วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับการทำข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์


ทันตแพทย์สม สุจีรา  www.Tutorsom.com
บทความก่อนหน้านี้  วิเคราะห์คะแนนวิชาเฉพาะแพทย์  http://www.unigang.com/Article/8411
แนวข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ http://www.unigang.com/Article/8083
เรียนแพทย์ดีอย่างไรตอนที่ 2 http://unigang.com/Article/7807
เรียนแพทย์ดีอย่างไรตอนที่ 1 http://www.unigang.com/Article/7771
          มีข่าวออกมาว่า ข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแนวไปจากเดิม  ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า ข้อสอบจะเป็นอย่างไร เพราะถูกเก็บไว้เป็นความลับสุดยอด
         จากสถิติปีก่อนๆ คะแนนสอบเข้าแพทย์เฉือนกันที่ทศนิยม  หลายๆคนแพ้เพียงนิดเดียว ก็สอบไม่ติดแพทย์ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะหมายถึงวิถีชีวิตทั้งชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล คะแนนของวิชาเฉพาะแพทย์จึงสำคัญ เพราะมีค่าน้ำหนักถึง 30ใน 100คะแนนของการสอบเข้า  ดังนั้นไม่ว่าออกสอบจะออกอย่างไร  น้องควรมีเทคนิคการทำข้อสอบวิชานี้ไว้ให้อุ่นใจ
        คำว่า DOCTOR  สื่อให้เห็นคุณสมบัติของแพทย์ 6ประการตามตัวอักษรคือ  D=Decision การตัดสินใจ                 O=Optimism มองโลกในแง่ดี  C=Care ดูแล เสียสละ   T=Teacher สอนเป็น    O=Observation ช่างสังเกต                    R=Responsibility มีความรับผิดชอบ   ไม่ว่าข้อสอบจะเป็นแบบใด  จะต้องมีการทดสอบคุณสมบัติเหล่านี้ของนักเรียน
       คำตอบในวิชาเฉพาะแพทย์ ไม่เฉพาะเจาะจงเหมือนคำตอบในวิชาคณิตศาสตร์  ฟิสิกส์ หรือ เคมี  แต่จะมีเพียงตัวเลือกเดียวที่คะแนนสูงที่สุด  น้องต้องเลือกตัวเลือกนั้น โดยวิเคราะห์ตามคุณสมบัติ 6ประการ  เช่น คำถามที่ว่า “ท่านคิดอย่างไรกับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค”  ก.เป็นผลงานรัฐบาลเก่า ไม่ควรสนับสนุน  ข.เป็นโครงการที่หมอทำงานหนักขึ้น    . เป็นโครงการที่หลักการดี    ง.ไม่ควรทำเพราะซ้ำซ้อนกับระบบประกันสังคม  จ.เป็นโครงการที่ทำให้หมอลาออกจำนวนมาก   โจทย์ข้อนี้ต้องการวัด Optimismดังนั้นถ้านักเรียนตอบข้อ ก. ข. หรือ จ. แสดงให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ร้าย จะไม่ได้คะแนน
        อีกตัวอย่าง  นางกุ้งกลับจากสัมมนาพร้อมนางก้อย  ปรากฏว่าระหว่างทางนางก้อยขับรถชนคนแก่ โดยที่ไม่มีใครเห็น แล้วจะหนี  ถ้าคุณเป็นนางกุ้งจะทำอย่างไร  ก. แจ้งความแล้วบอกว่าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด   ข. บอกให้ก้อยมอบตัว  
ค.โทรบอกแม่ก้อย แล้วให้แม่ตัดสินใจ         ง. ขอลงจากรถไปช่วยคนแก่ก่อน   จ.เก็บไว้เป็นความลับ รู้กันแค่สองคน ข้อนี้ต้องตอบข้อ ง.  เป็นการวัดคุณสมบัติ CARE

