ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะมาคิดว่า ชีวิตคนเรานั้น
อนาคตเราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวของเราเอง
หลายคนร่ำรวย หลายคนยากจน หลายคนมีความสุข
หลายคนมีความทุกข์ ทำไมบางคนก้าวหน้า
ในขณะที่ บางคนย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน หรือแย่ลง
ส่วนหนึ่งมาจากกรรมคือสิ่งที่เขาหรือเธอสร้างมา
ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว กรรมหนักหรือกรรมเบา
...
.....
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มีผลสำคัญต่อชีวิตของคนแต่ละคนนั้น
คือการตัดสินใจ นั่นเอง เขาบอกว่าคนเรานั้น
นอกจากจะเก่ง จะคิด จะวางแผนเป็นแล้ว
ต้องตัดสินใจให้ถูกที่ ถูกเวลา กล้าตัดสินใจด้วย
....
เราจึงเห็นหลายคน ที่บ่นว่าอยากรวย อยากก้าวหน้า
ได้แต่คิด แต่ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าลงมือทำเสียที
ทั้งที่ความคิดหรือไอเดียของเขานั้น ยอดเยี่ยมทีเดียว
......
.......
คนที่จบบริหารธุรกิจหรือ MBA มาคงเคยเรียน
เรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจ ที่เรียกว่า แผนภูมิต้นไม้
หรือ Decision Tree ซึ่งบอกไว้ว่า เมื่อเราตัดสินใจในจุดหนึ่ง
จะส่งผลถึงจุดต่อๆไป เช่น ตัดสินใจลงทุน ก็จะมีกำไรหรือขาดทุน
เป็นต้น หรือตัดสินใจเลิกกิจการ ก็จะเกิดจุดต่อไป
คือขายทิ้งทั้งหมด หรือ ลดขนาดกิจการลงอย่างช้ำๆ เป็นต้น
.......
เส้นทางชีวิตของคนเรา ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องครอบครัว ความรัก
การเงิน ความก้าวหน้า หรืออะไรก็ตาม จึงเปรียบเสมือน
การเดินทางที่ยาวไกลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง มากมายหลายล้านจุด
แต่ในจำนวนจุดบนเส้นทางชีวิตของคนเรานั้น
จะมีทั้งจุดที่เราต้องตัดสินใจ และจุดที่เราเป็นไปตามการตัดสินใจนั้น
จุดตัดสินใจนั้น เราสามารถเลือกได้ คิดได้
ส่วนจุดที่เป็นไปตามผลแห่งการตัดสินใจ หรือ เหตุการณ์นั้น เราเลือกไม่ได้
เมื่อเกิดขึ้นแล้ว หากเป็นด้านบวก เราก็มีสุข หากเป็นด้านลบ เราก็มีทุกข์
....
ในจุดตัดสินใจต่างๆมากมายในชีวิตของคนเรานั้น
จะมีบางจุดเท่านั้นที่เป็นจุดตัดสินใจใหญ่ๆ
.
ที่ส่งผลอย่างมากต่อเส้นทางชีวิตของเรา
เช่น ตัดสินใจทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น ตัดสินใจทำธุรกิจส่วนตัว
ตัดสินใจแต่งงาน ตัดสินใจซื้อบ้าน ซื้อรถ ตัดสินใจออกจากงาน เป็นต้น
จุดตัดสินใจเหล่านี้ มีผลต่อชีวิตในอนาคตของเรา
ทำให้เราก้าวหน้า หรือล้มเหลว มีความสุข หรือ มีความทุกข์ได้
ขึ้นอยู่กับว่า ในขณะที่เราอยู่บนจุดตัดสินใจนั้น
เรามีความพร้อม เรามีความมุ่งมั่น หรือเรามีทัศนคติอย่างไร
....
