะเป็นการแย่งที่คนอื่นด้วยนะคะ ไม่ดีๆ
เอาล่ะค่ะ... พี่มิ้นท์เชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่อยากเกิดมาเป็นเด็กซิ่ว เพราะมันไม่ได้มีข้อดีอยู่เลย ไหนจะต้องเสียเวลา เสียใจ เสียตังค์ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความผิดพลาดหรือประมาทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ถ้าไม่อยากตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เลือกคณะปีนี้ก็ควรตั้งสติ และนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ก่อนเลือกคณะทุกครั้งนะ
credit:dek-d
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น