ใกล้จะ แอดกลางแล้ว หลายๆคนคงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร ผมขอนำประสบการณ์ชีวิตคนนึง ซึ่งตัดสินใจผิดพลาด มาดูกันว่าพี่เค้าจะรู้สึกอย่างไร หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี
.....................................................................
เมื่อวานพ่อโทรมาบอกว่าจะออกรถให้นะ แต่จะมีเงินผ่อนรึเปล่า ด้วยความดีใจของเราก็ตอบไปทันทีว่ามีๆ ได้ๆ จะประหยัดเอา แต่พอมานั่งคิดอีกทีก็เริ่มกลุ้มๆ เพราะก็รู้ว่าตัวเองใช้เงินยังไง ยิ่งเงินเดือนก็เท่านี้อยู่ เฮ้อ!! ไม่รวยเหมือนคนอื่นบ้างนะ เลยคิดโน้นคิดนี่ ว่าทำไงถึงจะมีเงินเยอะกว่านี้ เบ้ย!! ช่างว่าเนอะ คิดๆ ก็ได้แต่คิด เลยกลับคิดถึงความชอบของตัวเองดูบ้าง
กลับไป 5 ปีที่แล้ว ที่คิดว่าจะเลือกเรียนอะไร ทำไมไอ้ footech มันขึ้นมาในหัวนะ ทำไมไอ้บริหารรึสื่อสารมวลชน มันหายไปหล่ะ ทำไมต้องฟังคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองถนัดอะไรนี่นะคนเรา ทั้งที่มีโอกาสเลือกแต่ไม่เลือก ทั้งที่ก็รู้ว่าถ้าทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบก็จะไปได้ดีกว่านี้
แต่มันก็คงสายไปที่คิดตอนนี้ คำตอบของมันเราก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม กุลธิดา!!!เธอหนิจริงๆ เลยนะ อีกปีต่อมาที่คิดจะเลือกทางเดินชีวิตใหม่ แต่ก็ต้องหยุดคิดไปอีกรอบ คงเพราะมีอะไรมาลิขิตชีวิตเราไว้แล้ว ว่าควรจะเสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไป ถึงตอนนี้เลยเสียใจจริงๆ บอกใครไปก็คงไม่มีใครเข้าใจเท่าตัวเราเองหรอก ยิ่งตอนเรียน ตอนฝึกงาน ตอนไปทำงานพิเศษ ก็เริ่มได้รู้สิ่งที่ตัวเองต้องการมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็คงได้แค่คิด ยิ่งตอนเรียนจบไปทำงานยิ่งรู้เลยว่าตัวเองเลือกทางเดินผิดไปอย่างมาก ความสำเร็จที่เคยวาดฝันเอาไว้ต้องสลายไป เหมือนคนตายทั้งเป็น ต้องทนดูชีวิตที่หดหู่ของตัวเองตามลำพัง ต้องคอยชื่นชมความสำเร็จของคนอื่นที่เขาเลือกทางเดินชีวิตที่เหมาะกับเขา
แต่สิ่งที่วาดเอาไว้ก็น่าจะเป็นจริงได้ตอนออกจากงานที่แรก ที่แม่ได้ยื่นข้อเสนอให้ทำกิจการเอง แต่ต้องทำที่บ้านและค่อยเรียนต่อไปด้วย แต่มันก็ไม่เป็นจริงไปอีกครั้งเมื่อเราเกิดเสียดายเวลาที่เสียไปกับทางที่ผิด 4 ปี เลยคิดว่าจะต้องทำให้สิ่งที่เรียนมากก่อนถึงจะเปลี่ยนสาย และด้วยความไม่อยากทำงานที่บ้านด้วย และโอกาสนั้นก็หมดไปอีกเช่นเคย
ใครว่ามีคนลิขิตชีวิตเรา ไม่มีเลย เราลิขิตชีวิตตัวเองต่างหาก
เวลาผ่านไประยะหนึ่งก็เริ่มมาคิดได้ว่าคิดผิดไปอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเราเลือกที่จะตายทั้งเป็นอีกรอบก็ได้ทำงานใหม่แล้วไง คนเรานี่ก็แปลกเนอะ ทั้งที่ไม่ชอบก็คิดที่จะเลือก ตอนนี้ไง ที่ต้องหน้าชื่นอกตรมอยู่ ต้องร้องไห้ในใจอยู่ตลอดเวลา
ตอนเรียนอาจไม่มีอะไรให้คิดมากมาย ความรัก เพื่อน เรียนๆเล่นๆ คิดแค่ว่ายังไงก็จะเปลี่ยนสายอยู่แล้ว แต่พอได้ทำงานมันไม่เป็นอย่างนั้นเลย คิดอย่างเดียวในตอนนี้อนาคตเราหล่ะ อีกกี่ปีถึงจะประสบความสำเร็จ เขาก้าวไปก่อนเราหลายก้าวนะ แล้วเราหล่ะ จะต้องทนอยู่อย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ บอกใครก็ไม่ได้ คิดว่า 2 ปีที่วางไว้มันช่างยาวนานเหลือเกิน แล้วก็กลับมาคิดถึงอดีตอีกครั้งว่าถ้าเราเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบมันคงจะได้ก้าวข้ามคนอื่นไปแล้ว ยิ่งเสียใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เราเลือกมันไม่ทำให้เราถึงเป้าหมายในชีวิต
อยากจะร้องไห้แล้วก็ถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะถึงทีของเรานะ ตอนนี้เลยคิดว่าจะต้องทำตามใจตัวเองแล้วหล่ะ ถ้าชอบอะไรก็คงทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ จะต้องเชื่อใจตัวเองให้มากที่สุด
ชีวิตเราลิขิตเอง สักวันมันจะเป็นทีของเรา แล้วเราก็จะไม่ต้องมาร้องไห้ในใจต่อไป
เมื่อถึงจุดสูงสุดในชีวิต จะกลับมามองดูการตัดสินใจของตัวเอง จะถามตัวเองว่าเลือกถูกแล้วใช่มั้ย ???
กลับมาคิดได้อีกข้อหนึ่ง ว่าสิ่งที่เราเลือก อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเราก็ได้ แต่สิ่งที่เราไม่เลือกอาจะเหมาะกับเราก็ได้นะ แต่คิดไปคิดมา นั่นแหล่ะเราเลยต้องเลือกมากไงเพื่อที่จะได้แน่ใจว่าที่เลือกมันเหมาะกับเราที่สุดแล้ว
ขอขอบคุณประสบการณ์ดีๆ จาก http://kpkul.wordpress.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น