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากจะออกมาทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจเอง
คิดมานานหลายปีก้อไม่กล้าตัดสินใจเสียที บอกแต่ว่าไม่พร้อม
ถึงจุดหนึ่ง คุณบอกว่าเอาล่ะ ผมจะออกจากงานมาทำเองแล้ว
จุดต่อไปในชีวิตของเขาอาจเป็นได้ตามแผนภูมิข้างล่างนี้
.......
......
จะเห็นได้ว่า เขาอาจจะไม่ได้ทำธุรกิจเพราะเขายังไม่พร้อม
..
สุดท้ายก็ตกงาน อาจต้องไปประกอบอาชีพที่ไม่สุจริตก็ได้
หรือเขาอาจมีความพร้อมเป็นอย่างดี ทำธุรกิจแล้วก้าวหน้า
นั่นเพราะก่อนที่จะถึงจุดตัดสินใจ เขาคิดและวางแผน มุ่งมั่นมาอย่างดี
หรือเขาอาจทำทุกอย่างดีแล้ว แต่จังหวะไม่ดี
ทำให้ธุรกิจไปไม่รอด ปิดกิจการ มีหลายคนครับที่ร่ำรวยขึ้นมาได้
แต่ไม่ใช่จากธุรกิจแรกหรือสินค้าชิ้นแรก เขาต้องผ่านปัญหา
ผ่านอุปสรรคมามากมายจึงจะประสบความสำเร็จได้
หรือออกจากงานมาแล้ว เพราะไม่พอใจที่ทำงานเก่า
เอาแต่บ่นเรื่องปัญหาและอุปสรรคสารพัดสารพัน
สุดท้ายก้อหางานใหม่ แต่ได้งานใหม่แล้ว
ก็ทำงานเหมือนเดิม ปัญหามีเหมือนเดิม ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน
ใช้ชีวิตทำงานไปวันวัน มีงานก็ทำงาน งานเสร็จก็กลับบ้าน
.....
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรบอกหรือวัดได้ว่า
แบบไหนดีกว่ากัน บางคนบอกว่า คนที่ร่ำรวยไม่ได้มีความสุขเสมอไป
แค่รู้จักพอเพียง เพียงพอก็พอแล้ว ก็มีความสุขแล้ว
บางคนขอให้ทำงานมีเงินได้เลี้ยงดูครอบครัวให้มีความสุข
ไม่ต้องร่ำรวยมากแต่ก้อไม่มีหนี้สินก็เพียงพอแล้ว
ได้ทั้งหมดครับ เพราะชีวิตของคนเรามีหลากหลายล้านล้านรูปแบบ
ขึ้นอยู่กับเส้นทางชีวิตของแต่ละคน เพียงแต่อยากจะบอกว่า
ขอให้เราทำความดี ละเว้นความชั่ว พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
และตัดสินใจเมื่อต้องตัดสินใจในแต่ละจุด คิดให้ดี
เมื่อคิดดีแล้วก็กล้าที่จะตัดสินใจ กล้าลงมือทำ
และเมื่อทำไปแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องยอมรับ
ทำสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เราก็ได้ความสุข ความสำเร็จ
ทำไม่สำเร็จตามเป้าหมาย เราก็ได้ประสบการณ์ ครั้งต่อไปก็ง่ายขึ้น
แย่ที่สุด คือล้มเหลวไม่เป็นท่า เราก็ได้บทเรียน ไม่ทำแบบนี้อีก
เพื่อให้เราสามารถยืนหยัดและเข้มแข้งขึ้นในจุดตัดสินใจครั้งต่อไป
.....
หวังว่า บทความที่ผมเขียนขึ้นนี้ จะเป็นกำลังใจให้ทุกคน
รวมทั้งตัวผมเองและครอบครัว ในการต่อสู้ชีวิตกันต่อไป
อย่างสนุกสนานและมีความสุขนะครับ
เพราะ ชีวิต คือ ชีวิต เมื่อมีเข้ามา ก็มีเลิกไป นั่นเอง ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น