พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2555-2556 (รุ่นที่39) ระหว่างวันที่ 3-7 มีนาคม 2557 ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช | |||
โอกาสนี้ สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่างๆ ที่มีความรู้ความสามารถ และได้เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคมส่วนรวม รวมทั้งได้สร้างสรรค์ ผลงานต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนและสังคมไทยต่อไป ในจำนวนผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งนี้ หลายท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกาและนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)ได้รับปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ,นายวิชัย วลาพล ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสื่อสารมวลชน , นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์,นายวินัย พันธุรักษ์ ศิลปินเพลงชื่อดัง ได้รับปริญญาศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาดนตรีไทยสมัยนิยม ,นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และอดีตกรรมการ สภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของม.ร.และนายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีหลายกระทรวงได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์เป็นต้น นอกจากนี้ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังได้อนุมัติปริญญานิติศาสตรบัณฑิต กิตติมศักดิ์ แก่ 5 นายตำรวจ EOD ชุดปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดและทำลายระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาสด้วยความเสียสละและอุทิศตนเพื่อความสงบสุขในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร , ร.ต.ท.ทวี ขุนทอง , ด.ต.สถาพร เสือชาวนา ,ด.ต.พงศ์ชาญ สูตถิพันธุ์ และด.ต.ประพันธ์ พุมนวล | |||
“42 ปีที่รามคำแหงก่อตั้งขึ้นมา เป็นที่ประจักษ์ว่าสถาบันแห่งนี้เป็นที่พึ่งของลูกหลานคนไทย เป็นเสาเอกของสถาบันการศึกษาในประเทศไทย และเป็นเสาเอกในการสร้างความรู้คู่คุณธรรมให้บัณฑิตทุกคนมีความมั่นคงในชีวิต เมื่อบัณฑิตสำเร็จการศึกษาไปแล้ว ขอให้ช่วยกันรักษาชื่อเสียงและเผยแพร่เกียรติคุณของรามคำแหงออกไปให้กว้างขวางให้สังคมรับรู้ว่า รามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสทางการศึกษาเหมือนเช่นบัณฑิตที่จบไปทุกรุ่นล้วนออกไปสร้างคุณงามความดี สร้างเกียรติคุณและดูแลเสาเอกทางการศึกษาแห่งนี้ให้มีความมั่นคงและคงความเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชาได้ตลอดมา ฉะนั้นแล้วเมื่อบัณฑิตสำเร็จออกไปแล้วขอให้ทำตนให้เป็นประโยชน์ ช่วยกันหยิบยื่นโอกาส เหมือนที่ตนเองเคยได้รับให้แก่ผู้อื่น รามคำแหงนั้นสร้างความคิด สร้างชีวิตที่มีคุณภาพให้แก่ทุกคน จึงหวังว่าทุกท่านที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วจะช่วยกันสร้างชื่อเสียงเกียรติคุณต่อไป ท้ายที่สุดนี้ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งชีวิต ส่วนตัว ครอบครัว การทำงานรวมถึงการออกไปรับใช้สังคมด้วยความสุจริต มีหลักการในการตัดสินใจ มีสติพิจารณาตนเอง ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ครองตน อยู่ในคุณธรรม และดำรงตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขในชีวิตและการดำรงอยู่ในสังคม" | |||
“ผมตัดสินใจมาเรียนที่รามคำแหง เพราะรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้คนที่อยากเรียนได้มีโอกาสเรียนตามที่ต้องการ ด้วยค่าเทอม ที่ไม่แพง และทุกคนสามารถค้นหาตนเองได้จากที่นี่ ทำให้เราได้เจออาจารย์ ที่ดีให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ ได้เจอรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนๆที่เป็นมิตรกัน แม้ไม่เคยเจอกันมาก่อน ก็ได้มารู้จักกัน เป็นเพื่อนกันที่รามคำแหง รวมถึงความรู้ที่ได้รับก็สามารถนำไปต่อยอดในการทำงานได้ด้วย” นอกจากนั้นรามคำแหงยังสอนให้เรามีความรับผิดชอบต่อตนเองรับผิดชอบต่อการเรียน ซึ่งนำมาสู่การรับผิดชอบต่องานที่ทำวันนี้ผมเรียนจบแล้ว ตั้งใจจะทำงานสั่งสมประสบการณ์ไปก่อน และถ้ามีโอกาสก็จะเรียนต่อในสาขาที่สนใจ อยากให้ทุกคนมีความพยายาม ไม่ท้อถอย ไม่ว่าใครก็ตามถ้ามีความพยายาม มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจก็สามารถประสบความสำเร็จได้ | |||
“ขอฝากถึงน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลายคนที่รู้สึกเหนื่อยสอบไม่ผ่านสักที วิชานี้ลงเเล้วลงอีก อยากจะเป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยทุกคน อยากให้เอาใจใส่กับมันมากขึ้น ให้เวลากับมันมากขึ้น" | |||
“การเรียนระบบ Pre-degree เป็นวิชาเรียนที่เอื้อต่อการเรียนในชั้น ม.ปลาย โดยเฉพาะวิชาพื้นฐาน เช่นภาษาอังกฤษ เหมือนเป็นการทบทวนความรู้เก่า ให้แม่นมากขึ้น คำศัพท์ที่เรียนก็เคยเจอในข้อสอบที่รามฯ แค่กลับไปทบทวน นิดหน่อยก็สอบได้แล้ว องค์ความรู้ทุกอย่างที่เรียน สามารถนำไปใช้สอบได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการสอบไล่ที่โรงเรียน สอบตรง หรือแอดมิชชั่นด้วย” | |||
“รูปแบบการเรียนระบบ Pre-degree เป็นระบบการเรียนการสอนที่ดีมาก รุ่นพี่หลายคนที่ไม่รู้จักระบบนี้ต่างก็บอกว่า เสียดาย Pre-degree เปิดโอกาสให้ นักเรียน ม.ปลายได้สัมผัสการเรียนในระดับอุดมศึกษา ทำให้รู้จักลงทะเบียนเรียน จัดตารางเวลา อ่านหนังสือด้วยตนเองและมาสอบให้ผ่าน เป็นการท้าทาย ความสามารถของตัวเองอย่างหนึ่งว่าจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ พอจบออกมา แล้วก็ภูมิใจในตัวเองสิ่งที่หญิงได้รับจากการเรียน ระบบ Pre-degree อย่างแรก คือความรับผิดชอบ ต่อตนเอง รู้จักบริหารจัดการเวลาเพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนที่โรงเรียน เรียนที่รามฯ และการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งผลตอบแทนจากการมีความรับผิดชอบนี้เองที่ทำให้เราเรียนจบก่อนคนอื่น ทำให้หญิงสามารถนำวุฒิปริญญาตรีนี้ไปสมัครเรียนปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ ต่อด้วยทั้งที่ตอนนั้นเพิ่งจะอายุ 18 ปี” | |||
“ขอฝากข้อคิดไว้เตือนใจว่าThe Goal without a plan is just a wish เป้าหมายที่ปราศจากการวางแผนมันก็เป็นแค่ความปรารถนาเท่านั้น ดังนั้น ใครที่มีเป้าหมายอะไรอย่าลืมวางแผน และที่สำคัญต้องลงมือทำด้วย รับรองว่ามันจะต้องสำเร็จแน่นอน” | |||
Credit http://www.manager.co.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น