วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

1 วันก่อนสอบ ควรเตรียมตัวอย่างไร

คืนก่อนสอบ

ทบทวนเนื้อหาที่สำคัญพอประมาณและก็ดื่มวีต้าแล้วไปนอนซะแล้วก็รีบนอน ไม่ควรจะอ่านหนังสือดึกเกินไป เพราะจำทำให้เราง่วงตอนสอบ สมองล้าทำให้คิดอะไรช้า แต่หลายคนระวังตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ก็พยายามนับเเกะเอานะ ( การกินยานอนหลับก็ช่วยได้ แต่ไม่ควรจะกินเป็นประจำนะครับ แนะนำเป็นยาแก้แพ้นะ )

สำหรับคนที่อ่านไม่ทัน เลยต้องอ่านหนังสือถึงเช้าแล้วเข้าสอบ ( ตอนอยู่มหาวิทยาลัย เป็นแบบนี้กันเยอะ ) บางก็ใช้วิธีโด๊ปเครื่องดื่มบำรุงกำลังช่วย เช่น กระทิงแดง แบรนด์ และยี่ห้ออื่น ๆ อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคส่วนตัว

แต่ในทางวิทยาศาสตร์ นักวิจัยในอเมริกาพบว่า คาเฟอีนและนิโคตินช่วยยับยั้งการดูดซึมวิตามินที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง อีกทั้งช่วงแรกอาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัวแต่ถ้าหมด ถทธ์ยาแล้ว ร่างกายจะยิ่งโทรม หรือยิ่งง่วงนั่นเอง



อุปกรณ์การสอบ

ควรจะเตรียมดินสอ ปากา ( ยางลบ ที่ลบคำผิดด้วย ) ไปหลายๆแท่งนะครับ เพื่อเกิดเหตุฉุเกิน ดินสอเกิด Error ตอนสอบจะได้แก้ไขทันที สำหรับดินสอ ก็แนะนำไส้ขนาดมาตราฐาน คือ 2B นะครับ ครั้งก่อนมีคนใช้ EE แล้วเครื่องไม่ตรวจนะครับแต่ยังดีที่ สทศ อนุโลม แต่ครั้งนี้ก็ไม่แน่ใจว่า สทศจะใจดีเหมือนครั้งก่อนมั้ย และที่สำคัญอย่าลืมบัตรนักเรียน บัตรประชาชน บัตรเข้าห้องสอบ และอื่นๆ ที่ทางผู้จัดสอบต้องการ

( หลายคนแนะนำ ให้ใช้ 4B เพราะหัวจะใหญ่ ทำให้ประหยัดเวลาในการฝนกระดาษคำตอบ แต่ถ้าฝนผิดทีจะลบนี่ลำบากพอควร )



ตื่นนอน

ตามหลักการของนักปลุกพลังระดับโลกนะ เขาแนะนำให้ตื่นนอนมามาตะโกนดังๆ กับตัวเอง " เราทำได้ เราทำได้ เราทำได้ " ( ใช้คำอื่นก็ได้ตามศรัทธา เช่น หนูทำได้ สู้เพื่อแม่ 55 ) มันจะเป็นการฝังโปรแกรมเข้าไปในจิตใจลงสู่สามัญสำนึกของเราให้มีกำลังใจ และพลังในการทำข้อสอบ ( ควรจะทำหลายๆ วันก่อนสอบ )

อย่าลืมฝากบอกคนที่บ้านช่วยปลุกด้วยเพื่อตื่นสาย บอกให้เพื่อนโทรหาด้วยก็ดี เพื่อความปลอดภัย



อาหารเช้า

นโปเลียนกล่าวไว้ว่า กองทัพเดินด้วยท้อง ในการสอบอาหารในเมื้อเช้าก็สำคัญมากเช่นกัน ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่าอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อแรกที่สำคัญที่สุดของวัน อาหารเช้าจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า มีสมาธิทั้งในการเรียนและการทำงาน โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เค็ม ด้วยนะครับเพราะคงไม่มีใครอยากเข้าห้องน้ำตอนสอบ =__=

ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด พบว่า กลุ่มคนที่กินคาร์โบไฮเดรตอย่างเดียวมากเป็นสองเท่า จะมีปัญหาเรื่องของสมาธิและการใช้สมอง มากว่าคนที่กินแต่เนื้อสัตว์ เค้าอธิบายว่า เกิดจากระดับฮอร์โมนอินซูลีนในเส้นเลือดดำที่มากเกิดไป อันนี้แพทย์น่าจะเข้าใจกันดี เอาเป็นว่า เค้าแนะนำให้ก่อนประชุมหรือใช้สมอง ควรหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่มีอยู่ในอาหารประเภทข้าว มันสำปะหลัง

