หลายคนที่เรียนมหาวิทยาลัย ต่างก็ต้องได้ยินเรื่องเล่า ความเชื่อต่างๆ ของมหาวิทยาลัยที่เราเรียนกันมา ว่าห้ามทำนู้น อย่าทำนี่ เพราะจะเรียนไม่จบ ติดเอฟ ซิ่ว ต่างๆนาๆ เอาหล่ะวันนี้ teen.mthai จึงรวบรวมเรื่องแปลก ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย มาฝากเพื่อนๆ กันคะ ไปดูซิจะมีเรื่องเล่าอะไรบ้าง ^^ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาเป็นเพียงความเชื่อของแต่ละบุคคล O,O..
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ห้ามเด็ดใบชงโค, ห้ามถ่ายรูปกับบันไดนาคเทวาลัย บริเวณแถบคณะอักษรศาสตร์จะมีต้นไม้ ต้นใหญ่ที่มีมานาน กว่า 30 ปี คือต้นชงโค โดยชาวคณะอักษรฯเชื่อกันว่า ใบชงโคหน้าคณะนั้น “ห้ามเด็ด เด็ดขาด” เพราะจะถือว่านำใบไม้ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถาบัน พร้อมกับห้ามถ่ายรูปหน้าบันไดนาคที่เทวาลัย หากใครถ่ายก็จะเรียนไม่จบสมควรเก็บไว้ถ่ายตอนวันสำเร็จการศึกษาแล้วเท่านั้น
- สระน้ำจุฬาฯ ในวันลอยกระทง ชายหญิงคนใดที่ยังไม่ได้เป็นคู่กันแล้วไปลอยกระทงร่วมกันจะได้เป็นคู่กัน แต่ถ้าเป็นคู่กัน แล้วไปลอยกระทงร่วมกันจะแยกจากกัน
- บันไดหน้าตึกขาวคณะวิทยาศาสตร์ เดิมทีนั้นตึกขาวคณะ วิทยาศาสตร์ เคยใช้เป็นที่เรียนของคณะแพทยศาสตร์ และที่ใต้บันไดเคยใช้เป็นที่เก็บอาจารย์ใหญ่ เชื่อกันว่า ห้ามนิสิตปี 1 คณะวิทยาศาสตร์ เดินขึ้นบันไดนี้ มิฉะนั้น จะถูก Retire
- บันไดกลางคณะครุศาสตร์ เชื่อกันว่า ถ้านิสิตปี 1 เดินผ่านขึ้นลงบันไดกลางแล้วจะเรียนไม่จบ แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้แล้วเดินผ่านก็ถือว่า “ผู้ไม่รู้คือผู้ไม่ผิด”
- เวลาต้องการพึ่งบารมีของเสด็จพ่อร.๕ ให้ขอ ไม่ให้บน
2. วิ่ง “8 กรกฎ” ไม่ถึงไม่ได้ “เอ” -
มหาวิทยาลัยบูรพา
มหาวิทยาลัยบูรพา ก็เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่เชื่อเรื่องนี้เช่นกัน แต่ความเชื่อของที่นี่ต้องใช้ความทรหดเอาการ ในความเชื่อที่แลกด้วยความอดทนต่อการวิ่งและจะได้มาซึ่งเกรดเอที่ปรารถนา
ความเชื่อของที่นี่เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานแล้ว ถ้าไม่ทำจะเรียนไม่จบ คือ ทุกปีในวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของมหาวิทยาลัย รุ่นพี่จะนำนักศึกษาน้องใหม่ชั้นปีที่ 1 วิ่งจากเขาสามมุก กลับมาที่มหาวิทยาลัยเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร และพอเมื่อวิ่งมาถึงประตูหน้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ จะมีตัวเอให้เหยียบ ถือเป็นเคล็ดให้สอบได้เกรดเอ
วิ่ง “8 กรกฎ” จะมีขึ้นในช่วงรับน้องแรกๆ เพื่อแสดงให้น้องเห็นถึงความพยายามกว่าจะถึงเส้นชัย ก็จะมีความยากลำบาก แต่หากใครขี้เกียจวิ่งหรือเหนื่อยก่อนกลางทางไม่ได้มาเหยียบเอตรงบริเวณประตูหน้ามหาวิทยาลัยก็จะเชื่อกันว่าว่าจะเรียนไม่จบ ตรงนี้จะเชื่อไม่เชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่น้องๆส่วนใหญ่ก็จะปฎิบัติตามทุกคน
