เหนื่อยมั้ย? ที่ต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน สารพัดประชุมที่ต้องเข้าร่วม แม้กระทั่งคุยโทรศัพท์ ตอบอีเมลล์และกินมือเที่ยงที่โต๊ะทำงานตัวเอง ร่างกายมนุษย์เราไม่ใช่เครื่องจักรนะจ๊ะ (หรือถึงเป็นเครื่องจักรถ้าทำงานตลอดเวลาก็ยังพังได้เลย) หันมาดูแลร่างกายตัวเองกันบ้างดีกว่า ถ้างั้นลองมาดูเคล็ดลับ 6 ข้อนี้กันเลย
1. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แม้การงีบหลับสักตื่นก็ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ แต่เราควรนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเต็มที่และเพื่อให้สมองเราเปิดรับการเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยที่มีกลยุทธง่าย ๆ 2 วิธี
อันดับแรก ต้องกำหนดเวลานอนและล้มตัวลงนอนก่อนอย่างน้อย 30-45 นาที โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะกระตุ้นให้เราตื่นตัว เช่น ตอบอีเมลล์หรือคุยโทรศัพท์ เป็นต้น และหันไปหาวิธีการผ่อนคลายแทนสักอย่าง เช่น อาบน้ำอุ่น หรืออ่านหนังสือ
อันดับที่ 2 ก่อนนอนลองใช้เวลาสัก 2-3 นาทีเพื่อทบทวนดูว่ามีอะไรรบกวนจิตใจเราอยู่รึเปล่า แล้วจดใส่กระดาษไว้เพื่อกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้ทำให้คุณข่มตาหลับไม่ลง หรือว่าต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
2. พักสักนิดอย่างน้อยทุก ๆ 90 นาที การทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างแน่นอน อยากให้คุณลองใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเพื่อรีชาร์จร่างกายคุณสักหน่อย โดยลองหลับตาและหายใจเข้านับ 1 ถึง 3 และค่อย ๆ ปล่อยลมออกทางปากแล้วนับ 1 ถึง 6 ฝึกและทำเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็ช่วยฟื้นฟูร่างกาย และทำให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น
3. หมั่นจดรายการที่ต้องทำ หากมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย คุณก็ควรจดรายการเอาไว้ เพื่อที่จะเรียบเรียงและจัดการให้เป็นระเบียบ ซึ่งจะช่วยไม่ให้สมองทุกอย่างของคุณเก็บกักไว้เกินความจำเป็น
4. ออกกำลังกายและงีบหลับ ไม่มีทางไหนที่จะเคลียร์หัวสมองของคุณได้ดีเท่ากับการออกกำลังกายแล้ว และข้ออ้างสุดฮิตของคนไม่ออกกำลังกาย คงเป็น "ไม่มีเวลา" ถ้างั้นเราจะบอกว่าคุณสามารถทำได้ในช่วงมื้อเที่ยง เชื่อไหม?