        ส่วนคำถามที่วัดความรับผิดชอบ ต้องระวังอยู่อย่างหนึ่ง คือ ความรับผิดชอบของแพทย์ไม่ได้ครอบจักรวาล  ดังนั้นใครที่คิดว่าตอบแบบพระเวสสันดร จะได้คะแนนสูง เป็นความเข้าใจที่ผิด  เช่น โจทย์ถามว่า เมื่อมีวัยรุ่นท้องนอกสมรสมาขอทำแท้งกับท่าน  ท่านควรทำเช่นไร    ก.นัดพ่อแม่ของเด็กมาคุยเพื่อช่วยกันวิเคราะห์หาทางออก   ข.เรียกแฟนของวัยรุ่นคนนั้นมาแล้วโน้มน้าวให้แสดงความรับผิดชอบ   .บอกเด็กว่าอย่าทำแท้ง หมอจะช่วยดูแลและหาสถานรับเลี้ยงเด็กให้   ง.ไม่ทำแท้งให้ และส่งให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ดูแลต่อ   จ. แนะนำให้ไปสถานที่คุมกำเนิดของเอกชนแทน   คำตอบ ข้อ ก. ข. และ ค. อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของหมอ ดังนั้น ข้อที่เหมาะสมที่สุดคือ ข้อ ง.  ซึ่งหลายคนอาจตอบข้อ ก. ข. หรือ ค.  แต่ความจริงแล้วข้อเหล่านั้นคะแนนไม่สูง  ( วิธีการให้คะแนนของวิชาเฉพาะแพทย์ก็ถูกเก็บเป็นความลับเช่นกัน แต่เข้าใจว่า ตอบได้เพียงข้อละตัวเลือก แต่ละตัวเลือกจะมีคะแนนต่างๆกันไป รวมทั้งมีคะแนนติดลบด้วย)
           ข้อสอบปีที่ผ่านมา ออกแบบวัด Decision และ Observation  โดยให้กรณีตัวอย่างมายาวมากประมาณเกือบหนึ่งหน้ากระดาษ แล้วให้วิเคราะห์สถานการณ์นั้น   ส่วนคุณสมบัติด้าน  Teacher  มักจะออกในรูปของการวิเคราะห์ทัก๋ษะทำงานกลุ่ม  การเป็นผู้นำกลุ่ม  เพราะแพทย์ต้องทำงานเป็นทีม และต้องสอนบุคลากรที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา
           คำถามที่วัด การมองโลกในแง่ดี  จะรวมไปถึงการควบคุมอารมณ์ด้วย   แพทย์ที่มองโลกในแง่ดีจะไม่มีอารมณ์ ดังนั้น คำตอบที่แสดงออกถึงความมีอารมณ์จะไม่ใช่คำตอบที่ถูก เช่น   ประโยคใดน่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ฟังมากที่สุด  ก.มัวโอ้เอ้ เดี๋ยวก็ตกรถกันหมดหรอก    ข.เร็วๆหน่อยสิทำอะไรช้าจัง    ค.ใครๆเขารออยู่ รู้ไหม   ง.ช้านัก เดี๋ยวปล่อยให้อยู่ที่นี่ซะเลย  จ. เร็วเข้าเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรถออก   คำตอบที่ไม่มีอารมณ์คือข้อ จ.
             มีคุณสมบัติของแพทย์อีกมากมาย ที่สามารถนำมาออกเป็นข้อสอบได้ ไม่ใช่เฉพาะตัวย่อจาก DOCTOR  ซึ่งถ้าน้องๆมีคุณสมบัติตรงตามที่ กสพท.ต้องการ  ก็จะได้คะแนน  ข้อสอบวิชานี้ถูกจัดทำขึ้นตามหลักจิตวิทยาชั้นสูงโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  ดังนั้น อย่าคิดว่าจะหลอกข้อสอบได้  ในทางกลับกันต้องระวังถูกข้อสอบหลอกถาม  แต่อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นโชคดีของนักเรียนรุ่นปัจจุบัน ที่มีวิชาเฉพาะแพทย์  เพราะทำให้นักเรียนที่เรียนเก่งไม่มาก สามารถสอบเข้าแพทย์ได้ง่ายขึ้น นั่นเพราะความเป็นคนดีสำคัญกว่าความเป็นคนเก่ง  แพทย์ที่ดีแต่ไม่เก่ง จะสามารถพัฒนาตนเองจนกลายเป็นคนเก่งได้ในอนาคต  แต่แพทย์ที่เป็นคนเก่งแต่ไม่ดี  โอกาสที่จะพัฒนาจิตใจให้กลายเป็นคนดี จะยากกว่ามาก

ไม่มีความคิดเห็น: