วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

อย่าทำอย่างนี้....ที่ญี่ปุ่น



อย่าทำอย่างนี้....ที่ญี่ปุ่น


สงกรานต์ที่ผ่านมา เห็นมีหลายคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ บางคนโชคดีได้เห็นซากุระ เก็บภาพมาฝากกันก็มี น่ารักจริงๆค่ะ :-) หลายคนบอกอยากกลับไปเที่ยวอีก หลายคนแอบเมสเสจมาบอกว่า หนูอยากลองใช้ชีวิตที่โน่นดู ชีวิตที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงคะ ในฐานะผู้ที่ผ่านการใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นมาเกือบ 10 ปี กว่าจะเรียนรู้การใช้ชีวิต ต้องผ่านหยาดเหงื่อและรอยน้ำตามามาก กระซิกๆ 

ในฐานะรุ่นพี่ในการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ (ที่ไร้สาระมากๆ) มาเตือนท่านผู้อ่านกันค่ะ เวลาไปอยู่ญี่ปุ่น เราต้องระวังอะไรบ้างนะ?




อย่า (เสล่อ) โบกรถเมล์ 
เพราะคุณจะดูเหมือนกะเหรี่ยงที่พยายามโบกให้รถไฟฟ้า BTS จอด...
รถเมล์ญี่ปุ่นน่ารักเรียบร้อยเหมือนคนญี่ปุ่นเลย ตรงเวลามาก ที่ป้ายรถเมล์จะมีตารางเวลาบอกว่า รถเมล์คันไหนจะมากี่โมง กี่นาที คนขับจะจอดทุกป้าย ป้ายไหนไม่มีคนยืนรอก็ยังจอด (เพื่อรักษาเวลา จะได้ไม่ไปถึงป้ายหน้าก่อนเวลาที่กำหนด) กะเหรี่ยงไทย (อย่างเดี๊ยน) เวลาอยู่ญี่ปุ่นใหม่ๆ ชอบโบกรถเมล์ กลัวเหลือเกินว่าคนขับจะไม่จอด จะแซงป้าย อยู่ไปนานๆ ถึงค่อยรู้ว่า แค่ ยืนเฉยๆ หรือ สบตาคนขับ นิดหน่อยก็พอแล้ว

อิฮั้นอยู่ญี่ปุ่นมาเกือบสิบปี ยังไม่เคยเห็นรถเมล์ขับแข่งกัน ขับเลยป้าย ขับซิ่ง ขับลากคนไปนอนใต้ท้องรถเลย ท่านผู้อ่านหลายคนคงอิจฉา อยากให้ขสมก. บ้านเราเอาอย่างขสมญ. บ้าง (ขนส่งมวลชนแห่งญี่ปุ่น—คิดเองนะ)


อย่าคุยกันในห้องน้ำ (Credit คุณ Pukku) 
เพราะคนญี่ปุ่นจะตกใจ...
คนไทยโดยเฉพาะสาวๆ มักจะรักการพูดคุยจำนรรจา สาวไทยเม้าท์มอยกันได้แม้กระทั่งอยู่ในห้องน้ำ ต่างคนต่างปฏิบัติภารกิจคนละห้อง แต่เราก็ยังคุยไปปลดปล่อยพลังไปได้ ถ้ากำแพงห้องน้ำสูงหน่อยก็ตะโกนคุยกัน พฤติกรรมที่ว่ามานี้ อย่าไปทำที่ญี่ปุ่นเชียว สาวญี่ปุ่นเขาได้ยินแล้วเขาจะตกใจค่ะ เพราะ 1. มันเป็นภาษาต่างประเทศ เดินเข้ามาในห้องน้ำปุ๊บ จู่ๆ ได้ยินเสียงโหวกเหวกเป็นภาษาต่างชาติ เดี๋ยวเค้านึกว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติอะไร 2. เพราะคนญี่ปุ่นเขาไม่คุยกัน นัยว่า...มันไม่ง้ามไม่งามค่ะ ห้องน้ำที่ญี่ปุ่นจะเงียบมาก ถือเป็นสถานที่ส่วนตัว ต่างคนต่างล้างมือ แต่งหน้า ทาปาก ก็ทำกันไปเงียบๆ ไม่ยุ่งกับใคร ไม่คุยกับใคร จะวิพากษ์วิจารณ์เสื้อผ้าหน้าผมก็ค่อยออกไปคุยกันข้างนอก