ก่อนออกจากบ้าน

อย่าลืม กราบไหว้ ขอพร จากพ่อแม่ ก่อนออกจากบ้านด้วยนะ เพื่อความเป็นศิริมงคล



การเดินทาง

ต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน และต้องแน่ใจว่าเขานัดสอบที่ใด ห้องไหน ถ้าไม่แน่ใจให้เดินทาง ไปดูล่วงหน้าก่อน ควรเดินทางไปถึงที่สัมภาษณ์ล่วงหน้าประมาณสัก 15-30 นาที จะทำให้เรามีสมาธิ และมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น แต่ถ้าไปถึงล่วงหน้าเป็นชั่วโมง ก็ดีแต่อาจจะทำให้คุณรอนานอาจเกิดความหงุดหงิด เสียสมาธิได้

สำหรับ O-NET จะสอบที่โรงเรียนตัวเองก็ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องสถานที่ แต่สำหรับคนอยู่ใน กทม หรือเมืองใหญ่ ก็เพื่อเวลาการเดินทางสำหรับ รถติด ฝนตก ไว้ด้วยนะครับ ( ถ้าเป็นเกาหลี เรียกว่าปิดประเทศ เพื่อให้เด็กสอบเลยครับ เพราะอย่างช่วงเช้า ทั้งรัฐและเอกชนจะเลื่อนเวลาทำงานให้ เพื่อไม่ใก้การจราจรติดขัด เครื่องบินก็ห้ามบินขึ้นลง เพื่อจะไม่ให้มีเสียงรบกวนด้วย ดีเนอะ )



เมื่อถึงโรงเรียน สนามสอบก่อนเข้าห้องสอบ

บางคนก็ถือเคล็ด กราบไหว้สิ่งศักสิทธ์อีกรอบ แต่ที่สำคัญคือพยายาม ตั้งสติ สมาธิทบททวนเนื้อหาบทเรียนที่เตรียมมาอีกสักนิด หรือแลกเปลี่ยน เกงข้อสอบกับเพื่อนอีกสักหน่อย และตรวจเชค อุปกรณ์การสอบอีกสักรอบ



แอร์เย็น + เสียงดัง

อันนี้แนะนำให้เตรียมไปก่อน นะครับ เพราะว่า ไม่แน่ใจว่าแต่ละสนามสอบ แอร์เย็นแค่ไหน เพราะบางที่แอร์เย็นสุด ๆ เล่นทำเอาสมองหด เลย แต่บางสนาม ขอบอกเสียงดังมากๆ ยิ่งบางแห่งมีรถไฟด้วย รถไฟมาที่ โต๊ะสอบสะเทือนกันเลยทีเดียว



เข้าห้องสอบ

โบราณเขาว่า ขวาร้าย - ซ้ายดี 555 ดังนั้นก้าวขาซ้ายก่อนละกัน ….. ในการสอบใหญ่ เรื่องกฎระเบียบจะสำคัญมากนะครับ กรุณาทำตามกฎอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่เข้าใจก็ยกมือให้อาจารย์คุมสอบเดินมาหาเราเอง

สำหรับการทำข้อสอบ ก็ ทำสุดความสามารถ ทำข้อง่าย ก่อนนะครับ บริหารเวลาดีดี ไม่เสียเวลากับข้อสอบข้อใด้ข้อหนึ่งมากเกิน แต่ก็ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไปเพราะยังไงก็ออกจากห้องสอบก่อนไม่ได้ และที่สำคัญ อ่านคำสั่งให้ดีก่อนทำข้อสอบ รวมถึง ฝนและเขียนชื่อ รหัสต่างๆให้ครบด้วยนะ

เรื่องทวนข้อสอบเมื่อทำเสร็จแล้ว บางคนบอกว่า ยิ่งแก้ยิ่งผิด 555 อันนี้ก็อยู่ที่วิจารณญาณส่วนบุคคลนะครับ แต่ผมก็คิดว่าทวนก็ยังดีกว่าไม่ได้ทวน



สุดท้ายก็ขอให้โชคดีในการสอบ

ไม่มีความคิดเห็น: