คนที่มีไอคิวสูง มักได้รับความชื่นชมและเป็นที่ยอมรับ เวลาเรียนคุณครูก็ชอบมากๆ เพราะสอนอะไรไปก็เข้าใจหมด จำได้ทันที ทำให้ใครๆ หลายคนอยากเป็นคนมีไอคิวสูงบ้าง เผื่อจะฉลาดเหมือนอย่างเค้า
แต่เดี๋ยวนี้นอกจากจะมีเรื่องความฉลาดทางสมองที่สำคัญแล้วมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ อีคิว (EQ-Emotional Quotient) หรือความฉลาดทางอารมณ์นั่นเองค่ะ
IQ -Intelligence quotient หรือเชาว์ปัญญา ก็คือ ความฉลาดในทางตรรกะ
E.Q. (Emotional Quotient) หรือเชาวน์อารมณ์ คือความฉลาดทางอารมณ์ สามารถควบคุมความรู้สึก รู้จักยับยั้งชั่งใจ มีความเมตตากรุณา ซึ่งคนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ อีคิวจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากกว่าไอคิวค่ะ
ในปี ค.ศ.1995 Daniel Goleman ได้ทำการวิจัย เขียนหนังสือเรื่อง EQ และได้สรุปออกมาว่า อีคิว หรือความฉลาดทางอารมณ์ประกอบด้วย
1.ความสามารถส่วนตัว (personal competence)ที่จะตระหนักรู้อารมณ์ตนเอง(self awareness) รู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง (self regulation)และสามารถสร้างแรงจูงใจด้วยตนเองได้ (self motivation)
2.ความสามารถในการเข้าสังคม (social competence) ในการเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น (empathy) และทักษะการเข้าสังคม (social skill) คือสร้างและรักษาความสัมพันธ์ได้นาน
ดังนั้น การเรียนเก่งอย่างเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด หรือคำตอบสุดท้ายหรับการที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะต่อให้น้องๆเรียนจบสูงๆ ได้ปริญญาเอกหลายใบ แต่ถ้าไม่มีความสุข ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน
อยู่ที่โรงเรียน น้องๆ ก็สามารถพัฒนาอีคิวได้เหมือนกันค่ะ เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม การทำกิจกรรม เล่นกีฬา โดยเฉพาะกิจกรรม บางทียังได้คะแนนพิเศษเอาไว้หางานทำหรือหาที่เรียนต่อได้ด้วยนะคะ เช่น ถ้าเคยเป็นกรรมการนักเรียน เป็นประธานนักเรียน ผู้นำเชียร์ ฯลฯ ตรงนี้น้องๆ สามารถเอาไปเขียนลงใบแนะนำตัว หรือใบสมัครงานได้ เป็นคุณสมบัติพิเศษ ให้เตะตาเข้าไว้ อิอิ
น้อง ๆ มีงานอดิเรกกันไหมคะ ไม่ว่าจะ เล่นกีฬา เล่นดนตรี ร้องเพลง วาดภาพ ปลูกต้นไม้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น้องๆ ชื่นชอบ และรักที่จะทำโดยไม่มีการบังคับ น้องๆ ก็จะแฮปปี้เวลาทำ แถมยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อย่างดีด้วย งานอดิเรก จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เรามีอีคิวสูงขึ้นค่ะ
ลงแข่งขันบ้างอะไรบ้าง ถ้ามีโอกาส ไม่ว่าจะแข่งดนตรี กีฬา ร้องเพลง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะสอนให้น้องๆ รู้จักการแก้ ชนะ ให้อภัย ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้จักจุดอ่อน จุดด้อยของตัวเอง คนที่อีคิวสูง พอแพ้จะไม่เครียดมาก หรือท้อแท้เกินไป แต่สามารถปรับอารมณ์ให้เข้ากับความผิดหวังได้ มองโลกอย่างที่เป็น ไม่ใช่อย่างที่อยากให้เป็น เข้าใจคนอื่น มีความอดกลั้น
ที่สำคัญคือ "ความคิดสร้างสรรค์ จะเกิดขึ้นกับผู้มีอีคิวสูงค่ะ" คนกลุ่มนี้มันมีอารมณ์ศิลป์ ทำให้มีจินตนาการสูง เช่น มองดาวบนท้องฟ้า ก็อาจจจินตนาการไปถึงจักรวาล หลุมดำ สิ่งมีชีวิตนอกโลก ฯลฯ คนชอบดนตรี เผลอๆ แต่งเพลงได้เพลงนึงเลย หรือบางคนชอบงานเขียน ก็แต่งนิยายได้เหมือนกันค่ะ อิอิ
นอกจากน้องๆ จะให้ความสำคัญการการพัฒนาสมอง เพิ่มทักษะไอคิว ให้ฉลาดกันไปข้างแล้ว อย่าลืมที่จะพัฒนาทางด้านอารมณ์กันด้วยนะคะ การเป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี ทำให้เราเผชิญปัญหาต่างๆ ได้ดี เวลาสอบก็ไม่เครียดมาก เวลาทำงานกลุ่มกับคนมากๆ ก็ไม่มีปัญหา ใครๆก็อยากร่วมงานด้วย ดีว่าเก่งแต่ไม่มีสังคมนะคะ
ชาว Dek-D.com หล่ะคะ อยากเป็นคนที่มีไอคิว หรืออีคิวสูงมากกว่ากัน แต่พี่แนนว่า มีไปพร้อมๆ กัน จะดีมากกว่า หรือใครมีประสบการณ์เกี่ยวกับคนที่ไอคิวหรืออีคิวมีปัญหา ลองมาเล่าให้ฟังกันเลยค่ะ เย้ๆ
Credit:Dek-d
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น