อย่าทิ้งของกินที่หมดอายุแล้วทันที 
เพราะมันยังกินต่อได้อีกหลายวัน...
ที่ญี่ปุ่น จะมีคำว่า ???? (โช-ฮิ-คิ-เก็ง) กับ ???? (โช-มิ-คิ-เก็ง) ตัวแรกแปลว่า “วันหมดอายุ” ตัวที่สองแปลว่า “วันหมดอายุที่อาหารอร่อย” (แปลอุบาทว์อีกแล้ว) วันหมดอายุคือ วันที่ของนั้นจะเสีย กินไม่ได้แล้ว ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เซ้นสิทีฟกับสุขภาพและสาธารณสุขของประชาชน มาก วันหมดอายุมักกำหนดล่วงหน้าก่อนวันหมดอายุจริงประมาณ 2 – 3 วัน เพราะฉะนั้น เต้าหู้เอย นมสดเอย แม้จะหมดอายุแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถทานได้ต่ออีกประมาณ 3 – 4 วันอย่างสบายๆ

ส่วน “โช-มิ-คิ-เก็ง” คือ วันสุดท้ายที่อาหารนั้นจะคงสภาพความสดและอร่อยอยู่ เช่น ถ้าห่อขนมติดว่า โช-มิ-คิ-เก็ง คือวันที่ 1 พฤษภาคม แปลว่า ขนมนั้นจะรสชาติดีจนถึงวันที่ 1 พ.ค. ถ้าเลยจากนั้น คุณยังทานได้ แต่เตือนก่อนว่าจะไม่อร่อยเท่าเดิมแล้วนะ (น่ารักเนอะ) เพราะฉะนั้น สินค้าแบบนี้ แม้จะเลยวันหมดอายุอร่อยแล้ว แต่เรายังกินต่อได้อีกเป็นอาทิตย์ค่ะ
หมายเหตุ: หากมีเหตุผิดพลาดประการใด ผู้เขียนบทความนี้ไม่ขอรับผิดชอบสุขภาพผู้อ่านใดๆ ทั้งสิ้น ;-)


อย่าซื้อไข่สีเนื้อ 
เพราะมันแพง...
ทราบไหมคะ ที่ญี่ปุ่น ไข่ไก่จะมีสองสี คือสีขาวกับสีเนื้อ ไก่ที่มีขนสีขาวจะไข่เป็นสีขาว ไก่ที่มีขนสีน้ำตาลจะไข่เป็นสีน้ำตาล ไม่ทราบทำไม แต่ราคาของไข่สีน้ำตาลจะแพงกว่าไข่สีขาว (ประมาณ 20%)

ตอนแรกที่เกตุวดีไปอยู่ญี่ปุ่น ก็ซื้อแต่ไข่สีเนื้อนี่แหละค่ะ เพราะนึกว่าไข่สีขาวมันคือไข่เป็ด จนรุ่นพี่มาบอกว่า เฮ้ย ทำไมไม่ซื้อไข่สีขาว ไข่ไก่เหมือนกัน ถูกกว่ากันด้วย


อย่าขึ้นรถไฟ JR (ถ้าเลือกได้) 
เพราะมันแพงกว่า...
รถไฟ JR ย่อมาจาก Japanese Railways เป็นรถไฟที่เชื่อมทุกจังหวัดในญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวที่ใดก็ตาม คุณจะเห็นตรา JR แปะอยู่บนรถไฟทุกที่

ถ้าคุณต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล (ดูง่ายๆ คือ นั่งรถไฟเกิน 30 นาที) และถ้ามีรถไฟท้องถิ่นสายอื่นวิ่งด้วย อย่านั่ง JR เพราะราคามักจะแพงกว่า เช่น ดิฉันเคยอยู่เมืองโกเบ ถ้านั่งรถไฟจากเมืองโกเบไปโอซาก้า ค่ารถไฟสาย Hanshin (ท้องถิ่น) ราคา 280 เยน ถ้านั่งสาย Hankyu (ท้องถิ่นอีกสาย) ราคา 310 เยน แต่ถ้านั่ง JR ราคามันพุ่งไปที่เกือบๆ 400 เยน (แม้มันจะเร็วกว่าเล็กน้อยก็ตาม) กะเหรี่ยงอย่างเรา เบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัดกันค่ะ


อย่ารีบรับทิชชู่ที่เขาแจกฟรี 
เพราะอาจมี โฆษณา XX แฝงได้...
เมืองไทยแจกใบปลิว ญี่ปุ่นแจกทิชชู่ ด้านหลังมักจะเป็นโฆษณาห้างร้านบริการต่างๆ คนแจกมักยืนแจกตามสี่แยกหรือสถานีรถไฟใหญ่ๆ ที่คนพลุกพล่าน ชาวกะเหรี่ยงไทยจะลิงโลดมากที่ได้ทิชชู่ห่อดีๆ ใช้ฟรีๆ หลายคนเดินไปกลับหลายรอบเพื่อรับทิชชู่

แต่... อย่าให้ความโลภบังตาค่ะ ระวังให้ดี ถ้าคนแจกเป็นผู้ชายดูเฟี้ยวๆ เฮ้วๆ ผมตั้งๆ เจาะหู เจาะจมูก ตัวผอมๆ ระวังทิชชู่ที่เขาแจกให้ดี โฆษณาที่เขาแจกอาจเป็นโฆษณาที่ชวนคุณไปทำงานลึกลับ ไปทำงานเอ๊กซ์ๆ เป็นรูปประหลาดๆ ก็มีค่ะ คุณอ่านไม่ออกน่ะ ไม่เป็นไร แต่เวลาคุณดึงมาใช้ คนญี่ปุ่นเขาเห็นแล้วเขาจะตกใจเอาค่ะ


อย่าดีใจถ้ามีหนุ่มหล่อมาทัก 
เพราะเขาอาจเป็น Host…
Host ในที่นี้ ไม่ใช่ Host Family แต่หมายถึง Host ที่แปลว่า ผู้ชายชวนนั่งกินนั่งดริ๊งก์ คอยคุยและดื่มเป็นเพื่อนหญิงสาวเพื่อให้หล่อนคลายเครียดหรือรู้สึกสนุก

โฮสท์เป็นสัตว์...เอ้ย มนุษย์กลางคืน มักปรากฏตัวตามสถานีหลัง 3 – 4 ทุ่มเป็นต้นไป ลักษณะโฮสท์จะสังเกตได้ง่ายมาก คือ ไว้ผมยาวๆ ปลายเป็ดนิดๆ ทำผมฟูๆ ให้หัวดูทุยๆ เล็กน้อย กันคิ้ว ใส่สูทหรือโค้ทยาวๆ หน้าตาไม่ได้ดีมากแต่ดู Self จัดๆ นั่นแหละค่ะโฮสท์ ดูง่ายกว่าดูยากูซ่าเสียอีก

ถ้าเขาเหล่านั้นเข้ามาทักคุณหรือชมว่าคุณน่ารัก อย่ามัวแต่ปลื้มนะคะ เพราะถ้าคุณเคลิบเคลิ้มตามอีโฮสท์ไปดริ๊งก์ต่อที่ร้าน ค็อกเทลแก้วเดียวอาจราคาเป็นพันบาท แถมคุณยังต้องเลี้ยงมันอีกด้วย


อย่าเปิดประตูรับ NHK 
เพราะคุณต้องเสียตังค์...
NHK เป็นสถานีโทรทัศน์ชื่อดังในญี่ปุ่น ผลิตรายการเพื่อการศึกษา สารคดี หนังละครดีๆ เยอะแยะมากมาย รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเจ้าของและควบคุม แต่ดันเรียกร้องจะเก็บค่ารับสัญญาณเดือนละ 2 พันกว่าเยน คนญี่ปุ่นแอนตี้มาก เพราะถือว่ารัฐบาลจัดการ เราก็จ่ายภาษีให้แล้ว ทำไมยังต้องเรี่ยไรเงินเพิ่มอีก

NHK ไม่ยอมแพ้ค่ะ ส่งพนักงานเดินเคาะประตูตามบ้าน บ้านใครจ่ายตังค์แล้วก็จะติดสติ๊กเกอร์ให้ แต่ถ้ายังไม่จ่าย... ก็ไม่ผิดกฎหมายอะไร (อ้าว...) ขนาดคนญี่ปุ่นยังไม่ยอมจ่ายเลย นักเรียนต่างชาติหรือกะเหรี่ยงบ่จี๊อย่างเรา ก็มักชิ่งการจ่าย NHK ทุกครั้งค่ะ