3. ห้ามข้ามเครื่องแต่งกาย และอย่าหยิบหัวโขนมาใส่เล่น - วิทยาลัยนาฎศิลป์
เรื่องนี้เป็นความเชื่อของหลากหลายสถาบันที่มีการเรียนการสอนนาฎศิลป์ไทย ที่โดยเชื่อกันในเรื่องความเป็นศิษย์และความเป็นครู ซึ่งแต่ละปีนั้นจะจัดพิธีสำคัญอย่างพิธีครอบครูขึ้นมาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับนักเรียนนักศึกษา
“พิธีครอบครู” หมายถึง การนำศีรษะครูมาครอบ (รับเป็นศิษย์) และครูจะคอยควบคุมรักษา ครูจะอยู่กับศิษย์คอยช่วยเหลือให้ศิษย์มีความจำในกระบวนการรำ จังหวะดนตรี หากมีสิ่งใดที่ไม่งามจะเกิดขึ้นกับศิษย์ ครูจะช่วยปัดเป่าให้พ้นจากตัวศิษย์ ทำให้ผู้เรียนมีกำลังใจ มีความมั่นใจมากขึ้น และพิธีครอบครูนั้น ผู้ศึกษานาฏศิลป์ทุกคนถือว่าเป็นพิธีสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้ที่ศึกษาปฏิบัติท่ารำที่อยู่ในระดับสูง เช่น การรำเพลงหน้าพาทย์ ก่อนจะรำผู้ศึกษาจะต้องผ่านพิธีครอบครูก่อนจึงจะต่อท่ารำให้ได้รับครอบเป็นประธานประกอบพิธีไหว้ครูและครอบครูต่อไป
โดยอีกหนึ่งวิธีความเชื่อที่ปรากฎมาเป็นวิธีปฎิบัติต่อความเชื่อ ในทีนี้ คือ หากนักเรียน หรือนักศึกษาสาขานาฎศิลป์คนไหนยังไม่ได้ทำการครอบครู ก็เชื่อกันว่า ห้ามสวมเครื่องแต่งกายและหัวโขนมาใส่ในการแสดง จะไม่เป็นมงคลและอาจเกิดอำนาจลี้ลับว่าอาจจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับผู้นั้นได้
ขวัญ –เฉลิมขวัญ ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฎศิลป์ กรุงเทพ บอกเรื่องความเชื่อในครูที่เป็นสิ่งลี้ลับประจำเครื่องแต่งกาย ประจำเครื่องดนตรี และประจำเครื่องประกอบการแสดงชั้นสูง เป็นความเชื่อที่สำคัญและถูกปลูกฝังกันแบบรุ่นสู่รุ่นและปฎิบัติกันมาอย่างเคร่งครัด
“เรื่องการปฎิบัติตัวและข้อห้ามต่างๆครูก็จะเป็นผู้บอกว่าห้ามทำอย่างนี้ อะไรควรทำไม่ควรทำและก็จะมีรุ่นพี่คอยเตือนอีกรอบ โดยปกติวิทยาลัยนาฎศิลป์ก็จะครอบครูกันปีละครั้ง คนที่ยังไม่ได้ครอบครูก็จะห้ามใส่หัวโขน แต่หากครอบแล้วก็สามารถสวมหัวโขนขึ้นแสดงได้ แต่ถ้าหากนำมาใส่เล่น ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ห้ามกันเลย อีกทั้งยังห้ามเดินข้ามเครื่องแต่งกายชุดแสดงเพราะถือว่าเป็นผ้าไทยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าอาจจะโดนของเข้าได้หากทำผิดสิ่งที่ได้ห้ามบอกกันไว้ทั้งสองอย่างนี้”
4. วิ่งไม่ถึงดอยก็เรียนไม่จบ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยมีประเพณีรับน้องขึ้นดอย โดยเชื่อว่าถ้า นักศึกษาปี 1 เดินจากมหาวิทยาลัยขึ้นไปถึงยอดดอยสุเทพระยะทาง 14 กิโลเมตรได้ จะเรียนจบภายใน 4 ปี ส่วนอีกความเชื่อเป็นเรื่องที่บอกต่อๆ กันมาว่าห้ามนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบถ่ายรูปกับศาลาธรรมที่อยู่ตรงประตูหน้ามหาวิทยาลัย เพราะจะทำให้เรียนไม่จบ และจะถ่ายได้ก็ต่อเมื่อเรียนจบแล้วเท่านั้น
5. ห้ามขอพรเรื่องความรัก – มหาวิทยาลัยรังสิต
มณฑปพระศรีศาสดา ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางมหาวิทยาลัยรังสิตที่เป็นดั่งศูนย์รวมแห่งศรัทธาในบวรพุทธศาสนา ก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่มีความเชื่อประกอบเช่นกัน บรรดาคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา ตลอดจนผู้เดินทางมาเยี่ยมเยือนมหาวิทยาลัยรังสิตโดยทั่วไป ต่างก็กราบไหว้ขอพรกันตามปกติโดยสิ่งที่ผิดปกติไปจากรั้วถิ่นมหาวิทยาลัยอื่น ชาวรังสิตทุกคนจะรู้กันดีว่า คือ เรื่ององการขอพรหรือ “การบน”จากที่เคยสามารถขอพรกันได้หมดตามศรัทธา แต่สำหรับพระศรีฯหรือ ศรัทธาแห่งชาวรังสิตแล้ว ห้ามขอในเรื่องของความรักเด็ดขาดเพราะมิฉะนั้นก็จะเรียนไม่จบ
“อิง-จิราภรณ์ ตุลาผล” ศิษย์เก่าคณะศิลปศาสตร์ ขณะนี้ปฎิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำมหาวิทยาลัยรังสิต อิงเล่าว่าเวลารับน้องนั้นรุ่นพี่จะบอกต่อๆกันมาถึงเคล็ดลับในการขอพรให้สำเร็จว่าให้ขอและตั้งจิตอธิษฐานดีๆโดยเฉพาะช่วงสอบ แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามขอเลยทีเดียวก็คือห้ามขอเรื่องความรัก
6. ใครใส่ชุดครุย หรือสวมหมวกบัณฑิตก่อนเรียนจบ ก็จะเรียนไม่จบ!
จริงแท้แน่นอนยังไงก็ไม่มีใครทราบได้ แต่ท้ายสุดแล้วนั่นก็เป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นกันมาอย่างนมนาน ที่บรรดานิสิตนักศึกษาต่างๆก็ได้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป และปฎิบัติตามบ้างไม่ตามบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
เราคงเคยได้ยินว่า วันสำคัญของเรา จงอย่าออกไปไหน มีข่าวการเสียชีวิตของคนบางจำพวก เช่น นาคที่จะบวชเป็นพระเสียชีวิตก่อนได้บวช เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเสียชีวิตก่อนได้แต่งงาน นักศึกษาเสียชีวิตก่อนได้รับปริญญา เป็นต้น บางครั้งไม่ได้เสียชีวิตหรอก แต่ก็เป็นเหตุให้งานสำคัญๆของเราต้องหยุดไปหรือเสียหายไป ทั้งนี้ท่านว่า เวลาเราจะมีงานอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น การบวชของผู้ชาย การแต่งงาน การรับปริญญา เป็นต้น งานเหล่านี้มีครั้งเดียวในชีวิต คนโบราณจึงห้ามมิให้คนเหล่านี้เดินทางไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะท่านว่าคนประเภทนี้เนื้อหอมมากนักแล คือจะหอมกับภูตผีวิญญาณทั้งหลาย และสัตว์ทั้งหลาย
เช่น คนจะบวชเป็นพระจะเนื้อหอมมาก แม้แต่กับสตรีก็เช่นกัน อะไรก็ตามที่จะทำให้การบวชพินาศลง สิ่งนั้นก็ถือเป็นมารทั้งสิ้น ดังนั้นในวันสำคัญแบบนี้ของคุณ จงอย่าไปไหน ให้อยู่กับบ้านกับที่ ให้ผ่านพิธีสำคัญไปก่อน เช่น แต่งงานเสร็จแล้ว รับปริญญาเสร็จแล้ว เป็นต้น แต่ยังไงก็ตามเรื่องนี้ก็พึงสอนในเรื่องความไม่ประมาท มนุษย์เราไม่ควรประมาทเลย ไม่ว่าในเรื่องใด
7. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต
มีความเชื่อที่บอกต่อกันมาว่า ถ้าอยากเรียนจบ ห้ามนับเป็ดที่ว่ายในสระน้ำหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนอีกเรื่อง คือ ห้องเรียนในมหาวิทยาลัยทุกห้องจะมีประตู 3 บาน คือ ประตูหน้า กลาง หลัง แต่ที่มหาวิทยาลัยจะล็อคประตูกลางทุกห้องไม่เปิดให้นักศึกษาเข้า-ออก เพราะเชื่อว่าถ้านักศึกษาออกประตูกลาง จะทำให้ออกกลางคัน
8. มหาวิทยาลัยนเรศวร
ก็มีความเชื่อเรื่องเรียนไม่จบเหมือนกัน เชื่อกันว่าถ้านักศึกษาไม่เข้าพิธีบวงสรวงพระนเรศวรในวันรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย จะเรียนไม่จบ ในวันนั้นนักศึกษาปี 1 ทุกคณะจะมารวมตัวกันทำพิธีบวงสรวง ซึ่งเป็นพิธีทางพราหมณ์
9. มหาวิทยาลัยศิลปากร
ว่ากันว่า ที่วิทยาเขตเพชรบุรี ห้ามสวด คาถาชินบัญชร สาเหตุนึงที่ห้ามไว้ เนื่องจาก ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นป่าช้าเก่า มีสิ่งลี้ลับและวิญญาณอยู่จำนวนมาก แทบทุกตารางนิ้วเลย คาถาชินบัญชรจะอัญเชิญเทพเทวดาลงมา และมาทับที่ที่เค้าเคยอยู่ เค้าก้อจะไม่ยอม เล่ากันว่าเคยมีเด็กลองสวดแล้วเกือบส่งโรงพยาบาลไม่ทัน แต่อีกกระแสนึง ผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่าไม่เป็นอะไร
10. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มีตำนานว่าถ้าหนุ่มสาวคู่ไหนขี่จักรยานผ่าน Loving Way ตอนเที่ยงคืนก็จะได้เป็นแฟนกัน แต่ถ้าเกิดหลงเข้าไปใน breaking way ก็จะเลิกกันทันที * Loving Way บางคนก็บอกว่า ให้ผู้หญิงขี่ ผู้ชายซ้อน ถึงจะรักกันๆ แต่บางคนก็บอกว่า แค่ไปด้วยกันก็จะเป็นแฟนกัน ตกลงว่า ถ้ามันจะเป็นแฟนกันจิงๆ ป่านนี้นู๋เป็นแฟนคนขับมอร์ไซค์ไปแล้วว
- หากคู่รักคู่ใดที่ได้ลอยกระทงด้วยกันที่สระน้ำหน้าหอประชุมใหญ่ จะต้องเลิกกันในที่สุด
- มีเรื่องเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นว่า นิสิตคนไหนที่ได้เห็นเต่าในมหาลัยแล้วละจะเรียนไม่จบในสี่ปี เพราะงั้นเวลาเดินผ่านหนองน้ำต่างๆ ในมหาลัย ทุกคนจะพยายามมองไปทางอื่นกัน แต่ถ้าเห็นกระรอกเผือกก่อนสอบวิชาไหน ก็จะได้เอในวิชานั้น (แต่ถ้าเห็น”กะ-ลอก” โดนพักการเรียนแน่นอน)
- เด็กวิศวะต้องมีวันแจกดอกกุหลาบ ตรงสามแยก เค้าว่ากันว่า ถ้าเฟรชชี่วิศวะคนไหน มอบดอกไม้ให้สาวไม่ได้ จะเรียนไม่จบ และเค้าว่ากันว่า… สาวไหนที่เผลอไปรับดอกไม้ของเฟรชชี่วิศวะ ก็จะเรียนไม่จบ รับมาแล้วก็ต้องเอาไปคืนให้ได้ เป็นวันที่โรงอาหารคณะวิดยาจะวุ่นวายมากๆ วันนึง
11. มหาวิทยาลัยหอการค้า
นักศึกษาที่ “ม.หอการค้าไทย” เชื่อว่าห้ามสบตาเต่าในบ่อน้ำไม่งั้นจะเรียนไม่จบ (หากนับเต่าแล้วได้กี่ตัว ก็จะได้ F ตามจำนวนเต่านั้น), ในสวนญี่ปุ่นห้ามข้ามสะพานไม่งั้นจะเรียนไม่จบ, ถ้าใครคิดว่าเกรดดีเป็นคนเรียนเก่ง ให้กลับไปคิดใหม่ได้เลย เพราะเกรดดีตามภาษาม.แห่งนี้ึคือเกรดD+และD ตามออกเสียงภาษาอังกฤษ
12. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เขาว่าใครกลั้นหายใจผ่านสะพานขาวจะได้เข้าเรียนที่ม.ข. สะพานขาวอยู่ข้างสระพลาสติก, วิ่งกลั้นหายใจข้ามสะพานขาว แล้วจะขอพรอะไรก้ได้ 1 ข้อ (คำเตือน อาจตายก่อนจะวิ่งพ้นสะพาน), ถ้าไปบนที่ศาลเจ้าพ่อมอดินแดงตอนเที่ยงคืนจะสมหวัง (แต่น่ากลัวมากๆๆๆๆ), เขาว่าเด็กวิศวะที่ยังไม่จบ ห้ามถ่ายรูปกับเกียร์ เด็ดขาด มิฉะนั้น อาจจบเห่ได้, ถ้าชาย-หญิงคู่ไหนที่นับเสาสะพานขาวคนละด้านของสะพานได้เท่ากัน จะได้เป็นแฟนกัน(จริงๆ มันไม่เท่ากัน)
- “เจ้าพ่อมอดินแดง” คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาว มข. มีคนนำช้างกับม้ามาถวายท่านเจ้าพ่อ เฉลี่ย วันละ 100 ตัว
13. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
“พระสิทธิธาดา” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย เราก็มักจะพบว่าบรรดานิสิตนักศึกษาที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ทำการเข้ากราบไหว้ ขอพรต่างๆ ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องของความรัก
- มีบ่อน้ำคั่นทางเดินระหว่างตึก 1 กะ 2 ซึ่งมีสะพานเล็กๆสวยเก๋ตั้งอยู่ที่นั่น ซึ่งลือกันว่าถ้าใครข้ามสะพานนี้จะเรียนไม่จบ (เด็กปี 1 เข้าใหม่หลายคนข้ามสะพานนี้มากันเยอะแล้ว แต่ไม่ปรากฏผลลัพธ์), พระสิทธิธาดาเป็นสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ที่นักศึกษาเคารพบูชา
- มธบ. ห้ามมองเต่า ไม่งั้นสอบตก
14. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลายคนบอกว่า สัตว์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต คือ “ตัวเงินตัวทอง” ซึ่งนักศึกษาคนไหนไม่เคยเห็นถือว่าโคตรเชย โดยเฉพาะตอนสอบว่ากันว่า ถ้าใครเห็นตัวเงินตัวทองตอนสอบจะทำข้อสอบได้ /
- “สะพานดาว” ว่ากันว่า ถ้าตะโกนชื่อคนที่เราชอบจนสุดสะพานจะสมหวังในความรัก
- ว่ากันว่า ถ้าคู่รักใดปั่นจั๊กขึ้น “สะพานปลาหน้าตึกวิศว”ได้จะรักกันตลอดไป และถ้าใครไปถ่ายรูปคู่กับพญานาค ที่ลานพญานาคหน้าเมนสเตเดียมจะเรียนไม่จบเช่นกันถ้าใครถ่ายรูปคู่กับโดมก็จะเรียนไม่จบ
15. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม “ศาลกระดิ่ง”
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาว มมส ให้ความเคารพนับถือ เนื่องจากมีมานานสมัยที่ ม.ยังไม่ตั้งวิทยาเขตใหม่ (พื้นที่เขตขามเรียง) ทุกปีที่มีกิจกรรมรับน้องใหม่ นิสิตทุกคนก็จะมาบอกกล่าว เพื่อให้กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปด้วยดี นอกจากนี้เวลามีกิจกรรมต่างๆ ที่ทาง ม.จัดขึ้น หรือต้องเดินทางไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดก็จะต้องแวะเวียนมาขอพรที่นี่
ขอบคุณที่มา ASTV, npzmoon.com,zubzip.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น