ไม่ต้องสนใจเรื่องเข้ายิม หากคุณไม่มีเวลาไป เพียงแค่ใช้เวลาสัก 15 ถึง 30 นาที เดินออกไปหาอะไรกินข้างนอกในเวลาพักกลางวัน หรือแม้กระทั่งอยู่ในออฟฟิศก็ทำได้ โดยการเดินขึ้นลงบันไดก็ได้นะ
นอกจากนี้ เพียงแค่งีบหลับในช่วงเวลากลางวันสั้น ๆ สามารถช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้และจะช่วยให้สามารถทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เทียบกับคนที่ไม่ได้นอนหลับเลยหลังจากทำงานเป็นเวลานาน ๆ
5. ฝึกที่จะรู้จักชื่นชม ลองหาโอกาสชื่นชมใครสักคนและแสดงให้เขารู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับเขา โดยบอกตรง ๆ หรือเขียนโน้ตให้เขา ซึ่งจะเป็นการให้พลังด้านบวกแก่เขาและการแบ่งบันความคิดในเชิงบวกนั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นด้วย เช่นเดียวกันคุณก็ต้องหัดชื่นชมตัวเองด้วย เพื่อลิ้มรสความสุขเล็ก ๆ และให้กำลังใจตัวเองเมื่อสมควร พร้อมทั้งรู้จักให้อภัยตัวเอง เมื่อคุณผิดพลาด
6. เปลี่ยนกิจวัตรระหว่างที่ทำงานและบ้าน คนส่วนใหญ่มักจะนำงานกลับไปทำที่บ้านด้วย นั้นแสดงให้เห็นว่าคุณไม่สามารถละทิ้งงานได้เลย ทั้งที่เลิกงานแล้ว คนเราต้องผ่อนคลายกันบ้างนะ อย่าเอาตัวผูกกับงานมากเกินไปจนนำกลับไปที่บ้าน สถานที่ซึ่งควรจะเป็นที่ ๆ ทำให้คุณได้ฟื้นฟูตัวเองจากงานที่ทำมาตลอดทั้งวัน โดยที่ระหว่างทางกลับบ้านอาจจะหยุดรถแวะสวนสาธารณะ แล้วทอดอารมณ์สักเล็กน้อยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายลง ก่อนเดินทางกลับบ้านอันแสนสุข
พึงคิดไว้เสมอนะคะ ว่าร่างกายเป็นต้นทุนสำหรับการทำงาน หากเราปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลร่างกายให้ดี คุณก็ไม่สามารถเดินเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังส่งผลต่อภาวะจิตใจและอารมณ์ คุณคงไม่มีความสุขแน่ ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอด รักตัวเองก่อนรักงานนะ
ไม่ต้องสนใจเรื่องเข้ายิม หากคุณไม่มีเวลาไป เพียงแค่ใช้เวลาสัก 15 ถึง 30 นาที เดินออกไปหาอะไรกินข้างนอกในเวลาพักกลางวัน หรือแม้กระทั่งอยู่ในออฟฟิศก็ทำได้ โดยการเดินขึ้นลงบันไดก็ได้นะ
นอกจากนี้ เพียงแค่งีบหลับในช่วงเวลากลางวันสั้น ๆ สามารถช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้และจะช่วยให้สามารถทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เทียบกับคนที่ไม่ได้นอนหลับเลยหลังจากทำงานเป็นเวลานาน ๆ
5. ฝึกที่จะรู้จักชื่นชม ลองหาโอกาสชื่นชมใครสักคนและแสดงให้เขารู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับเขา โดยบอกตรง ๆ หรือเขียนโน้ตให้เขา ซึ่งจะเป็นการให้พลังด้านบวกแก่เขาและการแบ่งบันความคิดในเชิงบวกนั้นก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นด้วย เช่นเดียวกันคุณก็ต้องหัดชื่นชมตัวเองด้วย เพื่อลิ้มรสความสุขเล็ก ๆ และให้กำลังใจตัวเองเมื่อสมควร พร้อมทั้งรู้จักให้อภัยตัวเอง เมื่อคุณผิดพลาด
6. เปลี่ยนกิจวัตรระหว่างที่ทำงานและบ้าน คนส่วนใหญ่มักจะนำงานกลับไปทำที่บ้านด้วย นั้นแสดงให้เห็นว่าคุณไม่สามารถละทิ้งงานได้เลย ทั้งที่เลิกงานแล้ว คนเราต้องผ่อนคลายกันบ้างนะ อย่าเอาตัวผูกกับงานมากเกินไปจนนำกลับไปที่บ้าน สถานที่ซึ่งควรจะเป็นที่ ๆ ทำให้คุณได้ฟื้นฟูตัวเองจากงานที่ทำมาตลอดทั้งวัน โดยที่ระหว่างทางกลับบ้านอาจจะหยุดรถแวะสวนสาธารณะ แล้วทอดอารมณ์สักเล็กน้อยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายลง ก่อนเดินทางกลับบ้านอันแสนสุข
พึงคิดไว้เสมอนะคะ ว่าร่างกายเป็นต้นทุนสำหรับการทำงาน หากเราปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลร่างกายให้ดี คุณก็ไม่สามารถเดินเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังส่งผลต่อภาวะจิตใจและอารมณ์ คุณคงไม่มีความสุขแน่ ถ้าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอด รักตัวเองก่อนรักงานนะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น