เมื่อได้ยินเสียงกดออด ส่องดูทุกครั้งนะคะว่ามีคนใส่สูทหรือชุดดูฟอร์ม่อลๆ หรือติดบัตร NHK หรือเปล่า ถ้าใช่ อย่าเปิดประตูไปเชียว เดี๋ยวเขาจะตื๊อให้คุณจ่ายโดยไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

ถ้าคุณบังเอิ๊ญบังเอิญเปิดประตูด้วยความประมาท แล้วต้องประมือกับพนักงาน NHK เข้า คุณอาจใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้ค่ะ
1. บอกว่าหนูเพิ่งย้ายมาใหม่ ในห้องไม่มีทีวี เพราะฉะนั้น เราดู NHK ไม่ได้
2. ทำเป็นฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง พูดภาษาไทยหรืออังกฤษหรืออะไรก็ได้ใส่ แล้วรีบปิดประตูทันที

มีพี่คนไทยคนหนึ่งเด็ดมาก จริงๆ เธอเป็นนักเรียน แต่พอเจอพนักงาน NHK เธอบอกว่า “โอ๊ตโตะ ไคฉะๆ นิฮงโก๊ะ วาคาราไน่” แปลว่า “สามี บริษัทๆ เดี๊ยนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น” แล้วทำท่าตกใจลนลาน พนักงาน NHK ได้แต่ถอดใจล่าทัพกลับไป และเย็นวันนั้น เราชาวไทยก็ได้เฉลิมฉลอง สรรเสริญวีรกรรม และความสามารถในการเอาตัวรอดของพี่เขากัน ;-)
--------------------


ถามว่าการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น ต้องระวังอะไรบ้าง เกตุวดีก็ตอบได้ว่า 
1. ระวังและรักษาเวลานัด
2. รักษากฎระเบียบในสังคมอย่างเคร่งครัด เช่น แยกและทิ้งขยะให้เรียบร้อย
3. ใช้ภาษาสุภาพเวลาพูดคุยกับผู้ใหญ่
4. รู้จักเกรงใจ นอบน้อมถ่อมตน
บลา บลา บลา...

ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมด... คุณผู้อ่านสามารถหาอ่านจากคอลัมน์อื่นใน marumura หรือเว็บอื่นก็ได้ แต่วันนี้ เกตุวดีเลือกเรื่องที่คิดว่าคุณผู้อ่านส่วนใหญ่ยังไม่น่าจะรู้ มาเล่าสู่กันฟัง ทุกหัวข้อเป็นประสบการณ์ “จริง” ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง บางเรื่อง กว่าจะรู้ กว่าจะตาสว่าง ก็เสียเงิน เสียเวลา เสียหน้าไปเยอะ แม้ว่าข้อเตือนใจที่เล่ามาจะไร้สาระไปบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่อาจประสบและเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านที่กำลัง เตรียมตัวไปอยู่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอนค่ะ


เรื่องโดย : เกตุวดี www.marumura.com 
ภาพประกอบโดย : Choco 

ตั๋วไปไม่กลับ! บ.ดัตช์เปิดรับอาสาสมัคร “เรียลิตีโชว์” ใช้ชีวิตบนดาวอังคาร

       
      
      
       
      
      
       เอเอฟพี - บริษัทเนเธอร์แลนด์สร้างความฮือฮา ประกาศค้นหาอาสาสมัครเดินทางและไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร โดยมีข้อแม้ง่ายๆ คือจะไม่ได้กลับมายังโลกอีกเลย กระนั้นก็ยังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยล่าสุดมีผู้ยื่นสมัครแล้วราว 10,000 คนจากร้อยกว่าประเทศ
      
       คุณสมบัติหลักของผู้สมัคร คือ ต้องมีสุขภาพแข็งแรง เป็นคนดี และมีความสามารถด้านการอยู่รอด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และมีความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี

 
       บริษัท “มาร์ส วัน” วางโครงการที่จะออกอากาศผ่านรายการเรียลิตีโชว์ ด้วยการนำมนุษย์อวกาศ 4 คนแรกลงสู่ดาวดังคารในปี 2023 จากนั้นก็จะตามด้วยแพร่ภาพพฤติกรรมของมนุษย์กลุ่มแรกที่พยายามตั้งรกรากอยู่บนดาวดวงดังกล่าว
      
       นายบาส ลานสดอร์ป ผู้ก่อตั้งบริษัทมาร์ส วัน แถลงกับผู้สื่อข่าว ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในนิวยอร์กว่า ตอนนี้ทางบริษัทได้รับอีเมลแล้วราว 10,000 ฉบับจากผู้คนตามประเทศต่างๆ กว่า 100 ชาติที่สนใจเข้าร่วมภารกิจนี้

 
       ในภาพรวมของโครงการ ทางบริษัทฯ ต้องการผู้ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 24 คน ก่อนแบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยชุดแรกจะออกเดินทางในปี 2022 ขณะที่ในส่วนของต้นทุนนั้น เฉพาะภารกิจของชุดแรกก็ต้องใช้งบประมาณราวๆ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
      
       เมื่อถึงดาวอังคาร หน้าที่ของแต่ละคนคือขยายอาณานิคมของตัวเอง รวมถึงทำภารกิจในการสำรวจดาวอังคาร และทดลองทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ จากนั้นทุกๆ 2 ปี จะมีการส่งผู้เข้าแข่งขันรายใหม่ไปสมทบ จนกว่าการสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารจะเสร็จสมบูรณ์เป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้การเดินทางสู่ดาวอังคารแต่ละเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 7 เดือน

 
       “ฟังดูเหมือนจะเป็นเงินจำนวนมหาศาล และก็แน่นอนว่ามันเป็นจำนวนที่เยอะจริงๆ แต่ลองจินตนาการดูสิ อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์คนแรกลงสู่พื้นของดาวอังคาร ทุกคนบนโลกต้องอยากดูมันอย่างแน่นอน” ลานสดอร์ปกล่าว
      
       แม้โครงการดังกล่าวเรียกเสียงคลางแคลงใจต่างๆ นานา แต่ขณะเดียวกันมันก็ได้รับการสนับสนุนจาก เจอราร์ด ฮุฟท์ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยอูเทรคชท์
      
       อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของภาคกิจนี้คือ ผู้เข้าแข่งขันจะไม่สามารถกลับมายังโลกได้อีก แถมยังต้องพักอาศัยอยู่ในยานแคบๆ บนดาวที่แห้งแล้ง และแน่นอนว่าอาหารการกินก็คงจะขาดแคลน

 
       นอร์เบิร์ต คราฟต์ ผู้จัดการด้านการแพทย์ของมาร์ส วัน ระบุว่าคุณสมบัติสำคัญของผู้สมัครก็คือปรับตัวได้ดี ยืดหยุ่นสูง มีความคิดสร้างสรรค์และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น โดยสามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับบุคคลอื่นๆ ที่มาจากประเทศต่างๆได้
      
       มีคำถามต่างๆ นานาว่ามนุษย์อวกาศเหล่านั้นจะอยู่รอดได้อย่างไรท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันสาหัสสากรรจ์ ทั้งต้องหายใจหรือดื่มกินในอุณหภูมิที่ติดลบ 55 องศาเซลเซียส ขณะที่อากาศก็มีส่วนประกอบของคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนใหญ่ แต่ตัวแทนของบริษัทฯ ยืนยันว่าการติดตามภารกิจของเหล่าผู้เข้าแข่งขันจะอยู่ภายใต้หลักจริยธรรม
      
       อนึ่ง เหล่าหน่วยงานทางอวกาศต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลกเองก็เพิ่งจะประสบความสำเร็จส่งหุ่นยนต์ไร้คนขับไปอยู่บนดาวอังคารเมื่อไม่นานมานี้ หลังยานสำรวจคิวริออซิตี มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐของนาซา ลงแตะพื้นดาวดังกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคม 2012

