ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาที่ฟังยาก เนื่องจากภาษาอังกฤษจะมีการเชื่อมเสียงระหว่างพยางค์ และมีการกร่อนเสียงในคำที่ไม่มีความสำคัญในประโยค ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พูดจะพูดเร็วมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะอเมริกันที่พูดราวกับว่าจะทำยังไงก็ได้ให้จบประโยคเร็วที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าความสามารถของคนเราอย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้ผมจึงได้นำเอา เทคนิกในการฝึกการฟังภาษาอังกฤษ มาฝากกัน หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ
1. เริ่มจากการฟังอะไรที่ง่ายๆ จะได้มีกำลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้รวมทั้งที่เป็น slow speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น normal speed ซึ่งการฝึกฟังช้า ๆ จะทำไรเราชินกับสำเนียง และสำนวนพูด’
1. เริ่มจากการฟังอะไรที่ง่ายๆ จะได้มีกำลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้รวมทั้งที่เป็น slow speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น normal speed ซึ่งการฝึกฟังช้า ๆ จะทำไรเราชินกับสำเนียง และสำนวนพูด’
2. ฟังเรื่องที่เราถูกใจ เพราะจะนำไปสู่ความสุขใจ ใส่ใจ และเข้าใจ มากกว่าฟังเรื่องที่เราไม่ค่อยสนใจหรือต้องทนฟัง
3. ให้ฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้น ๆ ในระยะเริ่มต้น ถ้าฝึกฟังเรื่องที่ยาวเกินไปจะทำให้สมองล้ารับไม่ไหว
4. ฟังพร้อมอ่าน หรืออ่านก่อนฟัง หรือฟังแล้วอ่าน จะฝึกแบบไหนก็ตามถนัด การอ่านจะช่วยผ่อนแรงในการสร้างความเข้าใจเรื่องที่ฟัง
5. ฟังพร้อมดูวีดิโอ การที่สามารถรับสารผ่าน 2 ประสาท คือ ทางหูและทางตา จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้ามี subtitle ให้อ่านพร้อมกับชมภาพวีดิโอที่เคลื่อนไหว ยิ่งช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีก
6. ฝึกฟังน้อยๆ แต่ฟังบ่อยๆ ดีกว่าฝึกฟังนาน ๆ แต่ไม่บ่อย เพราะฉะนั้นการฝึกฟังวันละ 15 นาทีแต่ฟังทุกวันใน 1 สัปดาห์ ย่อมดีกว่าในสัปดาห์หนึ่งฟังนานถึง 2 ชั่วโมง แต่ฟังครั้งเดียว
7. ลองฟังโดยใช้หูฟัง จะได้ยินสำเนียงชัดขึ้น ช่วยให้ง่ายในการฝึกออกเสียงตาม แต่อย่าเปิดเสียงดังเกินไปนะครับ ฟังนาน ๆ เดี๋ยวจะหูตึง
8. ฝึกฟังพร้อมพูดตาม การฝึกพูดตามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า เราฟังได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราฟังได้ถูกต้องเราก็น่าจะพูดได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ การฟังโดยมีภาระที่จะต้องพูดให้ได้ตามที่ฟังจะทำให้เราใส่ใจในการฟังมากขึ้น ไม่ใช่ฟังสักแต่ว่าฟัง
9. ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราจะอุทิศเวลาวันละ 20 – 30 นาทีเพื่อการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ทั้ง 1 ใจไปพร้อมกับ 2 หู ถ้าให้แต่หูไม่ให้ใจฝึกฟังเท่าไร ๆ ก็มักไม่ค่อยได้ผล
10. ฟังด้วยความสุข ถึงยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ไม่ได้แปลว่าฟังไม่ได้เรื่อง แม้ในระยะแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าท้อ แต่เรียนภาษาอังกฤษไม่มีทางลัด คนที่เอาแต่มองหาทางลัดและไม่ค่อยตั้งใจเดินไปตามทางตรงที่มีให้เดิน จะเดินไปถึงปลายทางได้ช้ากว่าคนที่ตั้งใจเดินไปตรงๆเสียอีก
ที่มา: mmeschool.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น