มาทดสอบการอ่านกันหน่อย


ฝนตก ปรอย กรกนก คน ตลก ชวน ดวง กมล คน ผอม รอ 
ชม ภมร ดม ดอม ดอกขจร สอง คน ชอบ จอด รถ ตรง ตรอก
ยอม ทน อด นอน อด กรน  รอ ยล ภมร ดม ดอก หอม บน ขอน ตรง
คลอง มอญ ลม บน หวน สอบ จน ปอย ผม ปรก คอ สอง สมร สมพร
คนจร พบ สอง อรชร สมพร ปอง สอง สมร ยอม ลง คลอง ลอย คอ
มอง สอง อรชร มอง อก มอง คอ มอง ผม มอง จน สอง คน ฉงน
สมพร บอก ชวน สอง คน ถอน สมอ ลง ชล ลอง สอง หน สอง อรชร
ถอย หลบ สมพร วอน จน พล พรรค สด สวย หมด สน กรกนก
ชวน ดวง กมล ชง นม รอ ชม ภมร บน ดอน ตรง จอม ปลวก

รับตรงภาคพิเศษ ภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ 56


ภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เปิดรับสมัครนิสิตระดับปริญญาตรี โครงการภาคพิเศษ จำนวน 55 คน โดยมีกลุ่มสาขาวิชาที่เปิดสอนคือ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอ และกลุ่มสาขาเทคโนโลยีเครื่องนุ่งห่มและการจัดการสินค้าแฟชั่น
ยื่นใบสมัครด้วยตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 3-7 พ.ค. 2556 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เวลา 9.30-16.30น. ที่ภาควิชาวิทยาการสิ่งทอ คณะอุตสาหกรรมเกษตร อาคารอุตสาหกรรมเกษตร 3 ชั้น 2 และวันที่ 8-9 พ.ค. 2556 เวลา 9.30-16.30น. วันที่ 10 พ.ค. เวลา 9.30-12.00 น. ที่อาคารอุตสาหกรรมเกษตร 5 ชั้น 5
สอบสัมภาษณ์ในวันเดียวกับวันยื่นใบสมัคร (สำหรับผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์)
เอกสารประกอบการสมัคร
- ใบสมัคร (ดาวน์โหลดได้จาก website www.sbai.agro.ku.ac.th และ www.agro.ku.ac.th
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 1 ใบ (ติดใบสมัคร)
- สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนตั้งแต่ ม.4 – ม.6 (ปพ.1:4)
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ผลการสอบ GAT และ PAT (GAT รหัสวิชา 85, PAT รหัสวิชา 71, PAT2 รหัสวิชา 72) ตัวจริง
- ค่าสมัคร 500 บาท
ประกาศ!! สำหรับค่าลงทะเบียนเรียน ขอรับการสนับสนุนจากทุน กยศ. ได้!!
ติดต่อสอบถาม : 02-5625064 หรือ email: jantip.s@ku.ac.th

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ทายสิ? "คนไทย" กินบะหมี่กึ่งสำเร็จ อันดับเท่าไหร่ของโลก


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีวางขายมานาน 50 ปีแล้ว และยอดขายก็พุ่งสูงอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยจีนถือเป็นประเทศที่มีคนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด ตามมาด้วยอินโดนีเซียอันดับ 2 และญี่ปุ่น อันดับ 3 ในขณะที่ไทยอยู่ในอันดับ 8 ตามการเปิดเผยของสมาคมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโลกในญี่ปุ่น
 
ผลสำรวจนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นอาหารที่คนทั่วโลกขาดไม่ได้ไปแล้ว และคาดว่า ยอดขายจะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
 
และถ้าเทียบกันเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน จะเห็นว่า อินโดนีเซียนำมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ในฐานะ ชาติที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากสุดในอาเซียน ตามมาด้วย เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย  พม่า กัมพูชา และสิงคโปร์
 
เมื่อปีที่แล้ว มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายได้ทั่วโลกทะลุ 1 แสนล้านหน่วย ทั้งแบบซองและแบบถ้วย เนื่องจากเป็นอาหารที่ปรุงกินได้อย่างง่ายๆ จึงทำให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ผู้ที่คิดค้นอาหารประเภทนี้ขึ้นก็ คือ โมโมฟุกุ อันโดะ ผู้ก่อตั้งนิสชิน ฟู้ดส์ ผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลกในปัจจุบัน

ขอบคุณข่าวจาก สปริงส์นิวส์


__fwdDer.com__-185252915-ตีหมี่หรือบะหมี่หวาน.jpg

__fwdDer.com__-185252921-บะหมี่ผัดปู.jpg

__fwdDer.com__-185252924-บะหมี่พิซซ่า.jpg

__fwdDer.com__-185252925-บะหมี่หมูแดงห่อสาหร่าย.jpg

__fwdDer.com__-185252929-มาม่ากรอบผัดโหงวก้วย.jpg

__fwdDer.com__-185252933-มาม่ากันตาย.jpg

__fwdDer.com__-185252939-มาม่าไข่ตุ๋น.jpg

__fwdDer.com__-185252941-มาม่าซัง.jpg

__fwdDer.com__-185252946-แหวกม่านประเพณี_ศิราวี_สอนน้อง.jpg

__fwdDer.com__-185252949-มาม่าต้มยำกุ้ง.jpg

__fwdDer.com__-185252951-มาม่าติดเกาะ.jpg

__fwdDer.com__-185252955-มาม่าน้ำแดง.jpg

__fwdDer.com__-185252959-มาม่าสไปซี่ทูน่า.jpg

__fwdDer.com__-185252963-มาม่าห่อไข่.jpg

__fwdDer.com__-185252966-เมนูยำยำสาวเซ็กซี่ขี้เมา.jpg

__fwdDer.com__-185252967-เมี่ยงมะม่า.jpg

__fwdDer.com__-185252971-ลาบมาม่า.jpg

ทุนระดับปริญญาตรี จาก Nanyang Academy of Fine Arts (NAFA) สิงคโปร์


ทุนใจดีมากๆเรียนตรีอาร์ท จาก NAFAที่สิงคโปร์ ย้ำเกรด 1.5 ก็สมัครได้!!
รีบเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ แชร์เพื่อนด้วยนะคะ หมดเขต 24 พค. 

ชื่อทุนการศึกษา: NAFA Bursary (Degree)
สถาบัน: Nanyang Academy of Fine Arts (NAFA)
เกี่ยวกับทุนการศึกษา: This Bursary which aims at helping students cope with the cost of art education in Singapore. Over the years, NAFA received generous donation from various donors and supporters which helped realised the dream of many students to complete their studies at NAFA. Students who are financially needy (based on household income); minimum CGPA of 1.5 for NAFA Diploma graduates; or the equivalent for non-NAFA Diploma graduates.
วุฒิการศึกษา: Bachelors Degree
มูลค่าทุน: 1500
องค์ประกอบ: Tuition fees
จำนวนรางวัล: All eligible students
หลักเกณฑ์การสมัครขอทุน:
พื้นหลังของสมัคร:Not attached to any specific category
คุณสมบัติผู้สมัคร:All
วันสิ้นสุดการสมัครทุน: 24-May-13
รายละเอียดการสมัคร: Application of the above schemes is subject to other criteria which may be stipulated by the donor, e.g. nationality requirements, household income and tuition grant (TGD) eligibility. Application forms are obtainable from 04 March 2013 onwards at: Student Recruitment and Admissions (SRA) - For new degree applicants in AY2013/14; Office of Student Affairs - For existing degree applicants moving to 2nd Year of study in AY2013/14; NAFA corporate website; NAFA Student Net.
ตราสารหนี้: This scholarship does not include a bond
ติดต่อ: 
+65 6512 6132
studentaffairs@nafa.edu.sg
NAFA offers a range of financial award schemes namely Scholarships, Merit Awards and Bursaries which aims at helping students cope with the cost of art education in Singapore. Over the years, we received generous donation from various donors and supporters which helped realised the dream of many students to complete their studies at NAFA

In the coming academic year 2013/2014, we have the continued support from various donors and we are pleased to announce the commencement for the application of the following schemes:
SchemesQuantum of Award (Diploma)Quantum of Award (Degree)
ScholarshipsS$4,000 - Full waiver of Tuition FeesS$9.000 - Full waiver of Tuition Fees
Merit AwardsS$3,000 - S$4,000S$3,000 - S$4,000
BursariesS$1,000 - S$1,500S$1,500

Application period:

Diploma students in AY2013/14: The application for Diploma students is now closed. Please look out for the next application round in January 2014.

Degree students in AY2013/14: 04 March - 24 May 2013